แล้วก็ถึงช่วงเวลาของการส่งไม้ต่อในตำแหน่ง "แม่ทัพภาคที่ 4"
จาก พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ หรือ "บิ๊กเดฟ" มาเป็น พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือ "บิ๊กเกรียง" โดยจะมีผลวันที่ 1 ต.ค.63 นี้
น่าสนใจไม่น้อยว่าตลอด 2 ปีบนเก้าอี้แม่ทัพภาคใต้ "บิ๊กเดฟ" ได้ทำอะไรสำเร็จมรรคผลเป็นรูปธรรมบ้าง
แน่นอนว่าสังคมต้องจับจ้องไปที่มาตรการลดความรุนแรง ซึ่งเป็นภารกิจหลักของฝ่ายทหารในบริบทดับไฟใต้ กับผลงานด้านปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายที่ "บิ๊กเดฟ" หมายมั่นปั้นมือเป็นพิเศษ
วันก่อน ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 (พล.ร.15) ค่ายพระศรีสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี "บิ๊กเดฟ" ได้ตั้งโต๊ะแถลงผลงานในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา โดย "ทีมข่าวอิศรา" ขอโฟกัสเฉพาะประเด็นลดความรุนแรง และปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็น 2 นโยบายหลักเท่านั้น
มิติของการลดความรุนแรง "บิ๊กเดฟ" ใช้คำว่า การควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมาย สรุปว่าได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการควบคุมพื้นที่ ด้วยการจัดกำลังเป็นชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก เรียกว่าชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ จำนวน 768 ชุดปฏิบัติการ เดินเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายเพื่อกดดันและจำกัดเสรีผู้ก่อเหตุรุนแรง พร้อมช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ และบังคับใช้กฎหมาย
ผลก็คือ สามารถพิสูจน์ทราบแหล่งหลบซ่อนพักพิงของผู้ก่อเหตุรุนแรง ตรวจยึดฐานปฏิบัติการได้ 18 แห่ง ยึดอาวุธปืน 94 กระบอก ปะทะ 19 ครั้ง ควบคุมตัว 427 คน ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 42 คน ตรวจยึดอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก
มิติของงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด "บิ๊กเดฟ" บอกว่าถือเป็นนโยบายสำคัญเพื่อดับทุกข์ให้พี่น้องประชาชน ด้วยการเปิดแผนปฏิบัติการรวมพลังแก้ไขปัญหายาเสพติด คืนความสุขสุ่ชายแดนใต้ เน้นการดำเนินการให้ครอบคลุมทั้งการป้องกัน ปราบปราม การบำบัดรักษาฟื้นฟู และการพัฒนาอาชีพ ทำให้สามารถดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ค้ายาเสพติดทั้งรายใหญ่รายย่อย นำไปสู่การจับกุม 29,462 คดี ผู้ต้องหา 31,454 คน ยาบ้า 5, 461,186 เม็ด เฮโรอีน 43.8 กิโลกรัม ไอซ์ 2,364 กิโลกรัม และอื่นๆ อีกหลายรายการ
นอกจากนั้นยังช่วยเหลือผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูตามหลักสูตร camp-35 ทั้งมิติทางการแพทย์ มิติศาสนา มิติทางสังคม และการพัฒนาอาชีพ สามารถส่งคืนบุตรหลานสู่อ้อมกอดครอบครัวได้กว่า 16,200 คน
ทั้งหมดนี้เป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงผลงาน...ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาของพี่น้องประชาชน!