สื่อเครือเนชั่นต่อสายคุย “บิ๊กโจ๊ก” เจ้าตัวยืนยันไม่ได้ไปบ้าน “อาจารย์วันนอร์” ตามเหตุการณ์ในคลิปและอีกฝ่ายให้ข่าว โต้ลั่นไม่รู้ใครอัดคลิป ยอมรับมีผู้ใหญ่ขอให้ถอนเรื่องถอดถอน “สุชาติ ตระกูลเกษมสุข” จริง แต่ตอบปฏิเสธไป ประกาศลั่นเรื่องนี้ไม่จบแน่ พรุ่งนี้่ 10 โมงลุยยื่นถอด “ประธาน ป.ป.ช.ป้ายแดง” พร้อมตั้งโต๊ะล่า 2 หมื่นชื่อล็อตใหม่ ขู่ประมุขนิติบัญญัติระวังโดน 157 เหตุรัฐธรรมนูญไม่เปิดช่องตีตกคำร้อง ต้องส่งศาลฎีกาตั้่งคณะไต่สวนอิสระเท่านั้น
สื่อเครือเนชั่นเสนอบทสัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีถูก นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐภา ให้ข่าวพาดพิงว่าเป็นคนอัดคลิปการพบปะกันระหว่าง นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่บ้านส่วนตัวย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อพูดคุยกันเรื่องคำร้องถอดถอนนายสุชาติ โดยมีความพยายามขอให้ตีตกคำร้อง ซึ่งประธานรัฐสภาย้ำว่า การพบปะกันวันนั้น มีเพียง 3 คน พร้อมตำหนิ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่าไม่ควรอัดคลิปไปเผยแพร่ ถือว่าเสียมารยาท
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ “บิ๊กโจ๊ก” กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่ อาจารย์วันนอร์ ให้สัมภาษณ์ แต่ยืนยันว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป ฉะนั้นตนจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบันทึกภาพตามคลิปที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชน
อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ตนเคยไปบ้านอาจารย์วันนอร์จริง แต่เป็นช่วงก่อนหน้านั้น โดยไปกราบท่านเพราะเคยรู้จักกัน ส่วนเหตุการณ์ที่อาจารย์วันนอร์ ได้พบกับนายสุชาติที่บ้านส่วนตัว ตนไม่ทราบมาก่อน และไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่ก็ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ 2 คนมาขอให้ตนถอนเรื่องที่ไปร้องถอดถอนนายสุชาติ จากตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. แต่ตนแจ้งกับผู้ใหญ่ 2 คนนั้นไปว่า ตนถอนเรื่องไม่ได้ เพราะมีประชาชนถึง 22,000 รายชื่อ ร่วมลงชื่อให้ถอดถอน
“บิ๊กโจ๊ก” ยังบอกอีกว่า ไม่รู้สึกติดใจอะไรที่ อาจารย์วันนอร์ ให้สัมภาษณ์ตำหนิตน และขอยืนยันว่าไม่ได้ไปบ้านอาจารย์วันนอร์ในวันที่ปรากฏภาพในคลิป จึงไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับคลิปที่ออกมา แต่ก็มีข้อน่าสังเกตว่า การพูดคุยกันระหว่างนายสุชาติ กับอาจารย์วันนอร์ มีความพยายามหาช่องทางที่จะตีตกคำร้องถอดถอนจริง ทั้งๆ ที่อาจารย์วันนอร์ ในฐานประธานรัฐสภา ไม่มีอำนาจตีตกคำร้อง เนื่องจากรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า เมื่อรับเรื่องมาแล้ว ต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา เพื่อตั้งคณะไต่สวนอิสระเท่านั้น
เหตุนี้เมื่อภายหลังมีการตีตกคำร้องจริงๆ โดยที่ อาจารย์วันนอร์ ก็ให้สัมภาษณ์เองว่า มีการพบปะกับนายสุชาติจริงตามคลิป จึงน่าคิดว่าการกระทำลักษณะนี้ถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเข้าข่ายละเมิดจริยธรรมหรือไม่ รวมถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ว่าด้วยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตด้วยหรือเปล่า
เช่นเดียวกับ นายสุชาติ ซึ่งเพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ แต่กลับมีความพยายามไปพบประธานรัฐสภา และพูดคุยเรื่องที่ตนเองถูกยื่นคำร้องถอดถอน การกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายละเมิดจริยธรรมด้วยหรือไม่
ฉะนั้นในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปที่อาคารรัฐสภา เพื่อยื่นคำร้องแสดงเจตนารมณ์ให้ถอดถอนนายสุชาติ ในข้อกล่าวหาใหม่ คือ ขาดจริยธรรมในการดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช. เพราะมีพฤติกรรมเข้าข่ายวิ่งเต้นต่อรองไม่ได้ถูกถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อครั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยตนจะยื่นรายชื่อประชาชน 20,000 ชื่อ แนบไปด้วยเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นชื่อประชาชน เป็นรายชื่อใหม่ หรือชื่อประชาชนกลุ่มเดิมที่เคยยื่นไว้แล้ว “บิ๊กโจ๊ก” ตอบว่า ต้องเป็นรายชื่อใหม่ โดยตนจะรวบรวมใหม่ ส่วนการไปยื่นคำร้อง เป็นการไปแสดงเจตนารมณ์เอาไว้ก่อน คาดว่าจะใช้เวลาล่ารายชื่อไม่นาน เนื่องจากประชาชนจำนวนมากได้เห็นคลิปแล้ว รู้สึกไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมลงลายมือชื่อเพื่อถอดถอนประธาน ป.ป.ช.โดยเร็วที่สุด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกทิ้งท้ายด้วยว่า ตนไม่เคยเคลื่อนไหวเพื่อให้ตีตกคำร้องเกี่ยวกับนายสุชาติ เพราะหากตนต้องการยุติเรื่อง ก็แค่ถอนเรื่องที่เคยยื่นไว้ โดยไม่จำเป็นต้องไปพบอาจารย์วันนอร์ถึงบ้านตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด