แม่ทัพภาค 4 สั่งเข้มชายแดนป้องกันลักลอบหนีคัดกรองโควิดเข้าประเทศไทย ขณะที่ด่านสะเดา-เบตง เปิดรับคนไทยข้ามแดน หลังมาเลย์ผลักดันต่างชาติกลับประเทศถึง 21 เม.ย. ด้าน จ.สงขลา มีป่วยโควิดเพิ่มอีก 34 ราย นราธิวาสติดเชื้อรายใหม่ 15 สะสมเกือบ 400 ราย ผู้ว่าฯรับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์สู้ภัยโควิด
วันที่ 19 เม.ย.64 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งเตรียมพร้อมรองรับคนไทยกลับเข้าประเทศ หลังทางการมาเลเซียขีดเส้นผลักดันชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่อย่างผิดกฎหมาย ต้องเดินทางออกจากประเทศก่อนวันที่ 21 เม.ย. หลังจากที่ได้มีการผ่อนผันมาแล้วหลายครั้ง อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยแม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำว่าพร้อมรับคนไทยทุกคนกลับบ้าน แต่ต้องผ่านกระบวนการคัดกรองโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศ
พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า ภายหลังมาเลเซียเร่งรัดผลักดันให้ชาวต่างชาติที่อาศัยในเมืองผิดกฎหมาย ต้องเดินทางออกจากประเทศก่อนวันที่ 21 เม.ย.64 โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่อยู่ในมาเลเซียนั้น เราได้มีการเตรียมการรับมือเรื่องนี้ไว้แล้วโดยได้ประสานจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ติดชายแดนมาเลเซียให้มีมาตรการรับมือทั้งเรื่องของสถานที่สำหรับรองรับกลุ่มดังกล่าว ทั้งยังได้สั่งการให้หน่วยกำลังทุกหน่วยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างใกล้ชิด ตลอดจนหน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาตรการที่เคยใช้ควบคุมโรคโควิด-19 ที่ใช้ได้ผลเป็นอย่างดีมายกระดับเพิ่มเติม
ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันตามแนวชายแดนก็ได้สั่งให้เข้มงวดมาตรการดูแลสกัดกั้นตามแนวชายแดน ซึ่งได้ดำเนินการมาโดยตลอดตั้งแต่ มี.ค.ปีที่แล้ว โดยได้มีการตรวจตราตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพิ่มเติมกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติผิดกฎหมายของแรงงานคนไทยที่ไปทำงานยังมาเลเซีย ที่จะต้องนำเข้ากระบวนการ Quarantine ป้องกันโรคโควิด-19 ทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวอีกว่า สำหรับชายแดนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษนั่นคือ ฝั่งจังหวัดนราธิวาสและสงขลา เพราะมีช่องทางธรรมชาติที่หลายช่องทาง ที่สามรถแอบลักลอบเข้ามาได้ ประกอบกับทั้ง 2 จังหวัดนี้ ขณะนี้เป็นพื้นที่สีแดงที่ต้องมีการควบคุมสูงสุด เนื่องจากมีระบาดจำนวนมาก โดยเฉพาะทางจังหวัดนราธิวาส ที่มักมีผู้ลักลอบเข้ามาทางฝั่ง อ.ตากใบ อ.แว้ง และ อ.สุไหงโกลก โดยข้ามแม่น้ำเข้ามา ยิ่งช่วงนี้หน้าแล้ง น้ำแห้งทำให้สามารถข้ามมาได้โดยสะดวก ยิ่งมาเลเซียผลักดันอาจทำให้มีคนแอบลักลอบเข้ามามายิ่งขึ้น โดยเมื่อวานนี้สามารถจับกุมได้กว่า 40 คน ก็ได้นำเข้ากักตัวสังเกตอาการทั้งหมด
นอกจากกำลังเจ้าหน้าที่แล้วก็ได้ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาดูแล ช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง สำหรับชายแดนที่ติดทางทะเล จ.สตูล ก็ได้ให้กำลังป้องกันชายแดน โดยกองกำลังเทพสตรี เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเข้มงวดกวดขันยังจุดที่เป็นเกาะแก่งต่างๆ ที่คาดว่าอาจมีการลักลอบเข้ามา โดยส่วนใหญ่มาทางเรือ ก็ได้ประสานการทำงานร่วมกับทัพเรือภาค 3 ในการลาดตระเวนทางทะเลเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่
แม่ทัพภาค 4 กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ดี ขอฝากถึงประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการเฝ้าระวังป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะเข้ากลับมายังประเทศไทยขอให้แจ้งผ่านเข้ามายังเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้อำนวยความสะดวกช่วยเหลือและนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคตามที่ สบค.กำหนด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ยืนยันไม่ว่า จะเดินทางเข้ามาผ่านช่องทางใดเจ้าหน้าที่พร้อมรับและดูแล แต่ต้องมีการคัดกรองโรคอย่างเข้มข้น และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นผู้ที่แอบลักลอบเข้ามายังหมู่บ้าน ชุมชนของตนโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรค ก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่
