ผลสอบ ผอ.โรงเรียนเทพาสัมพันธ์นักเรียน ม.3 มีมูลผิดร้ายแรง สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ชงเรื่องศึกษาธิการจังหวัดตั้งกรรมการสอบต่อ หากผิดจริงโทษสูงสุดไล่ออก งดบำเหน็จบำนาญ ส่วนความคืบหน้าทางคดี เจ้าตัวเข้าพบตำรวจรับทราบ 4 ข้อหา พร้อมประกันตัวสู้คดี วอนสังคมรับฟังข้อเท็จจริงครบทุกด้านก่อนตัดสินถูกผิด
ความคืบหน้ากรณีนายสายัณร์ ชาลีผล อายุ 60 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพา อ.เทพา จ.สงขลา โชว์อาวุธปืนออกมาหน้าเสาธงจากปัญหาส่วนตัวที่มีความสัมพันธ์กับนักเรียนหญิงม.3 หลังจากที่ถูกแม่เด็กได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เทพา
ล่าสุดในส่วนของผลการสอบสวนทางวินัย นายศังกร รักชูชื่น ผู้อำนวยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต16 เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่า มีมูลกระทำความผิดร้ายแรงและได้ส่งเรื่องไปยังศึกษาธิการจังหวัดสงขลาเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทางศึกษาธิการจังหวัดได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ส่วนที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนเทพาได้ยื่นใบลาออกไว้ก่อนนั้น ก็ไม่มีผลเพราะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
หลังจากนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดสงขลาจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกรอบ เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งจากผู้อำนวยการโรงเรียนเทพาและผู้เสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หากสุดท้ายแล้วพบว่า มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรงจริงก็จะมีความผิดสูงสุดถึงขั้นไล่ออกและให้ออกโดยโทษไล่ออกเป็นโทษทางวินัยสูงสุดไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ ส่วนโทษให้ออกยังคงได้รับบำเหน็จบำนาญ
นายศังกร กล่าวว่า การสอบสวนทางวินัยกรณีนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงศึกษาธิการที่มีการตั้งศูนย์ป้องกันการละเมิดนักเรียน ซึ่งเป็นมาตรการปราบปราม คือเริ่มจากให้ย้ายมาประจำที่เขต ตั้งกรรมการสอบสวน แล้วส่งผลสอบให้ศึกษาธิการจังหวัดสงขลาพิจารณาข้อเท็จจริงและออกคำสั่งลงโทษทางวินัย
ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดี พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผู้กำกับการสภ.เทพา เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียนเทพาเพิ่มเติมรวมเป็น 4 ข้อหา คือ กระทำชำเราเด็ก พรากผู้เยาว์ พกพาอาวุธปืนและข้อหาล่าสุดคือ กระทำอนาจาร และทีมสหวิชาชีพได้สอบปากคำเด็กเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงออกหมายเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนเทพามารับทราบข้อกล่าวหาหรือเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง
ขณะเดียวกันสื่อหลายสำนักได้มีรายงานข่าวตรงกันว่า เวลา 15.00 น.ของวันนี้ ทางนายสายัณร์ ได้เดินทางไปยัง สภ.เทพา เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อหา และได้ใช้ตำแหน่งทางราชการของบุคคลอื่นประกันตัวออกมาสู้คดี
ซึ่ง ผอ.โรงเรียนเทพา ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า กรณีที่ถูกแม่เด็กแจ้งความ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ตนต้องปกป้องสิทธิ์เพื่อให้ตัวเองได้รับความยุติธรรม อยากให้สังคมรับทราบข่าวสารข้อเท็จจริงให้ครบทุกด้านก่อนจะตัดสินว่าใครผิด
"ส่วนกรณีเรื่องชักปืนหน้าเสาธงนั้น เกิดจากความไม่เคยชินที่มีปืนเสียบเอวพอยืนนานก็อึดอัด พอขยับแล้วเด็กเห็นจึงเกิดความแตกตื่น เป็นการเข้าใจผิด ผมไม่เคยคิดร้ายใครโดยเฉพาะนักเรียน" ผอ.โรงเรียนเทพา กล่าว