นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไป 37.80% พร้อมสนับสนุน 'อุ๊งอิ๊งค์' น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองลงมาคือ 'พิธา' และ 'ประยุทธ์' ตามลำดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘คนโคราชเลือกพรรคไหน’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 30 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดนครราชสีมา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับบุคคลและพรรคการเมืองที่คนโคราชจะสนับสนุนในวันนี้ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ ‘นิด้าโพล’ สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่คนโคราชจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 37.80 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊งค์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคที่ผ่านมาสามารถทำได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า เชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาประเทศได้ และชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร
อันดับ 2 ร้อยละ 12.40 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ เป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีแนวคิดและวิธีการทำงานแบบคนรุ่นใหม่ และชื่นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล
อันดับ 3 ร้อยละ 11.73 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ ขณะที่บางส่วนระบุว่า จะได้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา
อันดับ 4 ร้อยละ 9.27 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 5 ร้อยละ 6.60 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส(พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริงทำจริง มีความซื่อสัตย์สุจริต ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบวิธีการทำงาน
อันดับ 6 ร้อยละ 5.67 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ชื่นชอบนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย และต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ
อันดับ 7 ร้อยละ 3.47 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ ชื่นชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา
อันดับ 8 ร้อยละ 2.67 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะ มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า สามารถทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมืองได้
อันดับ 9 ร้อยละ 2.40 ระบุว่าเป็น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา ชื่นชอบนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นคนโคราชเหมือนกัน
อันดับ 10 ร้อยละ 2.33 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ชื่นชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา และเป็นคนพูดจริงทำจริง
อันดับ 11 ร้อยละ 1.33 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ ชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์ และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา
อันดับ 12 ร้อยละ 1.00 ระบุว่าเป็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (พรรคสร้างอนาคตไทย) เพราะ มีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา
และร้อยละ 3.33 ระบุว่าอื่น ๆ ได้แก่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายเศรษฐา ทวีสิน
นายสุชาติ ภิญโญ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับพรรคการเมืองที่คนโคราชมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต ในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 48.40 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
อันดับ 2 ร้อยละ 13.80 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
อันดับ 3 ร้อยละ 8.53 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ
อันดับ 4 ร้อยละ 7.07 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ
อันดับ 5 ร้อยละ 4.73 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนากล้า
อันดับ 6 ร้อยละ 4.13 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย
อันดับ 7 ร้อยละ 3.20 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย
อันดับ 8 ร้อยละ 2.93 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย
อันดับ 9 ร้อยละ 2.47 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 10 ร้อยละ 2.27 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ
และร้อยละ 2.47 ระบุว่าอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคกล้า พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคเศรษฐกิจไทย
ด้านพรรคการเมืองที่คนโคราชมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 47.60 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
อันดับ 2 ร้อยละ 14.00 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
อันดับ 3 ร้อยละ 8.67 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ
อันดับ 4 ร้อยละ 8.14 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ
อันดับ 5 ร้อยละ 4.14 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนากล้า
อันดับ 6 ร้อยละ 3.73 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย
อันดับ 7 ร้อยละ 3.33 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย
อันดับ 8 ร้อยละ 2.93 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย
อันดับ 9 ร้อยละ 2.73 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 10 ร้อยละ 2.33 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ
อันดับ 11 ร้อยละ 1.13 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา
และร้อยละ 1.27 ระบุว่าอื่น ๆ ได้แก่ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคกล้า พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยภักดี พรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคเศรษฐกิจใหม่
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดนครราชสีมา ตัวอย่าง ร้อยละ 48.60 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.40 เป็นเพศหญิง ตัวอย่าง ร้อยละ 12.53 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.40 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.40 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 27.40 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 23.27 อายุ 60 ปีขึ้นไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 99.07 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 0.33 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.60 นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอื่น ๆ ตัวอย่าง ร้อยละ 31.87 สถานภาพโสด ร้อยละ 65.33 สมรส และร้อยละ 2.80 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่
ตัวอย่าง ร้อยละ 30.53 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 37.67 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 7.87 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 20.93 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 3.00 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 9.00 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 13.74 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 19.13ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 16.20 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 19.73 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 16.60 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.60 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ตัวอย่าง ร้อยละ 19.33 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 29.60 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 30.67 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 8.47 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 3.40 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 3.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 5.33 ไม่ระบุรายได้