เปิดภาพตู้ใส่มาตรวัดน้ำ บนสะพานลาคอ ข้ามแม่น้ำสายบุรี จุดที่คนร้ายซุกระเบิดโจมตีรถบัสของ ตชด. ทำให้รถเสียหลักตกร่องกลางถนน ยอดกำลังพลบาดเจ็บพุ่งเป็น 4 นาย อาการไม่ธรรมดา ต้องนำส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ ยกชุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พยายามหากลวิธีใหม่ๆ ในการก่อเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงอยู่ตลอดเวลา และพลิกแพลงจนฝ่ายรัฐไล่ตามไม่ทัน
เหตุระเบิดโจมตีรถบัสของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 (กก.ตชด.41 จ.ชุมพร) ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.67 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้เห็นถึงความพยายามของกลุ่มคนร้าย
เพราะจุดที่นำระเบิดไปวางซุกเอาไว้เพื่อดักโจมตี เป็นจุดที่น่าจะไม่มีใครคาดคิดว่าจะสามารถนำระเบิดไปวางได้ นั่นก็คือ “ตู้ใส่มาตรวัดน้ำ” ซึ่งติดตั้งอยู่ใกล้ราวกลางสะพาน และเมื่อรถเป้าหมายแล่นผ่าน ก็จุดระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้น
โดยปกติคนร้ายจะใช้วิธีวางระเบิดไว้ข้างทาง กรณีเป็นการลอบโจมตีแบบเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายเป็นยานพาหนะที่สัญจรอยู่บนถนน โดยอาจซุกถังขยะริมทาง หรือวางหลบหลังเสาไฟฟ้าริมถนน แต่หากเป็นการวางระเบิดแบบวางแผนล่วงหน้า จะมีการขุดหลุมฝังระเบิด หรือนำไปวางในท่อลอดใต้ถนน ซึ่งต้องขุดหลุมลงไปเหมือนกัน ถือว่าต้องมีการวางแผนและต้องใช้เวลาในการตระเตรียมพื้นที่สำหรับการวางระเบิดมากพอสมควร
ระยะหลังๆ เมื่อโดนโจมตีในรูปแบบเดิมๆ ซ้ำๆ หลายครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ก็เริ่มจับทางได้บ้าง มีความระมัดระวัง และป้องกันจุดเสี่ยงต่างๆ มีการส่งกำลังออกลาดตระเวนตามริมถนน และตรวจหาหลุมตามจุดที่มีลักษณะ Killing Zone หรือพื้นที่ที่เหมาะกับการโจมตี เช่น เป็นทางโค้ง มีหญ้ารกทึบริมทาง ซึ่งคนร้ายมักจะขุดไว้เพื่อรอนำระเบิดไปวาง และที่ผ่านมาก็ตรวจพบ สามารถกลบหลุม หรือสกัดการลอบโจมตีได้หลายครั้ง
ล่าสุดคนร้ายจึงใช้มุกใหม่ ด้วยการนำระเบิดไปซุกในตู้ใส่มาตรวัดน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะคิดไม่ถึง เพราะด้านล่างของตู้นี้คือแม่น้ำ ซึ่งมีน้ำไหลเชี่ยว เป็นยุทธบริเวณที่ไม่เหมาะกับการวางระเบิด แตกต่างจากริมถนน หรือเกาะกลางถนน หรือแม้แต่ท่อลอดใต้ถนน ที่ง่ายสำหรับการวางระเบิดดักโจมตียานพาหนะ
และการใช้มุกใหม่ก็ประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่สกัดการระเบิดไม่ได้ และระเบิดยังก่อความเสียหายไม่น้อย ทั้งกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บถึง 4 นาย ต้องช่วยชีวิตกันอย่างทุลักทุเล ทั้งยังทำให้รถบัสของ ตชด.เสียหลักตกถนน ตัวถังเป็นรูพรุน และได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ
รายชื่อผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็น 4 นาย ประกอบด้วย
1. ส.ต.ท.นพคุณ นำศิลป์ธนสาร มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้า
2. จ.ส.ต.ขจรพล เพชรกูล มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณเข่าซ้าย
3. จ.ส.ต.ดำเนินยุทธ สง่าปู มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณแขนขวา
4. ส.ต.ท.ศุภวิทย์ ป้องแก้ว มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะและแขนขวา
พ.อ.เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ตชด.ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ได้เคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทั้งหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรืออีโอดี พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมหลักฐานและวัตถุพยานต่างๆ นำไปเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ได้สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่ เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นละแวกที่เกิดเหตุ ในรัศมี 500 เมตร รวมถึงพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่เกิดเหตุที่เฝ้าสังเกตหากลวิธีก่อเหตุในครั้งนี้ รวมทั้งเลี่ยงความสนใจ แอบนำระเบิดไปซุกไว้ได้ ทั้งยังรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี
เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำระเบิดมาซุกไว้ก่อนเกิดเหตุไม่นานนัก คาดว่าเป็นตอนกลางวัน จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนในพื้นที่ติดตามหาข่าว รวมไปถึงตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี ตามไหล่ทาง เพื่อหาเบาะแสคนร้ายให้ได้มากที่สุด