ญาติผู้กักตัวโควิด อ.ยะหา จ.ยะลา โพสต์โซเชียลฯ แฉสภาพที่กักตัวเก่า ทรุดโทรมเหมือนถูกทิ้งร้าง ที่นอน-หมอนขึ้นรา ประตูล็อกไม่ได้ ไฟก็เสีย ห้องน้ำชาย-หญิงติดกันไร้ความปลอดภัย ด้านเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯยอมรับคนโพสต์เป็นอดีตผู้ป่วยที่เข้ารับการกักตัวจริง สถานที่เคยเป็นศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดมาก่อน ขณะที่ผู้รับผิดชอบคนอื่นยังเงียบ
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ที่เชื้อแพร่กระจายในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้พื้นที่ห่างไกลอย่างสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้สถานที่กักตัว ทั้งเพื่อเฝ้าสังเกตอาการและเป็นโรงพยาบาลสนามจำนวนมาก ซึ่งสถานที่บางแห่งก็ไม่มีความเหมาะสม จนถูกร้องเรียนจากผู้เข้ารับการกักตัวผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์
อย่างผู้ที่ใช้บัญชีเฟซบุ๊กนามว่า noree noreman ได้่โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 พร้อมภาพประกอบ บอกเล่าถึงสภาพสถานที่กักตัวในศูนย์บำบัดยาเสพติด ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ที่ญาติของเธอต้องไปเผชิญ
ข้อความในโพสต์ของเธอสรุปว่า ญาติของตนซึ่งเป็นผู้หญิงได้เข้าไปกักตัวในสถานที่กักตัวที่มีสภาพบ้านโล่งๆ เล็ก ๆ 1 หลัง ภายในบ้านไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากมีพัดลมเก่าๆ ติดเพดาน 1 ตัว มีหมอนและฟูกที่นอนเก่าๆ สกปรกมากๆ ขนาด 3 ฟุต 1 หลัง ไม่มีผ้าปูที่นอน ไม่มีผ้าห่ม ไม่มีปลอกหมอนให้
ญาติของตนเองได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ในศูนย์กักตัวฯ ถึงสภาพที่เห็น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าผู้กักตัวต้องนำของทุกอย่างมาเอง จะให้คนไข้กลับไปเอาเองหรือให้คนที่บ้านนำมาให้ก็ได้ แต่กรณีของญาติไม่สามารถทำได้ เพราะที่บ้านซึ่งอยู่ติดกัน 9 หลัง โควิดกันหมด 34 คน แต่ละคนต้องกักตัว ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ จึงได้ขออุปกรณ์เพิ่มเติม สิ่งที่ได้คือ ฟูก 1 อัน ขนาด 3 ฟุต รวมของเดิมเป็น 2 หมอนอีก 2 ใบที่มีราขึ้น มีเสื่อ 1 ผืน ไม้กวาดกับที่โกยขยะ 1 อัน และหลอดไฟที่ยังไม่ได้เปลี่ยน 1 หลอด สภาพภายในบ้านสกปรกมาก มีฝุ่นเต็มไปหมด มีรังปลวก มีรังมดตามพื้นผนังในบ้าน ผนังบางส่วนติดด้วยถุงดำที่มีรอยขาดๆ ผนังเป็นรู กระเบื้องแตก ไฟในบ้านไม่ค่อยสว่าง นี่คือบ้านหลังแรกที่ญาติต้องเข้าไปพัก
ต่อมามีคนที่กักตัวก่อนหน้าแนะนำให้เปลี่ยนไปอยู่บ้านหลังอื่น และต้องเปลี่ยนไปอีกหลายหลังเนื่องจากกลอนประตูไม่สามารถล็อกได้ และทุกหลังไฟก็ไม่ค่อยสว่าง ที่สำคัญคือห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน ทางเดินไปห้องน้ำก็เปลี่ยวมาก โดยห้องน้ำชาย-หญิง อยู่ติดกัน สามารถชะโงกข้ามผนังที่กั้นดูฝั่งที่ติดกันได้ ซึ่งญาติที่ไปกักตัวเป็นผู้หญิงทั้งหมด จึงหวาดระแวงกับสภาพที่เป็นอยู่อย่างมาก
ช่วงท้าย ผู้โพสต์ได้เขียนตั้งคำถามว่า "ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หน่วยงานคุณจัดเตรียมไว้ให้จริงหรือ!!!!!!?!! ถ้าเป็นลูกหลานของคุณ คุณจะยังให้เขาอยู่ต่อที่นี่ไหม นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่าจัดเตรียมไว้ให้???? ขอถามว่าจริงๆ แล้วคุณได้เข้าไปตรวจสอบบ้านแต่ละหลังแล้วใช่ไหม?? สิ่งที่เกิดข้อเปรียบเทียบอย่างชัดเจนคือ เทศบาลจัดเตรียมของให้สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงที่ต้องกักตัวได้ดีกว่าสิ่งที่อำเภอจัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ที่กลับมาจากโรงพยาบาลต้องกักตัว !!!! มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร!!!??? ความเหลื่อมล้ำของการบริหารจัดการที่ล้มเหลว การโยนไปโยนมาของหน่วยงาน สุดท้ายประชาชนไม่ได้รับคำตอบ!!!!! ถ้าสถานที่ไม่พร้อมรองรับ สู้ให้อยู่โรงพยาบาลต่อให้ครบ 28 วันเลยไม่ดีกว่าหรือ มีหมอคอยสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง แต่การไปอยู่ที่นั่นเจ้าหน้าที่ยังไม่กล้าเข้าใกล้เลย ถ้าเราไม่ออกมาสะท้อน เหตุการณ์นี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำๆ ต่อไป จึงอยากเรียกร้องผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบโดยด่วน"
หลังจากโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป "ทีมข่าวอิศรา" ได้ตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทราบว่า ข้อมูลที่มีการโพสต์นั้น เป็นของผู้ที่เข้าไปกักตัวที่ศูนย์กักตัว ในศูนย์บำบัดยาเสพติด ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา จริง โดยเป็นหนึ่งในผู้ป่วย และสภาพของศูนย์ก็ทรุดโทรมจริง เพราะมไได้ปรับปรุงมานาน
ส่วนสาเหตุที่ผู้ป่วยรายดังกล่าวโพสต์ข้อมูลลงในเฟซบุ๊ก เพราะผู้ป่วยต้องการให้ศูนย์กักตัวมีความพร้อม อยู่สบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง และอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้
สำหรับศูนย์กักตัวแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอำเภอยะหา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบศูนย์กักตัวทราบแล้วว่า มีการโพสต์ข้อมูลแง่ลบดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีผู้บังคับบัญชาสั่งการอะไรลงมา
ล่าสุดทีมข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง นายอมร ปรีดางกูร นายอำเภอยะหา จ.ยะลา และ นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปะแต อ.ยะหา แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้