ดีเอสไอจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งสำนวนคดีพิเศษ กลุ่มนายทุนรุกป่า แอบอ้างเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงอื่นเข้าไปตัดไม้บนภูเขากูยิ อ.สุคิริน นราธิวาส เตรียมขยายผลฟันเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยว พร้อมเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ใช้แอบอ้าง หลังพบมีการออกโดยมิชอบ
เมื่อเร็วๆนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้นำสำนวนคดีพิเศษที่ 22 / 2564 ส่งสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุดคดี
เป็นคดีระหว่าง พ.อ.ณัฐภูมิ ฉัตรภูมิ ผู้กล่าวหา และ นายรอยือรัน บือราเฮง กับพวกรวม 7 คน ผู้ต้องหา ฐานความผิด ร่วมกันก่อสร้างแนวทางหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดน ให้ข้อมูลว่า สืบเนื่องจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าบนเขากูยิ หมู่ 4 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ตามที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว
ผลการตรวจสอบพบว่า บริเวณพื้นที่เขากูยิมีการลักลอบตัดไม้หวงห้ามขนาดใหญ่ จำนวน 3 กลุ่ม รวมจำนวน 21 ต้น และพบรถวินจอหนังที่ใช้ในการลากไม้จำนวน 2 คัน รถแทร็กเตอร์จำนวน 1 คัน จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ และกลุ่มคนงานจำนวน 11 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่เกิดเหตุ
โดยการสืบสวนสอบสวนพบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวมีนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลังในการสั่งการให้หาไม้ ลักลอบตัดไม้ และนำไม้ออกจากพื้นที่ โดยลักษณะการกระทำผิดที่แอบอ้างเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงอื่นมาแสดง เพื่อหลอกเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการทำไม้ในที่ดินที่เอกสารสิทธิ์ตามกฎหมายที่ดิน ทำให้กระบวนการยุติธรรมปกติไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงต้องเสนอขอรับเป็นคดีพิเศษ
กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดโดยร่วมกันแบ่งหน้าที่กันทำ โดยการแผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น, เข้าทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายโดยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เป็นความผิดตามมาตรา 11 มาตรา 54 และมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมาย ที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายตามประกาศคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2565 ออกตามความในมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังพบว่า เอกสารสิทธิ์ที่ดินที่กลุ่มขบวนการดังกล่าวนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในการแอบอ้างว่า เป็นการทำไม้ในที่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมายที่ดินนั้น ยังเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย
โดยหลังจากได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว การดำเนินการต่อไป พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้แยกสำนวนเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว รวมถึงประมวลเรื่องส่งให้กรมที่ดิน พิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าว รวมถึงที่ดินแปลงข้างเคียงรวมหลายร้อยไร่ต่อไป