"สมคิด" ประกาศนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อสร้างอนาคตชายแดนใต้ ชูพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล เล็งดึงอินโดฯ-มาเลย์ ร่วมลงทุน ล้างภาพจำปลายขวานไม่ปลอดภัยแถมยากจน ย้ำไม่เป็นนายกฯ ไม่ตาย ขอยืมโมเดล "สี จิ้นผิง" เคาะประตูแก้จนทุกบ้าน ชี้สูตรเลือกตั้งบัตร 2 ใบ คำนวณปาร์ตี้ลิสต์หารร้อย ทำค่าตัว ส.ส.เขตพุ่ง ดึงไทยติดวังวนทุจริตไม่จบสิ้น
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 3 เขตแรกจาก 5 เขต กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส ของพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ประกอบไปด้วย นายวัชระ ยาวอฮะซัน เขต 1, นายสารี สะมะแอ เขต 2 และ นายอามีน โต๊ะนากายอ เขต 4 ภายใต้การสนับสนุนของ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส บ้านใหญ่ในพื้นที่
โอกาสของการลงพื้นที่ เปิดตัวว่าที่ ส.ส. และหวังปกธงสร้างอนาคตไทยที่นราธิวาส นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย จึงรับหน้าที่บรรยายพิเศษ พร้อมประกาศนโยบาย “สร้างอนาคตชายแดนใต้ สร้างอนาคตไทย” โดยมีทีมบริหารของพรรคปรากฏตัวพร้อมหน้า ทั้ง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แกนนำภาคใต้ ที่ โรงแรมอิมพีเรียล จ.นราธิวาส
การบรรยายพิเศษของ นายสมคิด ถือว่าครบเครื่องทั้งประเด็นนโยบาย ปัญหาเศรษฐกิจ และวาระทางการเมือง
“มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เพื่อขอบคุณ ทีมงานนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ที่ให้เกียรติและนำเสนอตัวว่าจะร่วมมือช่วยเหลือสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร
2.มาเพื่อให้กำลังใจ ผมรู้ว่าชีวิตมันลำบาก คนที่ไม่เคยลำบากไม่รู้สึก คนที่ไม่เคยจนก็ไม่เคยรู้สึก ผมมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เพราะครอบครัวร่ำรวย เคยอยู่ห้องแถว 2 ชั้น 24 คน ถ้าไม่ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลจะไม่มีวันนี้ ความจนไม่ใช่เรื่องการขัดสนรายได้ แต่ความยากจนนำไปสู่บ้านแตกสาแหรกขาด พ่อแม่ต้องดิ้นรนหางานทำ ลูกไม่มีคนเลี้ยง สุดท้ายก็ติดยาเสพติด ทุกอย่างคือหายนะ สิ่งสำคัญที่ทั่วโลกทำคือทำอย่างไรให้คนไทยหายจน โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
3.ผมมาเพื่อสัญญา ไม่ว่าจะสัญญากับใครก็จะรักษาคำพูดเสมอ ถ้าสัญญาว่าจะช่วยไม่ต้องมีใครมาเตือน ผมจะคิดตลอดเวลาว่าทำให้ท่านหรือยัง ทำดีที่สุดหรือยัง
ผมอยู่การเมืองตั้งแต่ปี 2543 ผ่านรัฐบาลมา 2 ยุค 2 สมัย ก่อนวางมือเคยสัญญาว่าต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้นให้ได้ สไตล์การทำงานของผมไม่ใช่คนที่บ้านั่งโต๊ะประชุม แต่ถ้านั่งโต๊ะประชุมหมายความว่า คนที่เรียกมาต้องเกี่ยวข้องกับงานที่ผมทำ และจะจี้ถามทุกวัน ถ้าไม่ทำผมจะทุบ
สมัยรัฐบาล คสช. มีการตั้งคณะกรรมการ 5 ชุด มีรองนายกฯ ดูแลรับผิดชอบทั้ง 5 คณะ มีข้าราชการเต็มไปหมด แต่ผมไม่เคยเรียกประชุมแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่เชื่อว่าการที่มีตัวแทนข้าราชการมานั่ง เอาวาระที่ข้าราชการคิดมาเสนอบนโต๊ะ แล้วสัปดาห์หน้าก็กลับมาใหม่ การทำแบบนี้ชาติหน้าก็ไม่มีทางแก้ปัญหาเมืองไทยได้ แต่ผมจะตามงานกับคนที่เกี่ยวข้อง”
@@ สูตรหารร้อยทำค่าตัว ส.ส.เขตพุ่ง ไทยติดวังวนโกง
