คืบหน้าผลตรวจกลุ่มเสี่ยงจาก จ.สมุทรสาคร ทั้่งปัตตานี 56 ราย สงขลา 73 ราย ยังปลอดภัยไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด ขณะที่แรงงานจังหวัดยะลาลุยตรวจไซต์งานก่อสร้าง หวั่นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ด้านสำนักจุฬาฯ ออกประกาศเตือนมุสลิมระวังป้องกันโรคระบาด
วันที่ 23 ธ.ค.63 ความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด19 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา หลังจากที่มีประกาศให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้มีประวัติเดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร และเป็นผู้ใกล้ชิดผู้ที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร เข้ารับการตรวจเชื้อโควิดกับทางหน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดของตนเอง
ที่ จ.ปัตตานี ผลการตรวจกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติเดินทางหรือใกล้ชิดกับผู้เดินทางมาจากพื้นที่ จ. สมุทรสาคร ที่ได้เข้ารับการตรวจทั้งในวันที่ 21 ธ.ค. จำนวน 17 ราย และในวันที่ 22 ธ.ค. จำนวน 39 ราย สรุปผลการตรวจไม่พบการติดเชื้อ ทำให้พื้นที่ จ.ปัตตานี ไม่มีผู้ติดเชื้อรอบใหม่แต่อย่างใด
ส่วนในพื้นที่ จ.สงขลา มีผู้ที่มีประวัติเดินทางกลับมาจาก จ.สมุทรสาคร เข้ารับการตรวจรวมแล้ว 75 ราย ผลการตรวจไม่พบการติดเชื้อ 73 ราย อยู่ระหว่างรอยืนยันผลการตรวจ 2 ราย นอกจานี้ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่ได้ไปร่วมงานบิ๊กไบค์ ที่ เกาะลันตา จ.กระบี่ (ในงานดังกล่าวได้พบผู้ติดเชื้อโควิดจาก จ.สมุทรสาคร ) ได้เข้ารับการตรวจเชื้อโควิดรวมทั้งหมด 10 ราย ผลตรวจออกมาแล้ว 5 รายไม่พบเชื้อโควิด ส่วนอีก 5 ราย อยู่ระหว่างรอยืนยันผลตรวจ ทำให้ขณะนี้ จ.สงขลา ยังไม่มีรายพบผู้ติดเชื้อ
ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้มีรายงานจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) มือและห์ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ว่าได้ทำการตรวจสอบเด็กหญิงที่มีสมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับมาจากการทำงานที่โรงงานอุตสาหกรรมใน จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.63 เพื่อมาเลือกตั้ง ซึ่งผลการตรวจสอบเด็กหญิงรายดังกล่าวไม่พบการติดเชื้อ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ รพ.สต.มือและห์ ได้ทำการประสานสอบถามอาการของสมาชิกในครอบครัวในเบื้องต้นแล้ว พบว่าทุกคนปกติดีไม่มีไข้ จึงได้แนะนำให้สมาชิกครอบครัวกักตัวอยู่ที่บ้านจนครบ 15 วัน และหากมีอาการน่าสงสัยให้รีบพบแพทย์โดยทันที
@@ ยะลาลุยตรวจไซต์งานก่อสร้าง หวั่นเจอต่างด้าวหนีเข้าเมือง
ส่วนที่ จ.ยะลา นางรษิกา ชาญณรงค์ แรงงานจังหวัดยะลา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสาธารณสุขจังหวัดยะลา และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยะลา ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 920 ซอยมัสยิด 1 ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นที่พักอาศัยคนงานต่างด้าว ไซต์งานก่อสร้างอาคารสำนักงานวิทยาฟาฏอนี เพื่อดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาพักอาศัยและทำงานใน จ.ยะลา ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่า มีแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่จำนวน 7 คน ซึ่งทุกได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานจัดหางาน จ.ยะลา อย่างถูกต้องตามกฏหมาย จากนั้นได้ทำความเข้าใจกับนายจ้างถึงมาตรการในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นางรษิกา ชาญณรงค์ แรงงานจังหวัดยะลา กล่าวว่า การมาพบปะกับผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าววันนี้ ต้องการให้ตระหนักรู้ว่าตอนนี้มีโควิด 19 เข้ามา กำชับว่าจะต้องมีการใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา และขอให้มีการล้างมือ ตลอดจนต้องมีการดูแลเรื่องของการเว้นระยะห่าง ที่พักอาศัยต้องไม่แออัดจนเกินไป และเรื่องสุดท้ายคือการไม่รับแรงงานต่างด้าวที่มาจากที่อื่น ตอนนี้ขอให้ไม่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยเด็ดขาด ล่าสุดที่มาวันนี้ทุกคนมีพาสปอร์ตถูกต้องตามกฏหมาย
นายตอเล็บ เต๊ะแล นายจ้างแรงงานต่างด้าว กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองจะเข้มงวดแรงงานให้มากกว่าเดิมคือจะห้ามไม่ให้ออกไปในตลาดจะให้อยู่เฉพาะในพื้นที่เท่านั้น ตนพยายามจะไม่ให้ติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ เพราะผลกระทบเยอะมาก เวลาออกไปไหนก็จะให้สวมใส่หน้ากากอนามัยและจะไม่มีการพบปะกับผู้อื่น
@@ สำนักจุฬาฯ ออกมาตรการรับมือโควิดระบาด
สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศเรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยทางสำนักจุฬาราชมนตรี ได้ขอความร่วมมือให้มุสลิมทุกคนยึดแนวทางการปฏิบัติเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค เช่น การหลีกเลี่ยงการสลามหรือสัมผัสกัน เปลี่ยนเป็นยกมือสลามกัน, การตรวจวัดอุณหภูมิหรือคัดกรองผู้ป่วยเมื่อมีการรวมตัวกันหลายคน เช่น การร่วมละหมาด รวมไปถึงกำชับให้มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่าง 1 เมตร ล้างมือด้วยสบู่และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทุกครั้ง รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของทางราชการอย่างเคร่งครัด จนกว่าสถานการณ์เจ้าเข้าสู่สภาวะปกติหรือจนกว่าจะมีประกาศอื่นต่อไป