"...เงินจำนวนนี้อาจดูเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ไม่เสมอไปสำหรับบางคน ? ค่าเทอม ค่าเช่าห้อง ค่ายารักษาโรค ค่าใช้จ่ายในชีวิตประวัน ค่าวาด ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ ดูจากรูปตามบัตรประชาชน ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่น่าจะใช่ของคนในซอย แขวนกระเป๋าสตางค์ใบนั้นไว้ที่กำแพงรั้วจุดเดิมอีกครั้ง คิดว่าจะทำอย่างไรดี ?..."
ผมเจอกระเป๋าสตางค์ !
อาจแปลกสักหน่อยตรงมันวางอยู่ใต้ประตูรั้วบ้าน
เช้าวันเสาร์สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจัดการธุระส่วนตัวเสร็จสรรพ เปิดประตูรั้วเพื่อเอาถุงขยะไปทิ้งที่ประจำมุมรั้วหน้าบ้าน พลันไขกุญแจประตูผลักออก เห็นกระเป๋าเล็กๆสีดำคล้ายกระเป๋าสตางค์มีสายคล้อง วางอยู่ติดกับพื้นปูนซีเมนต์ขอบประตูรั้ว สภาพค่อนสกปรก คลุกฝุ่น คิดว่าเป็นกระเป๋าสตางค์เก่าๆที่ถูกทิ้งจึงไม่ได้สนใจก้มลงหยิบขี้นมาดู ก้าวข้ามเอาถุงขยะใส่ในถัง หย่อนปุ๊บปิดฝา ถอยหลังเกือบเหยียบ เหลือบมองอย่างพินิจอีกครั้งตัดสินใจหยิบขึ้นมาดู ส่องจากด้านนอก ในช่องเสียบบัตรเห็นบัตรแข็งๆสีขาว 2-3 ใบ และในช่องกลางเห็นกระดาษแข็งๆคล้ายธนบัตร แต่ไม่ได้เปิดดู สงสัยทันทีนี่มันกระเป๋าสตางค์ใครหรือเปล่า แล้วมันมาวาง
อยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
หยิบกระเป๋าเล็ก ๆใบนั้นเดินเข้าบ้าน ห้อยไว้กับกำแพงรั้วด้านใน เผื่อใครมาสอบถาม จะได้คืนให้ คิดว่า “มันไม่ใช่ของเรา”
จนถึงสายแก่ ๆไม่มีใครมาถามหา สวมถุงมือถือวิสาสะเปิดดู เห็นบัตรประชาชน ระบุเพศชาย ภูมิลำเนาในจ.นนทบุรี บัตรอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ บัตรประจำตัวนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ในช่องใส่ธนบัตร มีเงินจำนวนหนึ่ง แบงก์พันล้วนๆ ไม่ได้เปิดช่องหลืบอื่น เพราะไม่อยากล่วงรู้ เผื่อมีข้อมูลส่วนตัวของใคร
หยิบธนบัตร ค่อยๆนับทีละใบ รวมแล้ว 16,000 บาทถ้วน!
เงินจำนวนนี้อาจดูเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ไม่เสมอไปสำหรับบางคน ?
ค่าเทอม ค่าเช่าห้อง ค่ายารักษาโรค ค่าใช้จ่ายในชีวิตประวัน ค่าวาด ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ
ดูจากรูปตามบัตรประชาชน ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่น่าจะใช่ของคนในซอย
แขวนกระเป๋าสตางค์ใบนั้นไว้ที่กำแพงรั้วจุดเดิมอีกครั้ง
คิดว่าจะทำอย่างไรดี ?
จะส่งคืนให้เจ้าของอย่างไร ? จะโทร.ไปสื่อสถานีวิทยุให้ช่วยตามหาก็ดูจะเป็นเรื่องวุ่นวาย (สำหรับตัวเอง) ง่ายและเงียบที่สุดไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแห่งที่ใกล้ที่สุดให้พวกพี่ตำรวจช่วยตามหา แม้จะต้องเสียเวลา เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับตัวเองก็ตาม
วิถีชีวิตปกติทำงานแม้เป็นวันหยุด แว่บกลับมาคิดและตั้งคำถามเดิมกับตัวเองอีกครั้ง มัน (กระเป๋าสตางค์) มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เจ้าของมาลืมทิ้งไว้ ? ก็คงไม่ใช่เพราะไม่เคยติดต่อ ผู้ไม่ประสงค์ดี? ไรเดอร์สั่งอาหารก็ไม่น่าใช่ เพราะไม่ใช่บริการ ถ้าเป็นของคนผ่านมาในซอยนี้มันก็ควรหล่นอยู่บนพื้นถนน มิใช่อยู่ริมประตูรั้ว ฯลฯ
อีกสมมติฐานหนึ่ง สุนัขจรจัด!
