ยะหาไข่แตกแล้ว เจอหญิงวัย 51 ปี เสียชีวิตติดเชื้อโควิด-19 สสจ.ยะลา ยืนยันข้อมูล รอ ศบค.แถลงอย่างเป็นทางการ ขณะที่เกาะสะท้อนยังคุมเข้ม แจ้งเอาผิดหนุ่มแพร่โควิดแอฟริกาใต้ ส่วนสงขลาพบนักโทษเรือนจำติดเชื้อ 16 ราย
วันพุธที่ 26 พ.ค.64 มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการจากพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 ราย เป็นสามีภรรยา นักธุรกิจปั๊มน้ำมัน โดยสามีเดินทางกลับจาก จ.นราธิวาส ได้นำเชื้อมาแพร่ให้กับภรรยาที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา โดยเมื่อวันอังคารที่ 25 พ.ค.64 ทั้ง 2 คน ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลยะหา และภรรยาได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า มีรายงานแจ้งมายังนายอำเภอยะหา กรณีผู้ติดเชื้อยืนยันว่า เป็นผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 ราย อยู่พื้นที่ ต.บาโงยซิแน โดยรายที่ 1 เป็นเพศชาย เป็นนักธุรกิจ ปั๊มน้ำมัน มีข้อมูลว่า มีการเดินทางไปนราธิวาสและที่อื่นๆ อีกหลายที่ ได้เข้ารักษาโรงพยาบาลยะหาแล้ว รายที่ 2.เป็นภรรยาของรายที่ 1 อยู่บ้านไม่เดินทางไปใหนติดเชื้อจากสามี เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลยะหา ต่อมาได้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว โดยทั้ง 2 มีอาการและผล x-ray ชัดเจนเข้าข่ายเป็นเชื้อโควิด 19 และได้รับการตรวจยืนยันแล้ว แต่ข้อมูลนี้ ได้มีการรายงานไปที่ ศบค.ทราบแล้ว ซึ่งตอนนี้ ข้อมูลทั้งหมด เป็นข้อมูลที่ยังไม่เป็นทางการ ก่อนที่ ศบค.จะแถลงอย่างเป็นทางการ
ทำให้ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจคัดกรองหา ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้เสี่ยงต่ำว่า มีจำนวนมากหรือไม่ ถ้าพบว่า มีจำนวนมากอาจต้องขออนุญาตทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ขอปิดหมู่บ้าน ตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการและร่วมหารือ เพื่อกำหนดมาตรการต่อไป ยืนยันว่า ยะหา ไข่แดงแตกแล้วตอนนี้ หลังจากที่มีการเฝ้าระวังอย่างเข็มงวดมาตลอด
ชาวบ้านรายหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.บาโงยซิแน กล่าวว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำลังดำเนินการคัดกรองชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ซึ่งเป็นหมู่บ้านของผู้หญิง อายุ 51 ปี ผู้เสียชีวิต ที่ติดโควิดจากสามี ซึ่งเป็นชาว จ.นราธิวาส และกำลังอยู่ระหว่างการรักษาตัว เรื่องนี้ทำให้ชาวบ้านทุกคนรู้สึกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้เสียชีวิตอายุ 51 ปี ติดโควิดแควันเดียวก็ตายได้ ชาวบ้านจึงพร้อมที่จะร่วมมาตรการที่ทางจังหวัดจะกำหนดมา เพื่อเป็นการเฝ้าระวังโควิดไม่ให้มีการแพร่เชื้อต่อไปอีก
จากการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ดังกล่าว ทำให้ในขณะนี้ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงเหลือเพียง อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นอำเภอเดียวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังไม่มีรายงานพบเชื้อโควิด-19
@@ สสจ.ยะลา ยืนยันเสียชีวิตจากโควิดจริง
จากการเสียชีวิตของผู้หญิงวัย 51 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา เนื่องจากยังเป็นรายงานข่าวที่ไม่เป็นทางการและทาง ศบค.ยังไม่มีการแถลงยืนยัน และยังมีการแชร์ข้อมูลออกไปตามสื่อโซเชียลว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ในเรื่องดังกล่าวทางทีมข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากทาง นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ว่า กรณีผู้เสียชีวิตของที่ อ.ยะหา ยืนยันว่าเป็นโควิด-19 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนว่าเป็นโควิดสายพันธุ์อะไร เพราะเจอเชื้อแล้วก็เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว คาดว่า รายละเอียดทั้งหมดจะมีการชี้แจงอีกครั้งเร็วๆนี้
@@ แจ้งจับหนุ่มแพร่โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้
ด้านบรรยากาศในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลังมีคำสั่งปิดหมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 64 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านในพื้นส่วนใหญ่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และเข้าใจมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการขออนุญาตเข้า - ออกหมู่บ้านอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 30 เจ้าหน้าที่ อส.จากฝ่ายปกครองอำเภอตากใบและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากใบ ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่บริเวณด่านตรวจโควิด 19 อย่างเข้มงวด
โดยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรวม 89 คน ที่รวมถึงติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา อีก 11 คน ถูกกักตัวดูอาการ 14 วันที่โรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน และศูนย์เด็กเล็ก 121 คน รักษาหายแล้ว 167 คน และเจ้าหน้าที่จะทำการ SWAB ในวันนี้ ( 26 พ.ค.) เพื่อหาเชื้ออีก 230 คน
มีรายงานว่า สำหรับบุคคลที่นำเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้จากประเทศมาเลเซียมาแพร่ระบาดในพื้นที่ ต.เพาะสะท้อน ซึ่งเป็นชาย อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.9 ต.เกาะสะท้อนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว 3 ข้อหา คือ ฝ่าฝืน พรบ.โรคติดต่อ, ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน และ ป วิ อาญา แจ้งข้อความให้พนักงานอันเป็นเท็จ
@@ นักโทษเรือนจำสงขลาติดโควิด 16 ราย
นายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้เผยผลการตรวจโควิด-19 ในกลุ่มผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสงขลา จำนวน 24 คน ซึ่งเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง พบว่า ผลการตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด -19 จำนวน 16 คน จากจำนวนกลุ่มเสี่ยง 24 คน โดยรอผลการตรวจอีก 8 คน โดยทั้ง 24 คนได้ถูกกันตัวออกมาแยกขังหลังพบว่า เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้คุมที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทางสาธารณสุขจังหวัดสงขลา จะเข้าไปตรวจเชิกรุกในเรือนจำ เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อและสกัดกั้นการแพร่ระบาดต่อไป
ทางด้านคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ได้ออกประกาศที่ 29/2564 เรื่อง ขยายระยะเวลาการบังคับใช้และผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ( โควิด-19 ) ตั้งแต่ 26 พ.ค.64 - 8 มิ.ย.64 ดังนี้
1.การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
- ปิดสถานที่จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย ได้แก่ สนามชนโค ชนไก่ กัดปลา และแข่งขันนก
-ปิดสถานที่ชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 26 พ.ค.64 - 8 มิ.ย.64 ได้แก่ สถานบริการ สถานที่ให้บริการ สถานที่ทำกิจกรรมต่างรวม 27 ประเภท
2.กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนสำหรับสถานที่ กิจการหรือกิจกรรม ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ตั้งแต่ 11.00-21.00น. , ร้านสะดวกซื้อ เปิดได้ 05.00-21.00 น. , ร้านอาหารเปิดได้ถึง 21.00 น. และปฏิบัติตามมาตรการ , งดจำหน่ายเครื่องแฮลกอฮอล์ในร้านอาหาร , ตลาดนักกลางคืน ตลาดโต้รุ่งเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. และสนามกีฬาที่เป็นพื้นที่โล่งเปิดบริการได้
3.ในการจัดกิจกรรมทางสังคม ห้ามจัดงานเลี้ยงสังสรรค์งานรื่นเริงทุปกระเภท , ห้ามไม่ให้จัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวเกินกว่า 20 คน และการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาให้เป็นไปตามมติขององค์กรศาสนานั้นๆ
@@ โควิดชายแดนใต้ยังไม่ซา สงขลาโผล่ 58 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และ จ.สงขลา ประจำวันพุธที่ 26 พ.ค.64
