แม้ข่าว ผอ.โรงเรียนเทพา จ.สงขลา เปิดเสื้อโชว์ปืนหน้าเสาธง ต่อหน้าลูกศิษย์นับพันคน จะไม่ได้เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ "ศูนย์ข่าวอิศรา" ก็ให้ความสำคัญกับข่าวนี้เป็นพิเศษ
ไม่ใช่แค่เพราะพื้นที่เกิดเหตุเป็น 1 ใน 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีการประกาศใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง จนมีการอ้างสิทธิ์พกอาวุธปืนเข้าไปในสถานที่ที่ไม่ควรพกเท่านั้น
แต่เรื่องนี้ยังมีความสำคัญในแง่ของปัญหาชู้สาวระหว่างครูกับนักเรียนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมบ้านเรา
ขณะที่ปัญหาลักษณะนี้ หากเกิดในอีกบางบริบทในพื้นที่ชายแดนใต้ จะยิ่งอ่อนไหวและสร้างเงื่อนไขอย่างยิ่ง
ซ้ำร้าย...ในรายละเอียดของเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น ยังสะท้อนปัญหาหลายๆ ด้านของแวดวงการศึกษาไทย โดยเฉพาะอิทธิพลของครูที่กดทับนักเรียน อิทธิพลของครูใหญ่ที่อยู่เหนือครูน้อย ความไม่ปลอดภัยของนักเรียนแม้จะอยู่ในรั้วโรงเรียนก็ตาม แต่ก็ยังถูกละเมิดจากคนใกล้ตัว ทั้งที่คนเหล่านั้นมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองและประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ด้วยซ้ำ
และที่สำคัญคือความเข้าใจของผู้ใหญ่ รวมทั้งผู้คนในสังคม เกี่ยวกับกฎหมายใหม่ว่าด้วยการข่มขืน ชำเรา และอนาจาร ที่ยังสำคัญผิดในเรื่อง "เด็กสมยอม"
หลักการของการแก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่เฉพาะการนำเสนอข่าวของสื่อ แต่รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ครู ตำรวจ นักจิตวิทยา หรือแม้แต่สังคมผูับริโภคข่าวสารทั่วไป ก็คือ
1. ต้องไม่ทำให้ครอบครัวเด็กและตัวเด็กเสียหายไปมากกว่านี้
2. คำว่า "เด็กสมยอม" ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่ฝ่ายหนึ่งอายุต่ำกว่า 15 ปี และไม่ใช่ข้ออ้างในการกระทำความผิด
3. จรรยาบรรณครูเป็นสิ่งที่ต้องยึดถือ ฉะนั้นจะต้องไม่มีข้อแก้ตัวเรื่อง "เด็กสมยอม" และกฎหมายใหม่ก็เพิ่มโทษครูที่กระทำกับศิษย์ด้วย
4. การเจรจา จ่ายเงิน ไม่ทำให้คดีจบ เพราะการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความได้
5. เมื่อเป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความได้ จึงชอบที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่ยื้อ ไม่บิดคดีเพื่อประโยชน์ของผู้ที่มีอิทธิพลเหนือกว่า หรือเป็นข้าราชการด้วยกัน หรือแม้แต่เป็นผู้ชายด้วยกัน ขณะที่บรรดาครูน้อยก็ไม่ควรมีท่าทีปกป้องครูใหญ่จนละเลยความรู้สึกของเด็ก
คำว่า "เด็ก" ในที่นี้หมายรวมถึงเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียนด้วย เพราะเท่าที่ทราบ ตั้งแต่หลังเกิดเหตุอื้อฉาว ก็มีผู้ปกครองของเด็กจำนวนไม่น้อยที่คิดให้บุตรหลานลาออก เพราะรู้สึกว่าครูและโรงเรียนไม่ได้เป็นที่พึ่งที่ปลอดภัยอีกต่อไป
และเรื่องที่หลายคนอาจยังไม่รู้ก็คือ คุณตาของเด็กสาวคนนี้เคยตกเป็นเหยื่อกระสุนกราดยิงในร้านน้ำชาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาเสีย เมื่อ 10 ที่แล้ว ปัจจุบันยังมีอาการตกค้าง แทรกซ้อน แต่หมดอายุการได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐในโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาท ทั้งยังขาดการเหลียวแลเอาใจใส่จากผู้เกี่ยวข้อง เพราะเหตุการณ์ผ่านมาเนิ่นนานเกินไป
เหตุการณ์ร้ายล่าสุดที่เกิดกับเด็กสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนในบ้าน จึงยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกของครอบครัวในสวนยางห่างไกลผู้คนครอบครัวนี้ ให้ดำดิ่งในห้วงทุกข์ และโดดเดี่ยวยิ่งขึ้นกว่าเดิม