อธิการ ม.อ.หาดใหญ่ แถลงมีอาจารย์ติดโควิด-19 จริง ตรวจนักศึกษา-บุคลากรใกล้ชิดรวม 128 คน ผลเป็นลบ ยืนยัน ม.อ.ปลอดภัยไม่มีการระบาด ด้าน รอง ผอ.โรงพยาบาล เผยมีผู้ป่วย 2 รายเข้ารับการรักษา ส่วนมัสยิด จ.ยะลา ให้คนมาละหมาดสวมหน้ากากป้องกันโควิด
จากกรณีพบว่า มีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 1 ราย และมีการหวั่นว่า จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในพื้นที่มหาวิทยาสงขลานครินทร์นั้น
ล่าสุดวันที่ 25 ธ.ค.63 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.หาดใหญ่) ได้จัดการแถลงข่าวยืนยัน ม.อ.ปลอดภัยไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 โดยมี ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ร่วมแถลงข่าว
ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวในการแถลงว่า ในส่วนของการตรวจคัดกรอง กรณีพบบุคลากรติดเชื้อ 1 ราย ก็ต้องเรียนว่า เป็นการติดเชื้อจากภายนอกที่ได้ไปสัมผัสกลุ่มเสี่ยง ไม่ได้เป็นการเกิดจากการติดเชื้อหรือการแพร่ระบาดภายในมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด ต้องขอบคุณผู้ติดเชื้อที่ไม่ปิดบังและให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ทำให้สามารถจำกัดวงในการตรวจสอบคัดกรองได้เป็นอย่างดี
ในเรื่องของการเฝ้าระวังนั้น เราทำกันอย่างเข้มแข็งทั้งเรื่องการสวมใส่หน้ากาก การล้างมือ การรักษาระยะห่างทางสังคม เรายังปฏิบัติอยู่ ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้การคัดกรองของเรารวดเร็ว เมื่อคืนที่ผ่านมาทีมแพทย์ก็ทำงานกันอย่างต่อเนื่อง ร่วมกันกับทางสาธารณสุข ซึ่งผลออกมาเป็นที่น่ายินดีว่า ในมหาวิทยาลัยฯ ไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติมแต่อย่างใด คงมีเพียงท่านเดียวที่ติดเชื้อมาจากข้างนอก ส่วนผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ใกล้ชิดไม่ว่า จะเป็นนักศึกษาหรือบุคลากรของมหาวิทยาลัยรายอื่น ก็ไม่ปรากฎว่า มีผลการติดเชื้อแต่อย่างใด
อธิการบดี ม.อ.หาดใหญ่ กล่าวอีกว่า ขอย้ำว่า ม.อ.ปลอดภัยไม่มีการแพร่ระบาดการติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด ทุกท่านสามารถมาใช้บริการของทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ตามปกติ เพียงแต่ว่า ต้องช่วยกันดูแลป้องกันและปฏิบัติตามมาตรการของประเทศ
รศ.นพ.ศรัญญู ชูศรี รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อแล้ว 2 คน ที่รักษาอยู่ภายในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นการยืนยัน ที่หมายถึงว่า เป็นการตรวจ 2 ครั้ง ยืนยันว่ามี 2 คนเท่านั้น ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เป็นกลุ่มนักศึกษา 119 คน และบุคลากรอีก 9 คน ทั้งหมดได้รับการตรวจเบื้องต้นไปแล้วเมื่อวานนี้ ผลการตรวจเป็นลบทั้งหมด แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยง ก็จำเป็นจะต้องเฝ้าระวังต่อไปอีก 14 วัน โดยการกักตัวดูอาการ
ส่วนอาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น อาการโดยส่วนมากไม่รุนแรง ไม่สามารถแยกได้จากไข้หวัดทั่วไป หรือไข้หวัดใหญ่ สิ่งที่จะช่วยให้รู้ได้ก็คือ ประวัติที่มีความเสี่ยงของตัวผู้ป่วย เช่น ประวัติการสัมผัสผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อโควิด ประวัติการเข้าไปในแหล่งที่มีการระบาดของเชื้อโควิดในปริมาณสูง ตรงนั้นจะช่วยให้รู้ได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง
นอกจากการแถลงข่าวแล้ว ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้มีการออกมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีประกาศให้งดการเรียนการสอนในชั้นเรียนทั้งหมด ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 ธ.ค.63 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการประกาศกำหนดแนวทางอื่น โดยให้ใช้การเรียนการสอนแบบออนไลน์หรือจัดการเรียนการสอนรูปแบบอื่นที่ไม่มีการรวมกลุ่มในชั้นเรียน และมีการประกาศงดใช้สถานที่ชั่วคราวภายใน ม.อ.หาดใหญ่ ประกอบด้วย สำนักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร อ่างเก็บน้ำ สนามเด็กเล่น บริเวณสวนสุขภาพ สนามเทนนิสทุกสนาม สนามเปตองทุกสนาม สนามวอลเลย์บอลชายหาด สนามซอฟท์บอลทุกสนาม สนามฟุตซอลทุกสนาม สนามฟุตบอลทุกสนาม สระว่ายน้ำ และพื้นที่ศูนย์กีฬาและนันทนาการ
