ฝ่ายปกครองเมืองนราธิวาส เจออาวุธปืน 1 กระบอกถูกทิ้งไว้ริมถนน ตรวจสอบเป็น “ปืนอส.” ที่หายไปจากคลัง ขณะที่ด้านผู้การนราฯ เผยยังไม่ทราบเรื่อง ระบุยังตามปืนหายอีก 20 กระบอก
วันพุธที่ 16 มิ.ย.64 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบอาวุธปืน AK 102 ของเจ้าหน้าที่ อส.(อาสารักษาดินแดน) ประจำอำเภอเมืองนราธิวาส จำนวน 1 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่สูญหายจากคลังของกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 และมีการแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดอยู่ในกระสอบปุ๋ย วางอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน บ้านตะเจะ หมู่ 11 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส
ต่อมา นายนนธทวัฒน์ ดีดาษ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคงฯ นำกำลังเข้าตรวจสอบพร้อมนำอาวุธปืนดังกล่าวกลับมาตรวจสอบ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองนราธิวาส
ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นอาวุธปืน AK 102 หมายเลขประจำปืน 101162141 พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 ซอง อยู่ในบัญชีสูญหายลำดับที่ 17 ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่สูญหายจากคลังกองร้อย อส.อำเภอเมืองนราธิวาส ที่ 2 ตามที่ฝ่ายปกครองได้ร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 19 พ.ค.64 ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกตรวจยึด และนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้อาวุธปืน AK 102 ที่ได้สูญหายไปจากคลังอาวุธปืน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 และมีการไปแจ้งความนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 28 กระบอก ที่ผ่านมาตรวจสอบพบว่าได้ปืนกลับคืนมาแล้วรวม 6 กระบอก ส่วนใหญ่ได้จากการปิดล้อมตรวจค้น และยิงปะทะกับคนร้าย นอกจากนั้นเป็นการนับผิด 2 กระบอก ก่อนหน้านี้จึงมีอาวุธปืนที่อยู่ระหว่างการติดตามสืบสวนเพิ่มเติมจำนวน 20 กระบอก
ฉะนั้นเมื่อเจออาวุธปืนล่าสุดอีก 1 กระบอก ทำให้ยังคงเหลืออาวุธปืนที่สูญหายอยู่ 19 กระบอก
ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องเจอปืนของ อส.ที่สูญหายเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนหาหลักฐานสอบพยาน เพื่อเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
สำหรับการพบปืน อส.ที่สูญหายไปจากคลัง ด้วยการมีบุคคลลึกลับนำใส่กระสอบปุ๋ยมาวางไว้ริมถนนเช่นนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า เป็นการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีปืนหายเอง ต้องการส่งปืนคืน แต่กลัวความผิดหรือไม่ จึงจัดฉากนำปืนใส่กระสอบแล้ววางทิ้งไว้ ให้ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดปืนเอง
วิธีการแบบนี้เคยเกิดมาหลายครั้งแล้ว ที่ฮือฮาที่สุดคือ การส่งคืนของกลางในคดีเพชรซาอุฯ ซึ่งถูกโจรกรรมมาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเมื่อเรื่องราวบานปลายกลายเป็นคดีใหญ่ ก็มีบุคคลลึกลับนำเครื่องเพชรและของมีค่าที่ถูกโจรกรรมมา ทยอยไปวางไว้ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ บ้างก็แขวนบนต้นไม้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ไปตามยึดมาเป็นของกลางในคดี และส่งคืนประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยในครั้งนั้นก็เชื่อว่าเป็นการกระทำของคนที่รับซื้อของมีค่าเหล่านี้ไป และกลัวความผิด แต่ไม่กล้านำมาคืนโดยตรง จึงต้องใช้วิธีจัดฉาก