นายสมคิด กล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมาไม่เคยสะสมทรัพย์ มีคนบอกว่าถ้าไม่รู้จักสะสมทรัพย์แล้วอนาคตจะตั้งพรรคได้อย่างไร ผมตั้งลูกน้องแต่ละคนเงินเดือนเหยียบล้าน แต่ตัวเองได้เงินเดือนแสนเดียว การเมืองสมัยนี้ใช้เครื่องดูดฝุ่น คุณบอกเป็นประชาธิปไตย ต้องการพัฒนาบ้านเมือง คุณบอกให้หาร 100 หา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ทำค่าตัว ส.ส.เขตพุ่ง พรรคเหล่านี้ไม่เคยคิดว่ามีนโยบายอะไรที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่คิดว่าทำอย่างไรจะได้ร่วมรัฐบาล จะอยู่พรรคไหนถึงมีโอกาส ประชาชนต้องการ ส.ส.และพรรคการเมืองเหล่านั้นหรือไม่
ผมมาช่วยพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยดีขึ้น และได้บอกหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรคว่า การใช้เงินซื้อ ส.ส. เท่ากับติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก และจะกลับไปสู่วังวนการทุจริต ถ้าเราไม่หยุดหรือเปลี่ยน อนาคตลูกหลานจะแย่ไปกว่านี้
สำหรับประเทศไทยวันนี้ใครบอกดีขึ้น อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่เกิดขึ้นก็ต่ำเตี้ย รวยอยู่ไม่กี่คน มีอุตสาหกรรมไหนแข่งขันได้บ้าง หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นชาติมุสลิมแล้ว จะเห็นได้ว่า อินโดนีเซียมีความโดดเด่นมาก พระเอกในจี 20 (กลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 20 ประเทศ) เป็นมหาอำนาจมุสลิม เขาวางตัวเองเป็นประเทศตัวกลางประสานความขัดแย้ง
ส่วนเวียดนาม อุตสาหกรรมชั้นเลิศต่างเข้าไปลงทุน ซึ่งต่างจาก 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะเขาเอาจริงทั้งความทุ่มเทของนักการเมืองและผู้นำประเทศที่ไม่ใช่คิดแค่อยู่รอด ถ้าคุณคิดต่ำเตี้ยมองเหตุการณ์ไม่ออกคุณจะเป็นผู้นำทำไม ถ้าจะเป็นผู้นำต้องมีความคิดแจ่มใส มีความมั่นใจในตนเอง พร้อมทุ่มเท การจะรอดหรือไม่รอดทางการเมืองเป็นเรื่องเล็ก ไม่เป็นนายกฯ ไม่ใช่จะตาย แต่เป็นนายกฯแล้วทำอะไรไม่ได้ เป็นไปทำไม บ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้ สนใจอย่างเดียวรอบหน้าจะได้เป็นรัฐบาลหรือเปล่า จะอยู่กับใครดี ทางโน้นทางนี้จะให้เท่าไร นี่หรือคือการเมืองที่เราจะฝากความหวัง”
@@ พัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ล้างภาพจำไม่ปลอดภัย-ยากจน
“สำหรับนราธิวาสเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย ซึ่งหลักการของแนวคิดในการพัฒนา มีแนวทางหลักคือ 1.ต้องเคารพความคิด ต้องภูมิใจในพื้นฐานวัฒนธรรมของตัวเอง สิ่งที่จะเข้าไปช่วยและพัฒนาต้องเป็นการเติมในสิ่งที่ขาด โดยเฉพาะความสามารถในการเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัว
2.ปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ เพราะการที่แรงงานอยู่ในภาคการผลิตที่อ่อนแอ ทำให้เกิดการตกงาน ถูกกดค่าแรง
3.ต้องมีแรงจูงใจพิเศษ เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อดึงดูดการลงทุน อย่าเรียกที่นี่ว่านิคม อุตสาหกรรม เพราะสามจังหวัดภาคใต้จะต้องเป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้หลุดพ้นจากการบริหารงานของราชการ หลุดพ้นจากองค์กรที่ทำงานแบบมีข้อจำกัด จากที่ผมได้ศึกษาการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของมาเลเซีย ได้ให้อำนาจคณะกรรมการในการสร้างแรงจูงใจ
