เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีรถบัสของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 (กก.ตชด.41 จ.ชุมพร) ในพื้นที่ ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อบ่ายของวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.67
วิธีการของคนร้ายคือ นำระเบิดแสวงเครื่องไปใส่ไว้ในตู้ใส่มาตรวัดน้ำ ที่อยู่บริเวณติดกับราวสะพานลาคอ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำสายบุรี บนเส้นทางของถนนหลวงสาย 42 ฝั่งนราธิวาส-ปัตตานี ในการดักโจมตีรถบัสของเจ้าหน้าที่ ตชด.
“ทีมข่าวอิศรา” มีข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดของคนร้ายในครั้งนี้หลายประเด็น
1. การวางระเบิดจุดที่เป็นสะพานในอดีต คนร้ายจะซุกซ่อนระเบิดไว้บริเวณคอสะพานเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันเจ้าหน้าที่เริ่มจับทางได้ และตรวจพบระเบิดในลักษณะนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุ ทำให้ทำการไม่สำเร็จ
ส่งผลให้กลุ่มคนร้ายพยายามปรับเปลี่ยนจุดซุกซ่อนระเบิดในจุดที่เป็นสะพาน เพื่อหลบให้พ้นสายตาจากตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเส้นทาง ไม่ให้พบเจอระเบิด จึงเป็นที่มาของการเลือกซุกระเบิดในตู้มาตรวัดน้ำ
2. จากการเลือกจุดซุกระเบิดของคนร้าย คือ ใส่ในตู้มาตรวัดน้ำ ซึ่งติดตั้งอยู่กับราวสะพานด้านใน บริเวณกลางสะพานค่อนไปทางขาขึ้นสะพานเล็กน้อย พบว่า หากเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถวิ่งผ่าน แรงอัดและสะเก็ดระเบิดจะพุ่งไปถูกบริเวณด้านฝั่งพลขับรถ ทำให้โอกาสเกิดความสูญเสียมีมากกว่าการวางระเบิดริมถนน
กรณีการวางระเบิดรถบัสของเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่เกิดขึ้น จากสภาพร่องรอยความเสียหายจากแรงระเบิดที่ตัวรถ พบว่าส่วนที่ถูกสะเก็ดระเบิดมากที่สุด คือ บริเวณโซนพลขับ ซึ่งหากหลังเกิดระเบิดแล้ว พลขับไม่สามารถควบคุมรถบัสให้ผ่านพ้นสะพานไปได้ จนทำให้รถเกิดชนราวสะพานและตกลงไปในแม่น้ำสายบุรี อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียขนาดใหญ่ได้ เพราะจุดที่เกิดระเบิดยังอยู่กลางสะพาน
3. การวางระเบิดที่เกิดขึ้น น่าเชื่อได้ว่าไม่ใช่การจุดระเบิดด้วยตั้งเวลา แต่เป็นการกดสั่งจุดระเบิดของคนร้าย เพราะมีความแม่นยำมาก แม้รถจะวิ่งด้วยความเร็วก็ตาม เพราะบนสะพาน ช่วงเสาราวสะพานหรือ ตัวตู้มาตรวัดน้ำที่คนร้ายซุกซ่อนระเบิดเอง ก็เป็นจุดสำคัญที่ใช้ในการกะระยะเพื่อกดระเบิดได้แม่นยำขึ้น
จากเดิมการกดสั่งระเบิดที่ซุกไว้ริมถนน ถ้าไม่ซุกไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า ก็จะซุกไว้ที่หลักกิโลริมถนน หรือโคนต้นไม้ริมถนน เพราะสามารถใช้เป็นจุดคำนวณกะระยะในการจุดระเบิดได้ ส่วนในจุดที่ไม่มีต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้า ในอดีตเจ้าหน้าที่ก็เคยพบ “การปักกิ่งไม้” เพื่อทำเป็นจุดคำนวณกะระยะแทน
4. รถบัสของ ตชด. เป็นเป้าหมายที่กลุ่มคนร้ายเลือกมาแล้ว จากที่เป็นยานพาหนะขนาดใหญ่ บรรทุกผู้โดยสารที่เป็นเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ถือเป็นเป้าขนาดใหญ่ที่โอกาสจะสร้างความสูญเสียจากการระเบิดได้มากกว่ายานพาหนะของเจ้าหน้าที่ชนิดอื่น
ที่สำคัญในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รถบัสของ ตชด. ไม่ได้มีคันเดียว แต่มีมากกว่า 1 คันที่เคลื่อนตามกันมาเป็นขบวน จึงง่ายแก่การเลือกก่อเหตุ
5. แน่นอนว่า การเลือกเป้าหมายในการก่อเหตุระเบิดเป็นรถบัสของ ตชด. ต้องมีการเตรียมการและวางแผนมาเป็นอย่างดี เป็นไปได้ที่กลุ่มคนร้ายต้องรู้การเคลื่อนไหวของรถบัสว่าจะมาถึงจุดเกิดเหตุเมื่อใด จึงเป็นไปได้ว่า ต้องมีสมาชิกของกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าดูต้นทาง คอยเฝ้าแจ้งความเคลื่อนไหวของรถบัสเมื่อใกล้จะถึงจุดวางระเบิด เพื่อให้คนร้ายที่ทำหน้าที่กดสั่งระเบิด ทราบล่วงหน้า และคำนวณการจุดระเบิดจากเครื่องหมายที่กะระยะเอาไว้
เนื่องจากระยะทางก่อนถึงตัวสะพานลาคอประมาณ 700 เมตร เป็นย่านชุมชนแยกมะนังดาลำ ผู้ที่ทำหน้าที่เฝ้าดูต้นทาง ก็ปะปนอยู่ในหมู่ชาวบ้านได้โดยไม่มีความน่าสงสัย ซึ่งทำให้ได้ผลมากกว่าการวางระเบิดในพื้นที่ป่าห่างไกลชุมชน
หรืออาจเป็นได้ว่า กลุ่มคนร้ายมีการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถบัส ตชด.มาตั้งแต่เริ่มออกจากต้นทางก็เป็นได้
ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตที่น่าจะบอกได้ว่า การวางระเบิดครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การวางระเบิดเหมือนทุกๆ ครั้งของกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่เป็นการลอบวางระเบิดที่มีการเตรียมการมาอย่างดี และมุ่งหวังให้เกิดความสูญเสียของเจ้าหน้าที่มากที่สุด
แต่ถือว่าโชคดีที่พลขับรถบัส แม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังแข็งใจ กัดฟัน จนสามารถควบคุมรถพ้นออกมาจากการตกจากสะพาน ไม่เป็นไปตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมุ่งหวังได้สำเร็จ