@@นิพนธ์ ถกเข้ม ศปก.จ.สงขลา ห่วงโควิดทำลายเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ณ ห้องประชุม CEO ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยมีนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา กรมควบคุมโรค จัดหางานจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามและรับฟังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รวมถึงมาตราการป้องกันควบคุมโรค และสถานการณ์ของแรงงานต่างด้าวจังหวัดสงขลา พร้อมมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มท.กล่าวว่า ในขณะที่เราดูแลในเรื่องของโควิด-19 เราก็มีประเด็นที่จะต้องดูแลในเรื่องของระบบเศรษฐกิจของเมืองด้วย ซึ่งความพอดีมันบริหารยาก สิ่งที่ในคณะรัฐมนตรีทำยากที่สุดก็คือความพอดี จะประกาศอะไรออกไป ความพอดีของความปลอดภัยในเรื่องการควบคุมโรค ความปลอดภัยจากการแพร่เชื้อ ทำอย่างไรให้ระบบเศรษฐกิจสามารถเดินไปได้ด้วย สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องยาก จึงอยากจะฝากทุกคนช่วยกันดูใน 2 เรื่องนี้ ให้มันมีความสมดุลกัน
@@มัสยิดยะลา คุมเข้มคนมาละหมาดใส่หน้ากากป้องกันโควิด
วันที่ 25 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มัสยิดอบีบักร อัศศิดดีก โรงเรียนพัฒนาวิทยา อ.เมือง จ.ยะลา ได้เริ่มใช้มาตรการในการป้องกันโรคโควิด-19 กับผู้ที่เดินทางมาละหมาดที่มัสยิด โดยอิหม่ามและคณะกรรมการมัสยิดได้มีการประชุมหารือถึงแนวทางเตรียมความพร้อมรับมือกับโควิด-19 ระลอกใหม่ตามแนวทางที่สำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศ
นพ.อนันตชัย ไทยประทาน กรรมการมัสยิด เปิดเผยว่า ทางอิหม่ามและคณะกรรมการของมัสยิดทุกท่านไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากที่ได้รับประกาศของสำนักจุฬาก็เริ่มมาประชุมพูดคุยกันโดยเฉพาะมาตรการการละหมาดวันศุกร์ในวันนี้ ทุกอย่างจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยที่จะประกาศให้ผู้ที่มาละหมาดทราบและกระจายข่าวกันไป มีการประสานกับผู้บริหารของโรงเรียนพัฒนาวิทยาเพื่อมอบนโยบายและแจ้งแก่ครู นักเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางสำนักจุฬาฯประกาศในการเข้าใช้มัสยิด ให้คณะกรรมการมัสยิดทุกท่านช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มาร่วมละหมาดทุกคน ทุกเวลาได้ปฏิบัติตามมาตรการที่สำนักจุฬาฯประกาศอย่างเคร่งครัด
ส่วนการละหมาดญุมอะฮฺ หรือละหมาดวันศุกร์นี้ จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มาละหมาดอาบน้ำละหมาดมาจากบ้าน เตรียมผ้าปูละหมาดมาด้วย ใส่หน้ากากทุกคน หากคนใดไม่ใส่ทางมัสยิดมีบริการจำหน่ายหน้ากากอนามัยชนิด 3 ชั้น ในราคา 5 บาทหรือจะบริจาคให้มัสยิดมากกว่า 5 บาทก็ได้ แล้วทางมัสยิดจะจัดนักเรียนให้มาช่วยวัดอุณหภูมิร่างกายหากเกิน 37.5 องศาจะขออนุญาตไม่ให้เข้ามาในมัสยิด ทางมัสยิดขอให้ผู้ละหมาดยืนห่างกัน 1 เมตร ทั้งนี้จะมีผู้จัดแถวหน้า 2 แถวให้ยืนสลับกันเป็นตำแหน่งหลักไว้ แถวอื่นๆก็ให้ยืนให้ตรงกับ 2 แถวหน้าโดยยืนในตำแหน่งสลับฟันปลากัน ส่วนผู้อ่านคุตบะห์หรือปาฐกฐาก็จะใช้เวลาสั้นลง ใส่ Faceshield ขณะคุตบะห์
นพ.อนันตชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมเตรียมตัวและให้คิดอยู่เสมอว่าเราอยู่ในช่วงที่มีระบาดมากไว้ก่อนจะได้ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไปและจะใช้เวลาละหมาดแบบ New Normal ที่เรียกว่าวิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่ ตนอยากจะให้เริ่มรณรงค์การสวมใส่หน้ากาก และช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน แม้ว่าจะไม่มีเรื่องโควิด-19 แต่เราก็ได้ประโยชน์จากการใส่หน้ากากด้วยการป้องกันจากโรคหวัดและโรคต่างๆได้อีกด้วย
@@ จนท.เบตง ลุยตรวจโควิดแรงงานต่างชาติ
