ศึกชิงนายก อบจ.สงขลา พลิกผัน “ถาวร เสนเนียม” ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กร่ายยาวปฏิเสธลงสมัคร ให้เหตุผลเรื่องคดีความเป็นแกนนำ กปปส. หากกระทบคุณสมบัติในอนาคตจะกระทบงบประมาณ ต้องจัดเลือกตั้งใหม่
นายถาวร เสนเนียม อดีต รมช.มหาดไทย อดีต รมช.คมนาคม และอดีต สส.สงขลา 7 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบข้อสงสัยของทุกฝ่ายเพื่อคลี่คลายความอึมครึมที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าตนจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา อย่างแน่นอน แม้จะได้รับเทียบเชิญจากหลายฝ่ายก็ตาม
เหตุผลที่นายถาวรอธิบาย คือ การที่ตนยังมีคดีร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 2556 – 2557 ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 5 ปี และถูกขังไว้โดยหมายของศาลในระหว่างการขอปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้ต้องพ้นจากคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พ้นจากสถานะความเป็น สส. และพ้นจากตำแหน่ง รมช.คมนาคม ในขณะนั้น
ต่อมา ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำคุกตน 1 ปี และปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการยื่นฎีกาคำพิพากษาในศาลฎีกา
แม้ว่าตนจะมีคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สงขลา แต่ก็เห็นว่า หากตนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเข้าไปเป็นนายก อบจ.สงขลาแล้ว และระหว่างการดำรงตำแหน่ง ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกในลักษณะเดียวกับศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ ความเสียหายย่อมเกิดกับทางราชการ เพราะต้องจัดการเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลาใหม่อีกครั้ง สิ้นเปลืองงบประมาณของ อบจ.สงขลา ประมาณกว่า 70 ล้านบาท และทำให้พี่น้องประชาชนต้องเดือดร้อนออกมาใช้สิทธิกันใหม่
“ประกอบกับทีมทนายความที่รับผิดชอบว่าความให้ผม มีความเห็นว่ามีแนวโน้มสูงที่ศาลฎีกาจะพิพากษาว่า ผมกระทำผิดและอาจจะถูกลงโทษตามที่อัยการฟ้อง ผมจึงตัดสินใจไม่สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา” นายถาวร ระบุตอนหนึ่งในแถลงการณ์
@@ ยันไม่ได้กลัวแพ้ - ปัดสมยอมทุนสีเทา
อดีต สส.สงขลา 7 สมัย ยังบอกด้วยว่า การตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สงขลา ไม่ได้เกิดจากความไม่เสียสละ ไม่ได้เกิดจากความกลัวที่จะแพ้การเลือกตั้ง ไม่ได้เกิดจากความกลัวหรือสมยอมให้กับการทุจริตคอรัปชั่นหรือทุนสีเทา แต่มองถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น
ทั้งนี้ในการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา (เลือกตั้ง สส.) ตนสังกัดพรรคไทยภักดี สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ แต่ตนมีหลักคิดเช่นเดียวกัน จึงตัดสินใจลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ เพราะหากพ้นจากตำแหน่งไป ก็สามารถเลื่อนลำดับถัดไปขึ้นแทน โดยไม่ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณของทางราชการ
@@ เปิดลิสต์กองเชียร์แห่หนุนชิงเก้าอี้นายก อบจ.
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ มีกระแสเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้นายถาวรลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา เพื่อต่อสู้กับ “บ้านใหญ่ ปชป.” ทั้งสายนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กับสาย นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ที่จับมือกันส่ง นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลงสมัคร และมีแนวโน้ม “นอนมา”
โดยตามข่าวที่อกมา นายถาวรได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย และ ส.อบจ.สงขลา ทีมรวมพลังร่วมสร้างสุข ถึงขนาดนำเทียบเชิญแห่ไปเชิญถึงบ้านนายถาวรเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา
@@ โชว์ผลงานการเมืองสุดอลังฯ
แถลงการณ์ของนายถาวร ยังได้บอกเล่าประวัติชีวิตตนเองที่ตัดสินใจลงสมัคร สส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ครั้งแรก เมื่อปี 2538 ทั้งๆ ที่เป็นข้าราชการอัยการ มีอายุ 48 ปี และมีอนาคตไกลในกระบวนการยุติธรรม กระทั่งเป็น สส.ต่อเนื่องถึง 7 สมัย เป็นรัฐมนตรี 2 กระทรวง ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือกล่าวหาประเด็นทุจริตใดๆ
แต่อีกด้านหนึ่ง เมื่อครั้งทำหน้าที่ สส.ฝ่ายค้าน ได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีส่อทุจริต 5 คนทุกสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร คืออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเหล่านี้
1.นายบรรหาร ศิลปะอาชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
2.นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น
3.นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น
4.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น
5.พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น
และยังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ดำเนินการเลือกตั้งไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ในการจัดการเลือกตั้งให้พรรคไทยรักไทยด้วย
@@ แขวะ อบจ.สงขลา อื้อฉาวขัดแย้ง-เข่นฆ่า-ทุจริต
แถลงการณ์ของนายถาวร ยังระบุอีกตอนหนึ่งด้วยว่า ที่ผ่านมาประชาชนชาวสงขลาและ ส.อบจ.สงขลา ทุกคนทราบดีว่า นายก อบจ.สงขลา มีปัญหาถูกตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อเนื่องตลอดมา บางรายถึงขนาดขัดแย้งกันจนต้องมีการจ้างวานฆ่าฝ่ายผู้เห็นต่าง บางรายก็กำลังรับโทษอยู่ในเรือนจำจากกรณีทุจริตคอร์รัปชั่น บางรายก็กำลังต่อสู้คดีอยู่ในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จึงมีแรงเชียร์อย่างกว้างขวางให้ตนลงสมัคร
แต่ในที่สุดนายถาวร ก็ตัดสินใจเด็ดขาด ปฏิเสธคำเชิญและกระแสเรียกร้อง ด้วยเหตุผลดังกล่าว และยังทิ้งท้ายแถลงการณ์ว่า “ผมหวังว่าประชาชนชาวจังหวัดสงขลาจะตื่นรู้ว่า ผู้สมัครรายใดตั้งใจจริงเพื่อพี่น้องประชาชนหรือ ผู้สมัครรายใดอาศัยอิทธิพลหรือทุนสีเทาในการเข้าสู่ตำแหน่ง”
อ่านประกอบ : แถลงการณ์ฉบับเต็มของ นายถาวร เสนเนียม