
แม่ทัพภาค 4 มอบชุดตรวจสารเสพติด 1.25 แสนชุด ใช้ตรวจกำลังพลตามโครงการ “ภาครัฐจริงใจ ข้าราชการไร้ยาเสพติด” ขณะที่ เลขาธิการ ศอ.บต.นำบุคลากรในสังกัดตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ใช้เจ้าหน้าที่นอกหน่วยประกบ 1 ต่อ 1 โชว์โปร่งใสสูงสุด ประกาศกฎเหล็ก พบ “ฉี่ม่วง” ส่งบำบัดฟื้นฟูทันที คาดโทษเอี่ยวมากกว่าเสพ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มีละเว้น!
เมื่อเร็วๆ นี้ หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เปิดปฏิบัติการพร้อมกัน เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรักษาความบริสุทธิ์ของบุคลากรภาครัฐ

เวลา 06.15 น. ที่หน้าอาคาร 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ได้นำขบวนส่งมอบชุดทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะ จำนวน 125,000 ชุด ให้กับหน่วยในโครงสร้าง กอ.รมน.ภาค 4 สน.
การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามโครงการ “ภาครัฐจริงใจ ข้าราชการไร้ยาเสพติด” เพื่อคัดกรองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

พล.ท.นรธิป กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การมีข้าราชการที่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเริ่มจากการตรวจคัดกรองผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานความมั่นคงเป็นลำดับแรก จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความไว้วางใจระหว่างภาครัฐและประชาชน
“การตรวจคัดกรองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องนี้ เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนว่า เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่ยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติราชการให้มีธรรมาภิบาลและความโปร่งใสเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยและเข้มแข็งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปด้วย” แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ
@@ ศอ.บต.ไม่มีรอช้า “เลขาฯ”ประเดิมโชว์โปร่งใส

อีกด้านหนึ่ง ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มีกิจกรรมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดบุคลากรของ ศอ.บต. ทุกคน ตั้งแต่ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง จนถึงพนักงานทำความสะอาดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อสอดรับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหน่วยงานรัฐบาล
ผู้ประเดิมตรวจคนแรก ได้แก่ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร เลขาธิการ ศอ.บต. และ นายปิยะ รักสกุล รองเลขาธิการ ศอ.บต.
การตรวจปัสสาวะ ดำเนินการอย่างรัดกุม เป็นไปตามหลักวิชาการ โดยเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และนักเรียนตำรวจ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อให้เกิดความโปร่งใสสูงสุด
@@ ใช้ จนท.นอกหน่วยประกบตรวจ 1 ต่อ 1

นายปิยะศิริ กล่าวว่า น้อมรับนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในหน่วยงานภาครัฐของรัฐบาล และแม้จะมีการตรวจสารเสพติดเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วันนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภายนอกมาประกบตรวจ 1 ต่อ 1 เพื่อความโปร่งใส
“ผมต้องการรักษากำลังพลของ ศอ.บต. ให้มีคุณภาพ เพราะเป็นหน่วยงานรัฐและหน่วยงานด้านการพัฒนา เราจะไม่สามารถพัฒนาใครได้เลย ถ้าเรายังไม่บริสุทธิ์ 100%” เลขาธิการ ศอ.บต. ย้ำ
@@ ประกาศกฎเหล็ก “เสพ..ส่งบำบัด ค้า..ส่งคุก”

นายปิยะศิริ กล่าวอีกว่า หากตรวจพบผู้ที่ใช้สารเสพติด ไม่ว่าจะเป็นใคร ตำแหน่งใด จะดำเนินการตรวจซ้ำ และส่งไปบำบัดฟื้นฟู เพราะเชื่อว่าผู้เสพคือผู้ป่วย หากตรวจพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเหนือกว่าระดับการเสพ จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันที นี่ถือเป็นกฎเหล็กของ ศอ.บต.
สำหรับการผนึกกำลังของสองหน่วยงานหลักอย่าง กอ.รมน.ภาค 4 สน และ ศอ.บต.เพื่อตรวจหาสารเสพติดจากเจ้าหน้าที่และบุคลากรหน่วยงานนั้น เป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจของภาครัฐในการ “แยกคนออกจากยาเสพติด” และสร้างความเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะเป็นผู้ที่บริสุทธิ์และพร้อมเป็นผู้นำในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยและเข้มแข็ง ปลอดยานรก ในพื้นที่ปลายด้ามขวานต่อไป