วันที่ 25 ธ.ค.63 นายแพทย์จิตติ จันทรมงคล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง ได้นำทีมเเพทย์จากโรงพยาบาลเบตงร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข อ.เบตง และฝ่ายปกครอง จัดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา จำนวน 161 คน ที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา และดำเนินการตรวจหาเชื้อจากสารคัดหลั่ง โดยวิธีการ SWAB เก็บตัวอย่างและตรวจเก็บสารคัดหลั่ง เพื่อเก็บข้อมูลส่งให้ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคที่โรงพยาบาลยะลาต่อไป ซึ่งผลการตรวจคัดกรองครั้งนี้ จะทราบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิดหรือไม่ภายใน 2 วัน นอกจากนี้ให้ได้ข้อแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวช่วงโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและพี่น้องแรงงานชาวต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่
นายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอเบตง กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่า แรงงานต่างด้าวในพื้นที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องและไม่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปยังแหล่งที่มีการแพร่ระบาด ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ตรวจสอบคนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้า-ออกในพื้นที่ ตรวจหาแรงงานที่ผิดกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำเจ้าของสถานประกอบการและผู้ดูแล เข้มงวดในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยเคร่งครัด รวมทั้งให้ลงบันทึกข้อมูลการคัดกรองต่างด้าวและเน้นย้ำโดยตรงไปยังแรงงานต่างชาติ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ล้างมือบ่อยๆ ไม่เดินทางข้ามพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19
นางซายิงมิ แรงงานชาวเมียนมา กล่าวว่า พี่น้องแรงงานชาวต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่ร่วมกันปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ด้วยการ เว้นระยะห่าง และหลีกเลี่ยงจากการที่จะเป็นพาหะนำเชื้อโควิด-19 ไปแพร่ยังบุคคลอื่นๆ
@@ รวบ 11 แรงงานเมียนมาลักลอบข้ามแดนสุไหงโกลก
วันที่ 25 ธ.ค.63 นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโกลก ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและชุดเคลื่อนที่เร็วสมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 6 สนธิกำลังสามฝ่าย เข้าทำการควบคุมตัวบุคคลต่างด้าว คาดว่าเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา เพศชายจำนวน 11 คน เดินทางข้ามมาจากประเทศมาเลเซียผ่านแม่น้ำสุไหงโกลก เข้ามาในราชอาณาจักรไทย เนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่า มีบุคคลต้องสงสัยลักลอบข้ามมาจากประเทศมาเลเซียนั่งอยู่เป็นกลุ่มบริเวณศาลาริมทางหน้าสถานีขนส่งอำเภอสุไหงโก-ลก หมู่ 7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
หลังจากควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 11 คน ได้มีการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการตรวจคัดกรองเบื้องต้นทั้ง 11 คน มีอุณหภูมิร่างกายปกติ จากการซักถามทราบว่า กลุ่มแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้เป็นแรงงานประมงที่มาจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง
นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโกลก กลาวว่า หลังได้รับการแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีบุคคลต้องสงสัยไม่ทราบว่าเป็นใคร พยายามข้ามท่าข้ามเรือมาทางท่าทางช่องทางธรรมชาติ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ และสามารถควบคุมแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ เนื่องจากขณะนี้ประเทศมาเลเซียมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก ทำให้นายหน้าของประเทศมาเลเซียพยายามนำแรงงานต่างด้าวเข้ายังพื้นที่ประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย