ที่วัดพระบาท ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ค่ำวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา “สงขลาโฟกัส” ได้เข้าไปแสดงความเสียใจกับครอบครัว “กิตติประภานันท์” ที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ 3 ราย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สลดใจอย่างยิ่ง และมีหลายองค์กรออกมา “ประณาม” การกระทำครั้งนี้
เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้งานศพของครอบครัว “กิตติประภานันท์” ต้องจัดแบบ New Normal แต่ก็ยังมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าไปแสดงความเสียใจแบบไม่ขาดสาย โดยคืนนี้ นายวงศกร นุ่นชูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา และทหาร มาร่วมพิธีสวด
นางเข็มทอง กิตติประภานันทน์ ภรรยาและแม่ ซึ่งอยู่ในภวังค์ความเศร้า ที่สัมผัสได้ชัดเจนจากสีหน้า ท่าทางที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดในการสูญเสียในครั้งนี้ เราเอง (ผู้ทำข่าว) ก็รู้สึกจุกถึงกับพูดไม่ออก
เธอบอกว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน เป็นการกระทำที่รุนแรง และไม่เคยคิดว่า เหตุการณ์นี้จะเกิดการครอบครัวของตัวเอง ทำไมไมนึกถึงหัวอกของคุณแม่ว่า จะอยู่อย่างไร เกิดคำถามว่ามากมายว่า ไม่สงสารบ้างเหรอ? ทำไมถึงทำได้ลงคอ? น้องเข้ายังเด็กอยู่
“อยากรู้ว่าคนร้ายไม่คิดจะสำนึกบ้างหรือ คนร้ายไม่พอใจฝ่ายใด ทำไมถึงต้องมาลงที่ครอบครัวของเรา ทำไมเราถึงต้องเป็นผู้รับเคราะห์ในครั้งนี้ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน เกิดคำถามว่า ทำไมถึงต้องทำร้ายครอบครัวของเรา”
“แม่อยากรู้ว่า ทำไมผู้ร้ายไม่คิดจะสำนึกบ้างหรือ เพราะคุณพ่อไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร ทำมาค้าขายอาชีพที่สุจริต ทำไมถึงทำแบบนี้ได้ลงคอ”
เธอกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ....
พร้อมบอกว่า เมื่อผู้นำไม่มีแล้วจะต้องทำใจรับผล เมื่อผู้นำครอบครัวไม่อยู่แล้วเราไม่สามารถที่จะหวนเขากลับมาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ในส่วนของความเสียใจสุดชีวิต ไม่สามารถที่จะบรรยายได้
“ชีวิตต้องสู้ต่อไป ก็จะทำมาค้าขาย แต่จะให้ทำอาชีพแบบคุณพ่อก็คงทำไม่ได้แล้ว คุณแม่ไม่ได้มีเรี่ยวแรงที่จะทำงานอย่างนั้น ก็คงต้องหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวเอง”
“ทั้งครอบครัว พ่อเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงครอบครัวอย่างที่เห็น นับตั้งแต่นี้ไปจะต้องพึ่งตนเอง อยู่กินตามประสาแม่ลูก 2 คน เมื่อผู้นำไม่อยู่แล้ว”
นางเข็มทอง กล่าวถึงกรณีที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้เข้ามาพูดคุยหลังจากเสร็จงาน จะให้ช่วยเหลืออย่างไร ค่อยว่ากัน ทั้งเพื่อนพี่น้องหรือลูกสาวก็ต่างให้กำลังใจให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้
“ลูกสาวเป็นเด็กที่เข้มแข็ง คอยให้กำลังใจแม่ตลอด เพื่อให้พ้นจากช่วงเวลานี้ไปได้ และคอยอยู่เคียงข้างแม่ตลอด” นางเข็มทอง กล่าวถึง “น้องแนน” นางสาวพรพิมล กิตติประภานันทน์ ฟูกาคนเล็กที่ศึกษาปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ ม.อ. ซึ่งต้องสูญเสียพี่สาว “นางสาวจิราพร” ศิษย์เก่า ม.อ. วิทยาเขตภูเก็ต ไปพร้อมกับพ่อ และญาติอีก 1 คน
“น้องแนน” เผยว่า ปกติแล้วคุณพ่อจะเป็นเสาหลักของบ้านที่หาเงินค่าเทอม ค่าใช้จ่าย เมื่อคุณพ่อเสียชีวิตลงทำให้ตอนนี้ทางครอบครัวขาดรายได้ ทำให้หาส่วนนั้นลำบากขึ้น
“ตอนนี้หนูจะต้องเป็นเสาหลักและเป็นที่พึ่งให้กับคุณแม่ ต้องพยายามหาเงินและกังวลว่าค่าเทอมและค่าใช้จ่ายจะไม่เพียงพอ ส่วนทางคุณแม่จะเป็นห่วงในเรื่องการเรียน แต่ตอนนี้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็มีหลายหน่วยงานให้การช่วยเหลือ ทั้งทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย” น้องแนน กล่าว และว่า
อยากให้รัฐบาลช่วยจับคนร้ายให้ได้เพราะเหตุการณ์อย่างนี้เกิดเหตุมานานแล้ว ไม่ใช่แค่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นมาหลายปีเรื่องของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงอยากให้รีบแก้ไขโดยใช้ความจริงจัง เพราะตนไม่ทราบว่ามีเบื้องหลังอะไรที่เกิดขึ้น แต่อยากให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์แบบนี้เสียที ไม่ใช่แค่ในจังหวัดภาคใต้ แต่ในพื้นที่อื่นเขาก็จะมองว่าสามจังหวัดน่ากลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มีคนกล้าที่จะเข้าไป จะทำให้คนมองสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ดี
---------------------------------
ที่มา : โฟกัส ภาคใต้