ผู้ว่าฯยะลาสั่งปิดศูนย์ดะวะห์มัรกัส ห้ามเข้า-ออกทั้งชุมชน เร่งตามนักเรียนกลับภูมิลำเนาตรวจคัดกรอง เบตงปิดซอยพ่นยาหลังพบป่วยโยงมัรกัส ด้านเทศบาลนครยะลา เปิดจองซิโนฟาร์ม มั่นใจ 25 มิ.ย.ได้ฉีดแน่ ส่วนประธานอิสลามปัตตานี ชี้วัคซีนโควิดเป็นฮาลาล ขณะที่ยอดติดเชื้อสงขลาพุ่งไม่หยุด วันเดียว 152 ราย ปัตตานีเกินครึ่งร้อยอีกวัน
วันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงพบผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ "คลัสเตอร์มัรกัสยะลา" ซึ่งกลายเป็นการแพร่ระบาดแบบกลุ่มที่มีผู้ติดเชื้อกระจายไปในหลายจังหวัด
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีประกาศคำสั่งให้พื้นที่หมู่ 3 บ้านเปาะยานิ ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา (ที่ตั้งของศูนย์มัรกัสยะลา) เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง เพื่อควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 พร้อมสั่งปิดศูนย์มัรกัสยะลา เพื่อคุมการแพร่ระบาด และให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากสถานที่ไปเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรค พร้อมห้ามบุคคลเข้า-ออก
ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลังมีการออกคำสั่งปิดพื้นที่ กำลังเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนในพื้นที่หมู่ 3 ต.สะเตงนอก ได้นำท่อซีเมนต์มาวางปิดเส้นทางเข้า-ออกชุมชนมัรกัส
สำหรับ "ศูนย์มัรกัสยะลา" หรือศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย มัสยิดอิล-นูร เป็นสถานที่เรียนรู้และเผยแผ่ศาสนา ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนในศูนย์ดะวะห์ได้ปล่อยนักเรียนกลับบ้านในภูมิลำเนาของตนเอง ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัด ทางศบค.จังหวัดยะลา จึงสั่งการให้แจ้งไปยังทาง ศปก.อำเภอของทุกจังหวัดภาคใต้ เร่งหานักเรียนในศูนย์มัรกัสยะลา เพื่อนำมาคัดกรองหาตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่
@@ เบตงปิดซอยพ่นยา พบป่วยโควิดโยงมัรกัสยะลา
ในเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ได้นำแผงกั้นมาปิดซอยบูเก๊ะตักโกร 1 ชุมชนบูเก็ตตักโกร เป็นการชั่วคราว พร้อมดำเนินการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ภายในและภายนอกของบ้านพักอาศัยผู้ป่วย พร้อมทั้งฉีดบริเวณบ้านพักอาศัยใกล้เคียงและทางสาธารณะ ในระยะ 50 เมตร
ปฏิบัติการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ สืบเนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อ 1 ราย จากศูนย์มัรกัสยะลา หลังไปร่วมกิจกรรมทางศาสนา แล้วเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาของตน โดยได้ไปสัมผัสกับคนในครอบครัวและในชุมชน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขเบตง โรงพยาบาลเบตง และเทศบาลเมืองเบตง ได้ลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุกด้วยวิธีการ Swab ปรากฏว่าพบมีผู้ติดเชื้อจำนวน 11 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนโรคอีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเบตงแล้ว
@@ เทศบาลนครยะลาเปิดจองซิโนฟาร์ม มั่นใจ 25 มิ.ย.ได้ฉีด
วันเดียวกัน ทางเทศบาลนครยะลาได้เปิดให้ประชาชนที่อยู่เขตเทศบาล และใน ต.สะเตงนอก ให้มาลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนยีห้อซิโนฟาร์ม โดยจุดที่เทศบาลนครยะลาเตรียมให้ประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีน คือที่ห้องประชุมเทศบาลนครยะลา, ศูนย์ TK Park, โรงพยาบาลศูนย์ยะลา, ศูนย์บริการสาธารณสุข (6 ศูนย์) และโรงเรียนเทศบาล 1-6 ซึ่งประชาชนต่างให้ความสนใจลงทะเบียนจองรับฉีดวัคซีนทุกจุดตั้งแต่ 08.30 น. และลงทะเบียนจองผ่านทางเว็บไซต์ของเทศบาลนครยะลา เต็มจำนวน 2,000 คน หลังเปิดลงทะเบียนแค่ 1 ชั่วโมง
นายยู่สิน จินตภากร รองนายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่า ประชาชนที่มาลงทะเบียนฉีดวัคซีนมีการตื่นตัวค่อนข้างมาก แต่ปัญหาต้องยอมรับว่า เราได้วัคซีนมาในจำนวนที่จำกัดคือ 25,000 โดส และขอยืนยันว่า หากเป็นไปตามแผนบริหารจัดการวัคซีนที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด ก็จะดำเนินการฉีดให้ประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 25 มิ.ย.นี้
