"ขายกล่องละ 125 บาท วันนี้ขายไป 30 ลัง ไม่มีของขายแล้ว ไม่เคยขายหน้ากากเกินราคา"
เป็นคำยืนยันจาก วัลยา จันทร์แก้ว เจ้าของร้านยา พีเอ็น ฟาร์มาซี ย่านตลาดโต้รุ่งในตัวเมืองปัตตานี หลังมีข่าวเริ่มกักตุนหน้ากากอนามัย และราคาเริ่มขยับสูงขึ้น เพราะโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
"รอบนี้คนปัตตานีตื่นตัวดีมากๆ เตรียมตัวป้องกันและรับสถานการณ์โควิด...ต้นตอของปัญหาขาดแคลนหน้ากากอยู่ที่โรงงานว่าได้กระจายสินค้าทั่วถึงหรือไม่ มีคนของรัฐกุมอำนาจอยู่หรือไม่ที่จะเอาหน้ากากไปขายต่อ ต้องตอบให้ได้ อย่าดูแต่ที่ปลายทาง" วัลยา กล่าวตรงๆ แถมฝากไปถึงรัฐบาล
วัลยา ไม่ได้เป็นคนขายหน้ากากอนามัย ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่เธอยังเคยช่วยสังคมช่วงที่โควิดระบาดรอบแรก โดยบริจาคหน้ากากอนามัยจำนวนมาก มูลค่านับแสนบาทให้กับบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลในพื้นที่
เหตุผลเดียวที่เธอตัดสินใจทำคือ...รอไม่ได้ แม้ราคาหน้ากากอนามัยจะสูงมากในขณะนั้น แต่เธอก็ยังบริจาค รวมทั้งแจกชาวบ้านที่ขาดแคลนด้วย สรุปคือช่วยไป 11 โรงพยาบาล 3 วัด และชาวบ้านอีกนับไม่ถ้วน
"เราขายหน้ากากอนามัยมาตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว แต่ไม่มีคนสนใจว่าทำไมต้องใส่ กระทั่งโควิดระบาด และเกิดการขาดแคลน ส่วนรอบนี้คนตื่นตัวดีมากๆ เป็นการเตรียมตัวรับสถานการณ์ ตอนนี้หน้ากากของจีนมีอยู่ ของไม่ขาด ขาดแต่ของไทย จีนมีทุกสี สีฟ้าเขาผลิตมาราคาถูกกว่าสีอื่น กันฝุ่นละอองได้ แต่คุณภาพสู้ของไทยไม่ได้ "
จากประสบการณ์โควิดรอบแรก ที่ทำให้หน้ากากอนามัยขาดตลาด วัลยาในฐานะคนในวงการ บอกถึงแนวทางการแก้ปัญหาว่า...ไม่ยาก
"กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้าไปควบคุมโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ดูว่าร้านไหนขายกี่บาท มาจากไหน ดูในใบสั่งซื้อของโรงงาน เช่น วันที่ 22 ธ.ค. ได้ส่งหน้ากากให้ใครบ้าง จำนวนเท่าไหร่ ส่งให้ร้านขายยาจริงมั้ย หรือส่งออกไปนอกประเทศ ปัญหาคลางแคลงใจของร้านขายยาจากโควิดรอบแรกคือไม่ได้รับหน้ากากเพียงพอ ถูกส่งไปนอกประเทศหรือไม่ เช่น ในจังหวัดหนึ่ง ร้านนาย ก.มีหน้ากาก 50 ลัง ร้านขายยาอีก 20 ร้านไม่มีหน้ากากขายเลย นาย ก.รับมา 75 บาท ส่งต่อไป 95 บาท ร้านรับต่อมาขาย 125 บาท แบบนี้แปลว่าอะไร..."
"กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้าไปดูที่โรงงาน ในไทยมีโรงงานเยอะมาก แต่ปล่อยให้คนไทยขาดแคลนหน้ากาก ทั้งที่เช็คได้ง่ายมาก ปัญหาตอนนี้คือพาณิชย์จังหวัดเข้าไปในแต่ละร้าน ทำให้ร้านยาลำบากใจมาก เพราะศักยภาพแต่ละร้านไม่เหมือนกัน บางร้านสามารถซื้อตรงโรงงานได้ บางร้านไม่มี เช่น เราได้มา 50 ลังในปัตตานี ส่งให้อีกร้าน แล้วคนที่มาซื้อต่อไปอีกทีก็อีกราคา ทำให้หน้ากากแพง คือของมีไม่ทั่วถึง"
"พาณิชย์แจ้งว่าห้ามขายเกินชิ้นละ 2.50 บาท หรือกล่องละ 125 บาท แล้วร้านที่รับไป 125 บาทแล้วจะขายเท่าไหร่ ถ้าอ้างเหตุผลนั้น สินค้าจะไม่มีเลย เพราะร้านคิดว่าไม่ขายดีกว่า ปล่อยให้ขาดไปเลย ฉะนั้นต้นตอของปัญหาคืออยู่ที่โรงงานว่าได้กระจายสินค้าทั่วถึงหรือไม่ มีคนของรัฐกุมอำนาจอยู่หรือไม่ที่จะเอาหน้ากากไปขายต่อ ต้องตอบให้ได้ อย่าดูแต่ที่ปลายทาง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีร้านยาที่ขายโก่งราคาจริง"
"และความจริงอีกอย่างคือร้านที่ขายหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศ ได้รับอนุญาตให้สามารถบวกเพิ่มจากราคาขายไปได้อีก 23 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ของไทยกำหนดห้ามขายเกินชิ้นละ 2.50 บาท หรือกล่องละ 125 บาท เหมือนรัฐไม่ส่งเสริมให้ใช้ของไทย"
เป็นประสบการณ์และความในใจของคนขายหน้ากากอนามัยแห่งเมืองปัตตานี
ขณะเดียวกัน "ทีมข่าวอิศรา" ได้เดินสายสุ่มสำรวจราคาหน้ากากอนามัยในพื้นที่ จ.ยะลา พบว่า ก่อนหน้านี้ ราคาขายหน้ากากอนามัยแบบกล่อง 50 ชิ้น ราคาอยู่ที่ 59 บาท แต่หลังมีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และกระจายไปอีกหลายจังหวัด ทำให้ราคาหน้ากากอนามัยของหลายร้านปรับสูงขึ้นเป็นกล่องละ 90 บาท หรือเกือบ 1 เท่าตัว
อินชามัน มูดอ ชาว จ.ยะลา บอกว่า ตนสั่งหน้ากากอนามัยทางอินเทอร์เน็ตทุกครั้ง เพราะความสะดวก ไม่ต้องออกไปซื้อ จากที่สั่งเมื่อวาน ราคาขึ้น 2 เท่า จาก 40-50 บาท ตอนนี้ราคาขึ้นไปเกือบร้อยแล้ว ก็ลองถามแม่ค้า ซึ่งทางร้านก็บอกว่าของขึ้นราคาแล้ว ของกำลังจะขาดอีก ราคาจึงขึ้นเป็นธรรมดา แต่เราต้องใช้ ก็ต้องสั่งซื้อ
นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า เพิ่งจัดประชุมกับทางชมรมร้านขายยาในพื้นที่สงขลา ทางผู้ประกอบการทุกคนยืนยันว่า ยังไม่มีการขึ้นราคาหน้ากากอนามัย เพราะขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของพื้นที่ยังปกติอยู่
อีกด้านหนึ่ง มีข้อมูลจากการสำรวจราคาหน้ากากอนามัยชนิดกล่องบรรจุ 50 ชิ้น ที่ตลาดสำเพ็งกลางคืน ซึ่งเป็นศูนย์กลางจำหน่ายและกระจายหน้ากากอนามัย พบว่า ในช่วงก่อนเกิดโควิดระบาดรอบใหม่ ราคาหน้ากากอนามัยอยู่ที่กล่องละ 30-40 บาท แต่หลังจากเกิดกรณีที่สมุทรสาคร ปรากฏว่าราคาหน้ากากอนามัยชนิดกล่องบรรจุ 50 ชิ้นเหมือนกัน คือสินค้าตัวเดียวกัน ราคาขึ้นมาอยู่ที่ 80-100 บาทแล้ว และมีแนวโน้มจะปรับราคาขึ้นอีก
เป็นสภาวการณ์จริงของราคาหน้ากากอนามัยในสถานการณ์การระบาดรอบใหม่ของโควิด-19