สามจังหวัดภาคใต้ทุกอย่างมีความพร้อม แต่ขาดคนมาบริหารจัดการ ซึ่งต้องเป็นคณะกรรมการพิเศษที่ใช้มืออาชีพ นำงานไปให้ครัวเรือน ต้องล้างภาพสามจังหวัดภาคใต้ ไม่ปลอดภัย แรงงานไม่มีทักษะ ยากจน ต้องดึงดูดนักลงทุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยรัฐบาลอาจถือหุ้นแล้วนำกำไรมาคืนให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ใช่ใช้วิธีนำโรงงานสำเร็จมาตั้ง แล้วชาวบ้านเป็นแค่แรงงาน โดยเราต้องไปเชิญเขามาลงทุน ถ้าเอาแต่ประชุมบนโต๊ะ แมวที่ไหนจะมา รวมถึงใช้มาตรการจูงใจทางภาษี 0% 10 ปี อย่าบอกว่าทำไม่ได้ ราชการพร้อมจะทำถ้าการเมืองเอาจริง”
@@ เล็งดึงอินโดฯ-มาเลย์ ร่วมลงทุน
“ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องสนับสนุนโลจิสติกส์ จะมีการแก้กฎหมายเพื่อนำงบประมาณเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) วงเงิน 10,000 ล้านบาทมาใช้
เคยดูหนัง เดอะ ก็อดฟาเธอร์ หรือไม่ ที่บอกว่า "ผมจะเสนอสิ่งที่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้" ผมจะไปเสนอให้มาเลเซียมาร่วมกับไทย ในการใช้ไทยเป็นฐานการผลิต สนับสนุนเงินทุนให้ครัวเรือนเลี้ยงปศุสัตว์ ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานฮาลาล เราต้องมองว่า จุดแข็งของพื้นที่สามจังหวัด ชายแดนภาคใต้ เป็นรอยต่อระหว่างอาเซียนทางทะเลกับอาเซียนบนบก มีความพร้อมทั้งเรื่องทรัพยากรแรงงาน ซึ่งถือเป็นโอกาสในการพัฒนา
นอกจากนี้ จะใช้กลไกของแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT-GT) ซึ่งเรามีอยู่แล้วแต่ไม่เคยได้มีการสานต่อ มาใช้ในการขับเคลื่อนการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตั้งเป้ารวมหมายร่วมกันในการพัฒนา ทั้งด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน
ส่วนด้านการศึกษาซึ่งถือเป็นอนาคตของสามจังหวัด สิ่งสำคัญคือต้องรู้แคบเป็นหลัก แล้วใช้ความรู้กว้างช่วยเสริม โดยจะมีโปรแกรมฝึกอาชีพเสริมความรู้ร่วมกับมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ ประมง การเกษตร งานภาคบริการ ไม่ใช่เรียนเฉพาะตามหลักสูตร การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษาฟรี ทุกคนมีความคิด อย่าให้การเมืองมาหลอกอีก อย่าให้ใครมาซื้อเสียง ชีวิตอนาคตลูกหลานไม่ควรถูกซื้อด้วยเศษเงิน ภาคสังคมและชุมชนต้องเข้มแข็งเพราะถือเป็นหัวใจในการพัฒนา”
@@ ยืมโมเดล "สี จิ้นผิง" เคาะประตูแก้จนทุกบ้าน
นายสมคิด กล่าวอีกว่า “จะยืมความคิดของ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการแก้ปัญหาความยากจนทุกครัวเรือน โดยจะตั้งทีมแก้จนในทุกหมู่บ้าน มีตัวแทนของกรมการพัฒนาชุมชน อสม. ธ.ก.ส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) และนักศึกษา ทำการเคาะประตูบ้าน สำรวจต้นเหตุของปัญหาความยากจนในทุกบ้าน เป็นฐานในการที่รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือ โดยให้เป็นอำนาจของชุมชนในการพิจารณาบ้านที่สมควรได้รับการช่วยเหลือ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างได้ผล ดังที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศจีน
ขอโอกาสให้ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เข้าไปทำสิ่งเหล่านี้ และผมยืนยันว่าพวกเขาทำด้วยใจ”
----------------------------
ขอบคุณ : อัญชลี อริยกิจเจริญ ผู้สื่อข่าวสายทหาร เนชั่นทีวี เอื้อเฟื้อเนื้อหาข่าว