
ป.ป.ช.ปัตตานี ลุยจับพิรุธโครงการติดตั้งเสาไฟโซลาร์เซลล์ มูลค่า 5 ล้านบาทของ อบต.แหลมโพธิ์ ยะหริ่ง โผล่ติดตั้งก่อนลงนามสัญญา ขณะที่โครงการผนังป้องกันตลิ่ง อบต.พิเทน 9.9 ล้าน เลยกำหนดส่งงานแล้วแต่ยังไม่เริ่มสร้าง ส่วนโครงการปรับปรุงฐาน ชคต.ตะลุโบะ ปัตตานี 1.8 ล้าน สร้างไม่ตรงแบบ
สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปัตตานี ดำเนินการตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และพบมีหลายโครงการที่มีข้อพิรุธ ทำให้ต้องส่งทีมลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
เมื่อวันอังคารที่ 2 ก.ย.68 ทีมสืบสวนของ ป.ป.ช.ปัตตานี ได้เข้าตรวจสอบโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ (พลังงานแสงอาทิตย์) ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จำนวน 90 ต้น ในพื้นที่หมู่ 1 ถึงหมู่ 4 ของ ต.แหลมโพธิ์ งบประมาณ 5,000,000 บาท หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีการติดตั้งเสาไฟฟ้าไปแล้วบางส่วน ก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญา

จากการตรวจสอบเบื้องต้นที่ อบต.แหลมโพธิ์ พบว่า แม้จะมีการคัดเลือกผู้ชนะการเสนอราคาแล้ว แต่เอกสารสัญญาจัดซื้อจัดจ้างยังไม่ได้มีการลงนามอย่างเป็นทางการ
จากนั้นทีม ป.ป.ข.ได้สุ่มตรวจในพื้นที่จริง พบว่า มีการติดตั้งเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ไปแล้วจริงตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสมา ซึ่งขัดต่อหลักการปฏิบัติงานภาครัฐที่ระบุว่า ต้องมีการลงนามในสัญญาและคำสั่งเริ่มงานก่อนการดำเนินการใดๆ

ในระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่ อบต.แหลมโพธิ์ ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญาเป็นเพราะอยู่ในขั้นตอนการจัดเรียงเอกสารแนบท้ายสัญญาให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ปัตตานี ได้ขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด และได้กำชับให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐฯ ตลอดจนระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
@@ สิ้นสุดสัญญา แต่ยังไม่เริ่มสร้าง! ผนังป้องกันตลิ่ง 9.9 ล้าน

วันเดียวกัน ป.ป.ช.ปัตตานี ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างผนังป้องกันตลิ่งคลองบาแฆะ ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พิเทน อ.ทุ่งยางแดง ซึ่งใช้งบประมาณสูงถึง 9,990,000 บาท โดยพบว่า ทางผู้รับจ้างยังไม่ได้เริ่มงานก่อสร้าง ทั้งที่เลยกำหนดวันสิ้นสุดสัญญามาแล้วกว่า 2 เดือน
โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เซเวอร์ค โยธากิจ เป็นผู้รับจ้าง และได้มีการลงนามในสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 มีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ก.ค.68 ซึ่งเลยกำหนดเวลามาแล้ว
จากการตรวจสอบข้อมูลจากปลัด อบต.พิเทน และผู้อำนวยการกองช่าง พบว่า โครงการนี้ประกอบด้วยงานก่อสร้าง 2 ส่วนหลัก คือ งานก่อสร้างชลประทาน (ผนังป้องกันตลิ่ง) มูลค่า 6,251,182 บาท และงานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) มูลค่า 3,738,818 บาท

เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ลงพื้นที่สังเกตการณ์บริเวณสถานที่ก่อสร้างจริง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 5 ของ ต.พิเทน พบว่ายังไม่มีการดำเนินการก่อสร้างใดๆ ทั้งสิ้น
และเมื่อสอบถามถึงสาเหตุ ทาง อบต.พิเทน ได้ชี้แจงว่า มีการอนุมัติขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปจนถึงวันที่ 20 พ.ย.68 โดยอ้างเหตุผลตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ขยายระยะเวลาสำหรับโครงการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อยละ 50
เมื่อได้รับฟังคำชี้แจง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ทักท้วงและให้ข้อเสนอแนะ พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบริหารงานก่อสร้างให้เป็นไปตามสัญญา และปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการ และจะติดตามความคืบหน้าของโครงการนี้ในระยะต่อไป
@@ ปรับปรุงฐาน ชคต.ตะลุโบะ 1.8 ล้าน สร้างไม่ตรงแบบ

เมื่อเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามโครงการจัดจ้างปรับปรุงอาคารที่ทำการและสิ่งก่อสร้างประกอบฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล(ชคต.) ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2568 ของที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี ที่ได้รับงบประมาณกว่า 1.8 ล้านบาท จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยมี หจก.สลาตันไทย กรุ๊ป เป็นผู้รับจ้าง
การตรวจสอบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้รับจ้างได้ทำการส่งมอบงานแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการตรวจรับอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้สุ่มตรวจสอบวัดขนาดของงานก่อสร้าง 11 รายการ เช่น อาคารโรงนอน ห้องน้ำ-ห้องส้วม หอตรวจการ และรั้วตาข่าย ซึ่งพบว่าไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการที่กำหนดไว้ในสัญญา

จากผลการตรวจสอบดังกล่าว เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จึงได้ทักท้วงและให้ข้อเสนอแนะ พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขงานก่อสร้างให้เป็นไปตามสัญญาอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการ และได้แจ้งว่า จะมีการลงพื้นที่ติดตามผลในระยะต่อไป
สำหรับการเข้าตรวจติดตามครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของสำนักงาน ป.ป.ช. ในการป้องกันการทุจริตเชิงรุก โดยการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตจากการดำเนินโครงการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างโปร่งใสและบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติในการต่อต้านการทุจริต
