ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ยังคงคึกคักอย่างยิ่ง แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพิ่งออกมาสำทับเมื่อวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค.64 ว่าจะอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระในปี 66
แต่นักการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ พากันขยับตัวเหมือนใกล้เลือกตั้งเต็มที ไม่เว้นแม้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ล่าสุด นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาสหลายสมัย และอดีตโฆษกพรรคประชาชาติ ได้เขียนจดหมายแสดงความจำนงขอลาออกจากพรรคประชาชาติ โดยจดหมายเขียนด้วยลายมือ มีการถ่ายภาพส่งต่อไปในกรุ๊ปไลน์ต่างๆ ในพื้นที่ปลายด้ามขวาน
เนื้อหาในจดหมายระบุว่า “สลาม เพื่อนๆ สมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคประชาชาติที่รักและเคารพทุกท่าน
ผมเป็นนักการเมืองในฐานะ ส.ส.จังหวัดนราธิวาส มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 สอบได้ สอบตก มีการปฏิวัติยึดอำนาจ เป็นเวลากว่า 20 ปี การเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2562 ผมได้เสียสละไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.แต่อย่างใด แต่ได้สนับสนุนให้พรรคประชาชาติประสบชัยชนะการเลือกตั้ง ส.ส.จนถึงปัจจุบัน
ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่อาจจะมีขึ้นในปี พ.ศ.2565 หรือ พ.ศ.2566 ผมขอโอกาสจากพี่น้องอีกครั้ง เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.เป็นตัวแทนของท่าน เสมือนที่เคยปฏิบัติมาตลอดเวลาในเส้นทางการเมือง แต่ด้วยข้อจำกัดทางการเมือง ผมต้องขอลาออกจากพรรคประชาชาติ
ผมรักพรรคประชาชาติ เคารพผู้บริหารพรรค และผมได้ไปลาท่านหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และผู้บริหารท่านอื่นๆ พร้อมได้ชี้แจงเหตุผลถึงการตัดสินใจในครั้งนี้
อนึ่งหากการตัดสินใจครั้งนี้ อาจจะไปกระทบความรู้สึกของท่าน ต้องขออภัย (มาฮัฟ) มา ณ โอกาสนี้ด้วย ผมและท่านคงได้มีโอกาสร่วมงานกันอีก”
รายงานข่าวจากผู้ใหญ่ในพรรคประชาชาติ ระบุว่า ข้อจำกัดทางการเมืองที่ นายนัจมุดดีน พูดถึงในจดหมายนั้น คือการมีพื้นที่ทับซ้อนกับ นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.เขต 3 นราธิวาส ของพรรคประชาชาติ โดยเขต 3 คือพื้นที่ อ.ระแงะ ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของนายนัจมุดดีนด้วยเหมือนกัน โดยในการเลือกตั้งปี 62 นายนัจมุดดีนหลีกทางให้นายกูเฮงลงสมัคร
ส่วนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้าหรือปี 66 นั้น จากการสำรวจความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนโดยพรรคประชาชาติ พบว่า นายกูเฮงยังมีคะแนนนิยมดีมาก และในเลือกตั้งปี 62 ก็สามารถเอาชนะ นายรำรี มามะ อดีต ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงสมัครในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทยไปได้อย่างขาดลอยเกือบ 20,000 คะแนน ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณาให้นายกูเฮง ลงสมัครเพื่อรักษาพื้นที่ต่อไป อีกทั้งนายกูเฮง ยังเป็นลูกชายของ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ในฐานะ “บ้านใหญ่ของนราธิวาส” ด้วย
สำหรับพื้นที่เลือกตั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเพิ่มเขตเลือกตั้งจาก 11 เขต เป็น 12 เขต และพรรคภูมิใจไทยที่เคยชนะได้ 1 เขตในการเลือกตั้งปี 62 ได้พยายามติดต่อทาบทาม ส.ส.และอดีต ส.ส.ระดับ “บิ๊กเนม” มาลงสมัครในนามพรรค โดยส่วนหนึ่งก็ดึงจากพรรคประชาชาติแชมป์เก่า โดยพรรคภูมิใจไทยถือเป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มี ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและปาร์ตี้ลิสต์จากพื้นที่นี้ และเตรียมความพร้อมเพื่อการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งกับพรรคประชาชาติ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