@@ปัตตานี สั่งปิด 2 หมู่บ้าน อ.ไม้แก่น
ที่ห้องพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 13/2564 เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ที่เชื่องโยงมาจากหลายคลัสเตอร์ ทั้งในจังหวัดและนอกพื้นที่ อาทิ จากโรงงานรอแรลฟู้ดส์ โรงงานแพอรุณ จากร้านอาหารใน จ.ยะลา มัสยิดนูรลอิสลามยะลาและกลุ่มอื่น ๆ จึงได้กำหนดใช้มาตรการการป้องกันฯ ที่เข้มข้นอีกครั้ง โดยให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในลักษณะซื้อไปกินที่บ้านเท่านั้น หากพบผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในชุมชนให้งดการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและห้ามการออกดาวะฮ์อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ได้เห็นชอบให้มีการปิดหมู่บ้านในพื้นที่กลุ่มบ้านเมาะโม หมู่ที่ 4 กลุ่มบ้านพ่อเทพ และบ้านแลกือแล หมู่ที่ 5 อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ประมาณ 120 ครอบครัว ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.64 เพื่อทำการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19
@@ ประธานอิสลามปัตตานี ชี้วัคซีนโควิดเป็นฮาลาล
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี รองจุฬาราชมนตรี ได้กล่าวว่า คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ กับพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ แม้มีกระแสข่าวการต่อต้านการฉีดวัคซีน โดยผู้ที่ต่อต้านได้ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงจากโลกออนไลน์ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ฮาลาล และฉีดแล้วไม่ปลอดภัย ซึ่งตนได้อ้างอิงจากสถาบันหลักของโลกมุสลิม และสำนักจุฬาราชมนตรี ยืนยันว่า มุสลิมฉีดวัคซีนได้ เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและร่วมป้องกันสังคมด้วย
จากกรณีดังกล่าวได้ลงพื้นที่ไปตามอำเภอต่างๆของ จ.ปัตตานี โดยนำเอาคำวินิจฉัยของท่านจุฬาราชมนตรีและองค์กรโลกมุสลิม(OIC) ไปอธิบายให้ผู้นำศาสนาในพื้นที่ต่างๆ มีความเข้าใจมากขึ้นว่า การฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่ฮาลาล ซึ่งเป็นไปตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามส่งเสริมให้เราดูแลชีวิตของเรา
@@ ผู้ว่าฯสงขลา แจงหลายคลัสเตอร์ทำติดเชื้อสะสมกว่า 3,000 ราย
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมกับนายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายแพทย์อิฏฐผล เอี้ยววงษ์เจริญ นายแพทย์ชำนาญการฝ่ายควบคุมติดต่อทั่วไป ร่วมแถลงข่าว “ทางรอดสงขลาฝ่าวิกฤตโควิด-19” ที่ห้องประชุม conference ศาลากลางจังหวัดสงขลา พร้อมได้สรุปสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสงขลา วันนี้ (18 มิ.ย.64) ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 152 ราย ส่วนใหญ่มาจากคลัสเตอร์หลัก ประกอบด้วยโรงงานอุตสาหกรรม เรือนจำ ชุมชนและบุคคนในครอบครัว บุคคลที่รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม และกลุ่มนักเรียนจากศูนย์มัรกัสยะลา โดยมียอดสะสมรวมอยู่ที่ 3,071 ราย
ส่วนมาตรการในการดำเนินการภายในโรงงานอุตสาหกรรมได้นำระบบ Bubble and Seal มาใช้และมีมาตรการการตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ครอบคลุมมากที่สุด มีการตรวจแยกจผู้เสี่ยงต่ำ ผู้เสี่ยงสูง การจัดตั้ง Factory Quarantine พร้อมทั้งสนับสนุนให้ฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง ส่วนในชุมชนได้มีการจัดล็อกดาวน์ ทั้งชุมชนเก้าเส้ง อ.เมือง และชุมชนป้อม 6 อ.หาดใหญ่ พร้อมทั้งออกคำสั่งสถานที่เสี่ยง สถานที่สาธารณะในจังหวัดสงขลา 8 แห่ง พร้อมเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษทันที
@@ โควิดสงขลาพุ่งไม่หยุดวันเดียว 152 ราย ปัตตานีเกินครึ่งร้อยอีกวัน
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา ประจำวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 70 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 956 ราย รักษาหายแล้ว 387 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย
มีผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 51 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 62 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 94 ราย โรงพยาบาลสนามสี่ 207 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 25 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 7 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย โรงพยาบาลยะรัง 4 ราย โรงพยาบาลยะหริ่ง 1 ราย โรงพยาบาลไม้แก่น 7 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 16 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 90 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 2 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 328 ราย, อ.หนองจิก 188 ราย, อ.โคกโพธิ์ 17 ราย, อ.ยะหริ่ง 127 ราย, อ.สายบุรี 60 ราย, อ.ไม้แก่น 29 ราย, อ.แม่ลาน 10ราย, อ.ยะรัง 78 ราย, อ.ปะนาเระ 37 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 6 ราย, อ.มายอ 25 ราย และ อ.กะพ้อ 40 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 46 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 700 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 343 ราย (ส่งต่อรักษาโรงพยาบาล ม.อ. 1 ราย) รักษาหายแล้ว 351 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 6 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,783 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 343 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 98 ราย โรงพยาบาลเบตง 46 ราย โรงพยาบาลรามัน 26 ราย โรงพยาบาลยะหา 43 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 13 ราย และโรงพยาบาลสนาม 117 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 198 ราย, อ.กรงปินัง 66 ราย, อ.เบตง 63 ราย, อ.รามัน 65 ราย, อ.บันนังสตา 83 ราย, อ.กาบัง 18 ราย อ.ธารโต 122 ราย และ อ.ยะหา 85 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 22 ราย ในพื้นที่ อ.ยี่งอ 8 ราย อ.สุไหงปาดี 4 ราย อ.เมือง 2 ราย อ.บาเจาะ 2 ราย อ.รือเสาะ 2 ราย อ.ตากใบ 1 ราย อ.ศรีสาคร 1 ราย อ.ระแงะ 1 ราย และ อ.จะแนะ 1 ราย มีผู้ป่วยสะสม 1,312 ราย รักษาหายแล้ว 1,097 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 538 ราย, อ.ระแงะ 48 ราย, อ.รือเสาะ 41 ราย, อ.บาเจาะ 128 ราย, อ.จะแนะ 42 ราย, อ.ยี่งอ 27 ราย, อ.ตากใบ 368 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 15 ราย, อ.สุไหงปาดี 49 ราย, อ.ศรีสาคร 12 ราย, อ.แว้ง 32 ราย, อ.สุคิริน 7 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 4 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 152 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 19 ราย กลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 119 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยง รร.สอนศาสนายะลา 7 ราย กลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ 1 ราย และกลุ่มรอสอบสวนโรค 6 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 3,071 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 3,048 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 893 ราย รักษาหายแล้ว 2,164 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย เป็นชายอายุ 76 ปี เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 14 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 480 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,127 ราย, อ.เมืองสงขลา 472 ราย, อ.บางกล่ำ 120 ราย, อ.จะนะ 271 ราย, อ.รัตภูมิ 30 ราย, อ.สะเดา 217 ราย, อ.สิงหนคร 40 ราย, อ.เทพา 8 ราย, อ.ระโนด 9 ราย, อ.สะบ้าย้อย 26 ราย, อ.นาทวี 9 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 19 ราย, อ.นาหม่อม 15 ราย, อ.สทิงพระ 17 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 4 ราย, อ.ควนเนียง 1 ราย เป็นกรณีเรือนจำ จ.สงขลา 640 ราย เป็นเรือนจำกลาง 2 ราย เป็นกรณีทัณฑสถานหญิง จ.สงขลา 1 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 20 รายและจากต่างประเทศ 23 ราย