@@จับ 44 แรงงานไทยลักลอบข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก เข้าไทย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ลักลอบข้ามแม่น้ำโก-ลก บริเวณใต้สะพานข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวน 44 คน แยกเป็น จ.ปัตตานี 30 คน เป็นผู้ชาย 20 คน ผู้หญิง 10 คน จ.ยะลา 6 คน เป็น ผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 2 คน จ.นราธิวาส 6 คน เป็น ผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 3 คน จ.สงขลา ผู้ชาย 1 คน จ.นครศรีธรรมราช ผู้หญิง 1 คน
จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มแรงงานไทยกลุ่มนี้ได้เดินทาง มาจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีอาชีพรับจ้างร้านอาหาร โดยมีเถ้าแก่ร้านอาหารเป็นผู้ติดต่อนายหน้าในการเดินทางกลับประเทศ จะต้องเสียค่าโดยสาร เป็นรถบัสจ้างเหมา คนละ 60 เหรียญ ออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ฯ และเดินทางถึงชายแดน จากนั้นได้ใช้เรือข้ามแม่น้ำโก-ลก มายังฝั่งไทย สาเหตุที่ต้องลักลอบ เพื่อต้องการกลับภูมิลำเนาและไม่มีหนังสือเดินทาง
ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวทั้งหมด ส่ง สภ.สุไหงโก-ลก เปรียบเทียบปรับ จัดทำประวัติ ตำหนิรูปพรรณพร้อมทั้งส่งตัวเข้ากระบวนการคัดกรองเชื้อโควิด –19 ที่ ศูนย์พักคอย เพื่อการส่งเข้ากระบวนการคัดกรอง สนามกีฬามหาราช เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งจะดำเนินการตามขั้นตอนมาตรการควบคุมโรค ในการส่ง Local Quarantine แต่ละจังหวัดภูมิลำเนาในวันพรุ่งนี้ต่อไป
@@ ด่านสะเดา-เบตง เปิดรับคนไทยข้ามแดน
ส่วนที่บริเวณด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ในวันนี้ (19 เม.ย.) ได้มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ทยอยเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด หลังจากที่ทางการมาเลเซียได้ออกประกาศให้ผู้ที่ไม่ได้รับการตรวจลงตราให้พำนักอยู่ในประเทศมาเลเซียหรืออยู่เกินกำหนด เดินทางกลับประเทศต้นทางภายในวันที่ 21 เม.ย.64 โดยไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทำให้มีคนไทยเดินทางกลับมาในวันนี้จำนวน 119 ราย จากที่ลงทะเบียนขอกลับประเทศไทยผ่านระบบของกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 300 ราย ส่วนคนไทยที่เหลือ จะเดินทางกลับเข้ามาภายในวันที่ 21 เม.ย.64 โดยทางจังหวัดสงขลาได้มีการเตรียมสถานที่สำหรับกักตัวไว้ทั้งหมด จำนวน 7 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาได้ประมาณ 500 คน เพื่อกักตัว 14 วันตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของภาครัฐ
เช่นเดียวกับที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ทางเจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วมประสานงานประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โรงพยาบาลเบตง เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ ตชด.และฝ่ายปกครองอำเภอเบตง ได้ร่วมกันทำการตรวจคัดกรองป้องกันโควิด-19 กับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย โดยต้องผ่านการฉีดยาฆ่าเชื้อ ตรวจสัมภาระ ซักประวัติ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกักตัว 14 วัน ที่ศูนย์ Local Quarantine ตามกระบวนการควบคุมโรคระบาด ภายหลังทางการมาเลเซียกำหนดเส้นตายให้ชาวต่างชาติต้องออกจากประเทศก่อน 21 เม.ย.64
โดยมีผู้ลงทะเบียนที่มีความประสงค์เดินทางผ่านด่านพรมแดนเบตง จำนวน 30 คน แต่เดินทางกลับเข้ามาเพียง 22 คน โดยเจ้าหน้าที่จะนำไปกักตัวที่ศูนย์ Local Quarantine เบตง 9 ราย ศูนย์ Local Quarantine ยะลา 3 ราย ศูนย์ Local Quarantine ปัตตานี 7 ราย ศูนย์ Local Quarantine สงขลา 2 ราย ศูนย์ Local Quarantine สตูล 1 ราย ซึ่งทุกคนที่เข้ามา ต้องผ่านมาตรการตรวจป้องกันไวรัสโควิด-19 ตามกระบวนการควบคุมโรคระบาด