ความจริงในซอยที่บ้านมีหมาจรจัดฝูงเล็กๆประมาณ 5-6 ตัว อยู่กับเป็นครอบครัวคงประมาณ 3-4 เจนเนเรเชิ่น เริ่มจากเพศผู้ตัวเดียว ต่อมาพาแฟนมาอยู่ด้วย จากนั้นชวนพรรคพวก ปลูกต้นรัก แผลงศร ออกลูกหลานเป็นครอบครัวใหญ่ ตัวเล็กสุดตัวเดียวสีน้ำตาลอายุไม่กี่เดือน แสบหน่อย ปกติจะอาศัยอยู่ท้ายซอย ต่อมาก็ขยายอาณาเขตหากินมาถึงกลางซอย ปากซอย ตอนนี้ข้ามเขตไปอีกซอย กินอาหารจากบ้านโน้นบ้านนี้บ้าง ยอมรับว่าเคยเอาอาหารให้อยู่บ่อยๆ ช่วงตอนเช้าหรือไม่ก็ตอนค่ำ เหมือนจะรู้ มันจะวิ่งเข้ามากินอาหารที่กล่องวางไว้ตรงริมประตูรั้วเป็นประจำ คงไม่ถูกปาก ไม่กินเปล่า คาบกล่องออกไปด้วย
พฤติกรรมเห็นหน้ากันทุกวัน เกเรบ้าง บางครั้งจับกลุ่ม 3-4 ตัว วิ่งเล่น ขุดดินในกระถางต้นไม้ของเพื่อนบ้านที่ตั้งไว้ที่ริมรั้วนอกบ้านทำเสียหาย ถ่ายเลอะเทอะ เอือมระอา เจ้าของบ้าน 2 รายออกปากบ่นปนร้องเรียนกับผมว่าจะทำอย่างไรดี หมาฝูงนี้สร้างความเดือดร้อน มีคนชอบให้อาหาร (เขาคงไม่รู้ว่าผมก็ให้อาหารมันด้วย) มันก็เลยมาปักหลัก ไม่ไปไหน นับวันจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น ผมก็บอกว่า “น่าจะร้องไปที่เทศบาลสิครับ ผมเองก็เดือดร้อนกับพวกมันเหมือนกัน” คุณลุงเพื่อนบ้านตอบว่า เคยมีคนบ้านต้นซอยแจ้งไปแล้ว เจ้าหน้าที่เขาก็มาแค่ดูบอกว่ามีค่าใช้จ่าย เทศบาลไม่มีสถานที่กักกัน ถ้าไม่มีคนให้อาหารมันคงไปอยู่ที่อื่น ผมบอกแบบเห็นใจ “เดี๋ยวผมจะลองประสานดูให้”
ด้วยความเกรงใจเพื่อนบ้าน วันต่อๆมาผมก็งดให้อาหาร ผ่านไปสักระยะช่วงเย็นๆค่ำ ๆ เห็นสมาชิกบางตัวแวะเข้ามาดูที่กล่องใส่อาหาร พอเห็นว่าเป็นอาหารว่าง (ว่างเปล่า) มันก็วิ่งออกไป ก็รู้สึกสงสาร ไม่รู้ว่ามันจะผิดหวังหรือไม่ที่ไม่ได้กิน บางวันก็มานอนหน้าประตูรั้ว อดไม่ได้แต่เกรงใจเพื่อนบ้าน ต้องแอบโยนให้มันกินบางครั้ง
ก็เลยคิดว่า สมาชิกตัวใดตัวหนึ่งของเจ้าหมาฝูงนี้แหละ โดยเฉพาะไอ้เจ้าตัวเล็กสุด(ไม่มีชื่อ) ค่อนข้างซุกซน เคยเห็นมันคาบรองเท้าจากในบ้านเพื่อนบ้านต้นซอยที่ชอบเปิดประตูรั้วทิ้งไว้ วิ่งผ่านหน้าบ้าน ผมก็ต้องไล่ตามเก็บ หิ้วไปตามหาเจ้าของส่งคืนให้ ไม่อยากให้เขาต้องเสียสตางค์ซื้อรองเท้าใหม่ ทำนองเดียวกันมันก็คงคาบกระเป๋าสตางค์ของคนที่อาจจะทำหล่นคาดว่าในช่วงค่ำถึงกลางคืน ก่อนรุ่งเช้า มาวางไว้ที่ริมประตูรั้วหน้าบ้านผม จะตอบแทน หรือจะให้ช่วยส่งคืนเจ้าของ ก็ยากจะจินตนาการ
หมกมุ่นอยู่กับกระเป๋าสตางค์ใบนี้ รอถึงเย็นไม่มีใครถามหา ผมยอมเสียเวลาเดินทางไปโรงพักใกล้บ้าน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แจ้งให้ตำรวจช่วยตามหาเพื่อส่งคืนให้เจ้าของ รอพักหนึ่ง คุณพี่ร้อยเวรมาถึง ถามว่า เจอที่ไหน ทำไมมาที่นี่ ทำไมไม่ไป สภ.บางบัวทอง ตอบว่าใกล้บ้าน คุณพี่พยักหน้าเข้าใจ เปิดกระเป๋าสตางค์ออกมานับต่อหน้า ครบ 16,000 บาท และบอกขอเวลา 10 นาที เช็กที่อยู่ตามบัตรประชาชน ค้นทุกซอกหลืบเพื่อหาเอกสารเผื่อมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ในที่สุดก็ติดต่อเจ้าของกระเป๋าสตางค์ได้
เป็นอันหมดภาระ ใช้เวลาพอควรกับกระเป๋าสตางค์ของคนอื่น
ตอนค่ำอีกวันหนุ่มเจ้าของกระเป๋าสตางค์ขับรถมอเตอร์ไซค์มาตามหาผมถึงที่บ้านเล่าว่า ช่วงตอนค่ำๆมาทำธุระที่บ้านต้นซอย ไม่รู้ว่าเผลอทำกระเป๋าสตางค์หล่นตอนไหน ยืนยันว่าไม่ได้มาที่หน้าบ้านผม แน่นอน ไม่รู้ ว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ยกมือไหว้ ขอบคุณ ๆ เป็นการใหญ่
แอบคิดในใจ ‘น่าจะไปขอบคุณเจ้าตัวแสบประจำซอยจะดีกว่า’ ในยุคที่ 'พื้นที่แห่งความรัก'ถูกโอบล้อมให้อยู่ในวงจำกัด
แล้วก็ต้องกลับมาคิดอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรกับเจ้าหมาน้อยและเครือญาติของมันฝูงนี้ ?