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 297 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 150 ราย รักษาหายแล้ว 143 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4 ราย รอผลตรวจยืนยันอีก 1,140 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 83 ราย, อ.กรงปินัง 41 ราย, อ.เบตง 18 ราย, อ.รามัน 62 ราย, อ.บันนังสตา 33 ราย, อ.กาบัง 4 ราย และ อ.ธารโต 56 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 150 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลยะลา 48 ราย โรงพยาบาลเบตง 4 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 1 ราย โรงพยาบาลสนาม 72 ราย และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ 25 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ 316 ราย รักษาหายแล้ว 262 ราย และเป็นจังหวัดเดียวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
มีผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 7 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 23 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 7 ราย โรงพยาบาลสนามสาม 5 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 3 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 3 ราย โรงพยาบาลทุ่งยางแดง 1 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณาแอดมิท 3 ราย และส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 141 ราย, อ.หนองจิก 84 ราย, อ.โคกโพธิ์ 4 ราย, อ.ยะหริ่ง 26 ราย, อ.สายบุรี 19 ราย, อ.ไม้แก่น 1 ราย, อ.แม่ลาน 3 ราย, อ.ยะรัง 13 ราย, อ.ปะนาเระ 15 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 4 ราย และ อ.มายอ 5 ราย ส่วน อ.กะพ้อ เป็นอำเภอเดียวที่ยังไม่พบผู้ป่วย
จ.นราธิวาส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย แยกเป็นในพื้นที่ อ.ตากใบ 12 ราย (ต.เกาะสะท้อน) , อ.รือเสาะ 2 ราย (ต.สามัคคี, ต.สุวารี) อ.ศรีสาคร 1 ราย (ต.กาหลง) , อ.ยี่งอ 1 ราย (ต.ลูโบะบือซา) และ อ.จะแนะ 1 ราย (ต่างประเทศ) ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 788 ราย รักษาหายแล้ว 617 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 1 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 488 ราย, อ.ระแงะ 18 ราย, อ.รือเสาะ 32 ราย, อ.บาเจาะ 29 ราย, อ.จะแนะ 15 ราย, อ.ยี่งอ 7 ราย, อ.ตากใบ 143 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 7 ราย, อ.สุไหงปาดี 22 ราย, อ.ศรีสาคร 8 ราย อ.แว้ง 14 ราย, อ.สุคิริน 2 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 58 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 44 รายประกอบด้วย ผู้ต้องขังในเรือนจำ 16 ราย , ค้นหาเชิงรุกโรงงานจะนะ 7 ราย , ค้นหาเชิงรุกชุมชนโคกเมา 6 ราย , สัมผัสผู้ติดเชื้อจากที่อื่น 15 ราย และ กลุ่มรอสอบสวนโรค 14 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 1,342 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 1,330 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 428 ราย รักษาหายแล้ว 908 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาวเบตงที่มารักษาที่ จ.สงขลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 7 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 265 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 795 ราย, อ.เมืองสงขลา 182 ราย, อ.บางกล่ำ 65 ราย, อ.นาหม่อม 15 ราย, อ.จะนะ 151 ราย, อ.รัตภูมิ 16 ราย, อ.สะเดา 13 ราย, อ.สิงหนคร 11 ราย, อ.เทพา 6 ราย, อ.ระโนด 8 ราย, อ.สะบ้าย้อย 15 ราย, อ.นาทวี 6 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 12 ราย, อ.สทิงพระ 2 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 3 ราย, อ.ควนเนียง 1 ราย เป็นกรณีเรือนจำ จ.สงขลา 16 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 13 ราย และจากต่างประเทศ 12 ราย