นายกฯอนุทินบุกปลายด้ามขวาน ยอมรับจุดอ่อน “ซีลชายแดน” จ่อถกมาเลย์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี

นับเป็นการลงพื้นที่หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 29 ก.ย.68, เห็นชอบผ่านที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นัดแรก ให้ตั้ง พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการ สมช.เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขคนใหม่ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.68, และนับจากนั้น วันที่ 5 ต.ค.ต่อเนื่องมา ก็มีเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์ปล้นร้านทองครั้งมโหฬาร กลางห้าง บิ๊กซี สุไหงโก-ลก เมืองท่องเที่ยวชายแดนชื่อดังของ จ.นราธิวาส

การลงพื้นที่ของนายกฯอนุทิน มีคณะที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งถือว่าน่าสนใจ

- พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช.
- นายฐนัตถ์ สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
- พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายกฯอนุทิน เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนบินต่อไปยังค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นกองบัญชาการใหญ่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.)

@@ สส.แห่รับแน่น โชว์เอกภาพพรรคน้ำเงิน

คณะนักการเมืองที่ไปรอต้อนรับ นายกฯอนุทิน ที่สนามบินหาดใหญ่ก็น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเป็นเอกภาพของพรรคภูมิใจไทย ขณะเดียวกันก็มี สส.จากพรรคการเมืองอื่นมารอต้อนรับด้วย จึงน่าจะคาดการณ์อนาคตได้ว่า ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไปปีหน้า น่าจะไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด โดย สส.ที่ไปรอต้อนรับประกอบด้วย

- นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย
- นายชลัฐ รัชกิจประการ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย
- นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ
- นายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย

@@ ฟังแผนยุทธศาสตร์ อส.ดูแลพื้นที่ - ประเมินนายอำเภอ ผู้กำกับ

ที่ค่ายสิรินธร นายกฯอนุทิน ปิดห้องพูดคุย และรับฟังรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ทุกหน่วย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยระหว่างการประชุม นายกฯได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และแสดงความเสียใจกับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรง

ในที่ประชุมยังมี พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4, นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน อดีตเลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมให้การต้อนรับและหารือ

ในที่ประชุมมีการพูดถึงยุทธศาสตร์หลักในการแก้ไขปัญหา รวม 8 ด้าน ครอบคลุมด้านความมั่นคงและสังคม มุ่งใช้การเมืองนำการทหาร รวมทั้งการเสริมกำลังทหารด้วยกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย หรือ อส. ได้แก่ กองร้อย อส. และ อส.ชคต.(ชุดคุ้มครองตำบล) ซึ่งจะเน้นปฏิบัติการเชิงรุก เสริมสร้างความเข้าใจ การพบปะประชาสัมพันธ์สร้างสันติสุข การคุ้มครองดูแลครูและนักเรียน พร้อมกำหนดตัวชี้วัดนายอำเภอในพื้นที่ ในฐานะ ผอ.ศปก.ประจำอำเภอ รวมถึงผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพ

นายกฯอนุทิน ยังเน้นย้ำถึงความเข้าใจปัญหาและสายสัมพันธ์ที่ดีกับกองกำลังภาคประชาชนในพื้นที่ ทั้ง อส. และ อสม. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน เนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มา 3 รัฐบาล

@@ 3 ข้อสั่งการยกประสิทธิภาพคุมพื้นที่ชายแดนใต้

ในที่ประชุม นายกฯยังได้มีข้อสั่งการเพื่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน 3 ข้อ คือ

1. ยกระดับงานด้านการข่าวเชิงรุก ด้วยการทำงานให้เร็วกว่าผู้ก่อเหตุหนึ่งก้าวเสมอเป็นอย่างน้อย มีการบูรณาการงานข่าวของทุกหน่วยงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อคาดการณ์ ป้องกัน และหยุดยั้งแผนการต่างๆ ให้ได้ก่อนที่เหตุจะเกิด

2. บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม “กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับการคุ้มครอง”

3. ผนึกกำลังทุกภาคส่วนอย่างเป็นเอกภาพ การตั้งจุดตรวจ การลาดตระเวน และการดูแลชุมชน ต้องประสานสอดคล้องกัน เพื่อปิดช่องว่างการทำผิดกฎหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

@@ ยอมรับจุดอ่อน “ซีลชายแดน” แต่ยังไม่เคาะสร้างรั้ว

ภายหลังการประชุม นายกฯอนุทิน ให้สัมภาษณ์ในหลายประเด็น สรุปความได้ดังนี้

- ให้ความมั่นใจหน่วยราชการทุกส่วน ขอให้ทำงานแบบบูรณาการอย่างเต็มที่

- การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องให้เด็ดขาด มีการทำงานยกระดับด้านการข่าว และเน้นเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ

- เหตุการณ์ปล้นร้านทอง และเหตุระเบิดในพื้นที่ ฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว แต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มักจะเกิดเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเอื้ออำนวยให้กับผู้กระทำผิด จึงต้องมีการตรวจตามช่องทางธรรมชาติให้ได้มากที่สุด

- ไม่ฟันธงว่าเป็นการเจาะจงก่อเหตุช่วงสับเปลี่ยนกำลัง ช่วงเปลี่ยนปีงบประมาณหรือไม่ เพราะอ่านใจผู้กระทำไม่ได้ เชื่อว่าอาจจะวางแผนไว้นานแล้ว แต่เลือกจังหวะก่อเหตุช่วงนี้พอดี

- สำหรับการติดตามผู้กระทำผิด หรือผู้ก่อเหตุในจังหวัดชายแดนใต้ที่หนีไปต่างประเทศ ก็ต้องมีการหารือกันต่อในระดับฝ่ายความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน หากฝ่ายความมั่นคงต้องการการสนับสนุน รัฐบาลก็พร้อมอย่างเต็มที่

- ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการก่อสร้างรั้วชายแดน

“กองทัพได้ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกอย่างในการรักษาอธิปไตย แต่ก็ไม่ได้อยากให้ไปถึงจุดนั้น แต่ถ้ามีการละเมิดกฎหมายและอันตรายต่ออธิปไตยไทย ก็พร้อมที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้สิ่งที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นกับคนไทย”

@@ เยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บ - ขอพรพระให้ศัตรูพินาศ

หลังเสร็จภารกิจที่ค่ายสิรินธร นายกฯอนุทิน เดินทางต่อไปที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จำนวน 4 นาย

โดยนายกฯได้มอบของเยี่ยมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อป จากนั้นให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ทุกคนพ้นขีดอันตราย มีสติสัมปชัญญะที่ดี ถือว่าเป็นข่าวดี

นายกฯอนุทิน ยังเผยด้วยว่า อาจารย์แพทย์ได้มอบ “พระไพรีพินาศ” ซึ่งเป็นพระที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จัดสร้างขึ้น ถือเป็นสิริมงคล

“ผมไม่ต้องการให้ใครพินาศ แต่ให้ศัตรูพินาศ ศัตรูของบ้านเมือง”