เบตงเกิดเหตุดินสไลด์พาตอไม้หลุมพอทับบ้านหญิงวัย 76 ดับคาห้องนอน ลูกชายรอดหวุดหวิด ส่วนนราธิวาส 8 อำเภอเจอวิกฤติน้ำท่วมหนัก ชาวบ้านนับหมื่นครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.63 ร.ต.อ.บัณฑิต ประเสริฐ รอง สว.สอบสวน สภ.อัยเยอร์เวง ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 1 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เกิดเหตุดินสไลด์ทับบ้านได้รับความเสียหายและมีผู้ติดอยู่ในบ้านโดนดินที่สไลด์ลงมาทับไว้ 1 คน จึงเข้าไปที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ฉก.44 และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างธรรมสถานเบตง
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ภายในสวนยางพาราห่างจากถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ประมาณ 10 เมตร พบชาวบ้านช่วยกันขุดดินภายในห้องนอนที่สไลด์ลงมาจากภูเขาและพาตอไม้หลุมพอขนาดใหญ่ลงมาด้วยจนทำให้ฝาผนังบ้านพังและดินสไลด์ลงมาทับนางบีเดาะ ฮาบิน อายุ 76 ปี เสียชีวิต ขณะนอนหลับอยู่ภายในห้อง เจ้าหน้าที่และชาวบ้านใช้เวลานานกว่า 2 ชม จึงนำร่างของนางบีเดาะฯ ออกมาได้
นายธงไชย ฮาบิน อายุ 55 ปี ลูกชายของนางบีเดาะฯ เล่าว่า เกิดฝนตกติดต่อกัน 2 วัน ทำให้ในกลางดึกขณะที่ตนกับแม่นอนหลับอยู่ภายในห้องนอน ได้เกิดดินสไลด์พาตอไม้หลุมพอขนาดใหญ่พังผนังห้องไหลลงมาทับตนและแม่ ตนเองนอนอยู่ข้างประตูห้องถูกดินถมไปครึ่งตัว ก็พยายามจนเอาตัวออกมาได้ จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาช่วยแม่ที่ถูกดินทับถมอยู่ แต่แม่ก็เสียชีวิตก่อนแล้ว
จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ อ.เบตง ทำให้ช่วงค่ำวานนี้ (18 ธ.ค.) ได้เกิดเหตุเกิดดินสไลด์ ทับบ้านเลขที่ 101/49 หมู่ 4 ต.ตาเนาะแมเราะ ของ น.ส.วิลาสินี คงทอง อายุ 34 ปี พังเสียหายจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทำให้ทั้งครอบครัวต้องไปพักอาศัยอยู่บ้านญาติ เนื่องจากเกรงว่า บ้านจะพังลงมาอีก
@@นราฯวิกฤติท่วมหนัก 8 อำเภอ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส เข้าขั้นวิกฤติ หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมระลอก 3 ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่งกว่า 1.10 เซนติเมตร ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ใน 8 อำเภอ 32 ตำบล 146 หมู่บ้าน 9 ชุมชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 11,037 ครัวเรือน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 45,161 คน ประกอบด้วย อ.ระแงะ 7 ตำบล 43 หมู่บ้าน อ.เจาะไอร้อง 3 ตำบล 33 หมู่บ้าน อ.สุไหงปาดี 4 ตำบล 6 หมู่บ้าน อ.แว้ง 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน อ.บาเจาะ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน อ.จะแนะ 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน อ.สุไหงโกลก 2ตำบล 6 หมู่บ้าน 9 ชุมชน และ อ.ศรีสาคร 6 ตำบล 35 หมู่บ้าน
จากการสำรวจพบว่า พื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นต้นน้ำที่มวลน้ำได้ไหลระบายลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก ก่อนระบายลงสู่ปากอ่าวทะเลด้าน อ.ตากใบ ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนโดยเฉลี่ยสูงถึง 80 -110 ซ.ม. ซึ่งกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 โดย พ.ต.ต.อเนชา ตาวัน ผบ.ร้อย ตชด.446 ได้นำกำลังพลนำเอาน้ำดื่มสะอาดเข้าไปมอบให้ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ หมู่ 1 บ.ลีแยะ ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกียวกับน้ำดื่มให้กับชาวบ้านในเบื้องต้นไปก่อน ระดับน้ำในพื้นที่สูงมากและมีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนทุกครัวเรือน
นายเจษฏา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หลังจากที่ได้สำรวจความเสียหายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้น้ำท่วมชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ในพื้นที่ 8 อำเภอ เนื่องจากแม่น้ำสุไหงโก-ลก ในขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤตจากปริมาณน้ำในพื้นที่ อ.สุคิริน และแว้ง ได้ไหลระบายลงมาสมทบ ซึ่งมีระดับน้ำท่วมสูงล้นตลิ่ง
@@แม่ทัพภาค 4 เยี่ยมชาวบ้านน้ำท่วมโก-ลก
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.63 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางลงพื้น อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก เพื่อเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ประชาชน โดยได้เดินทางไปยัง ศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัย โรงเรียนเทศบาล 4 เทศบาลเมืองสุไหงโกลก เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ที่อพยพจำนวน 52 ครัวเรือน รวม 191 คน ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้จัดรถครัวสนาม จากกรมทหารราบที่ 151 มาปรุงอาหารแจกจ่ายให้แก่ประชาชนยังพักยังศูนย์ ฯ จากนั้นจึงได้ลงไปตรวจเยี่ยมชุมชนบือเร็งใน ซึ่งเป็นชุมชนอยู่ติดแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพื่อนำถุงยังชีพไปมอบให้ประชาชนผู้ประสบภัยที่ยังพักอาศัยที่ภายในบ้าน ซึ่งบางจุดมีระดับน้ำจะสูงกว่า 1 เมตร
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำ ซึ่งในช่วงปลายเดือนจะมีฝนตกลงมาอีกระลอก เมื่อเกิดอุทกภัยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันเข้าสนับสนุน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั้งการช่วยอพยพคนและสิ่งของไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้หลังน้ำลดก็พร้อมสนับสนุนกำลังพลเข้ามาร่วมฟื้นฟูทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะและบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งจัดส่งชุดแพทย์เคลื่อนที่เข้ามาดูแลตรวจรักษาสุขภาพให้แก่พี่น้องประชาชน ดังนั้นขอให้มั่นใจว่าภาครัฐจะประสานความร่วมมืออย่างเป็นเอกภาพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างดีที่สุด