ส่วนยานพาหนะที่ลงทะเบียนไว้จะนำผ่านด่านพรมแดนเบตง มีรถยนต์จำนวน 7 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน ซึ่งทุกคันต้องถูกเจ้าหน้าที่พ่นยาฆ่าเชื้อและจอดทิ้งไว้ที่ด่านศุลกากรเบตง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ขนส่งมาตรวจสอบเลขทะเบียนว่าถูกต้องหรือไม่
@@สงขลาติดเชื้อใหม่ 34 ป่วยสะสมอีก 240 ราย
ด้าน จ.สงขลา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.สงขลา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ (19 เม.ย.64) จำนวน 34 ราย เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ จำนวน 32 ราย (สัมผัสกลุ่มสถานบันเทิง 28 รายและเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 4 ราย) และเป็นผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ( กลับมาจากมาเลเซีย) จำนวน 2 ราย
ทำให้ตั้งแต่ 1 เม.ย.- ปัจจุบัน มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมรวม จำนวน 240 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในประเทศ จำนวน 236 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศจำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 240 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงที่ได้รับการตรวจหาเชื้อในวันนี้ จำนวน 486 ราย
@@นราฯ ติดเชื้อใหม่ 15 สะสมเกือบ 400 ราย
ที่ จ.นราธิวาส ทางศูนย์ EOC COVID-19 จังหวัดนราธิวาส มีรายงานสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ (1 -19 เม.ย.64) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 15 ราย ในพื้นที่อำเภอเมือง ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 386 ราย รักษาหายแล้ว 44 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 386 ราย ของจังหวัดนราธิวาส แยกตามพื้นที่อำเภอได้ดังนี้ อำเภอเมือง 354 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 249 ราย และนอกเรือนจำ 105 ราย อ.รือเสาะ 12 ราย อ.บาเจาะ 5 ราย อ.ยี่งอ 2 ราย อ.ระแงะ 8 ราย อ.จะแนะ 4 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 1 ราย
ด้าน นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส นายชินวุฒิ ขาวสำลี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาสร่วมรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์จากนายเอกนรินทร์ ศรเรือง นักวิชาการศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส ตัวแทนกลุ่มไม้จิ้มฟันกู้โลก ซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ได้รวบรวมเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบด้วย ชุดป้องกันเชื้อ PPE จำนวน 40 ชุด และหน้ากาก N95 จำนวน 50 ชิ้น มอบให้แก่จังหวัดนราธิวาสเพื่อสู้ภัยโควิด-19
นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขอขอบคุณภาคเอกชนและทุกภาคส่วนที่ร่วมใจนำอุปกรณ์ทางการแพทย์มามอบให้ศูนย์นรารวมใจต้านภัยโควิด-19 ซึ่งยินดีรับความช่วยเหลือจากผู้ที่ต้องการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือสิ่งของต่างๆ สามารถนำมามอบได้ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส หรือที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาสจะได้รวบรวมและส่งมอบให้กับโรงพยาบาล หน่วยงานสาธารณสุข หรือหน่วยงานต่างๆที่ต้องการต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถบริจาคเงินสมทบทุนผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขานราธิวาส ชื่อบัญชี : COVID - 19 คนนราไม่ทิ้งกัน เลขที่บัญชี : 905-3-29568-2 ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ศูนย์นรารวมใจต้านภัยโควิด-19 ยังได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย สเปรย์แอลกอฮอล์ ชุดถุงผ้าโควิด-19 และสิ่งของที่ได้รับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธามามอบให้เหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส เพื่อส่งมอบให้กับหน่วยงานต่างๆที่มีความต้องการต่อไป