
ยังโจมตีไม่เลิก วางระเบิดซ้ำจุดเกิดเหตุเผาสำนักงาน - รถแบคโฮ - สิบล้อ บริษัทเหมืองแร่ที่จะแนะ นราธิวาส ตูมสนั่นคนงานเหมืองบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย แฉเป็น “กับระเบิดถังแก๊ส” คาดวางดักเอาไว้ช่วงบุกทำลายทรัพย์สินเมื่อ 5 วันก่อน
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ส.ค.68 คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนบุกเข้าไปทำลายและลอบวางเพลิงเผาทรัพย์สินของ บริษัท เอเซีย เหมืองแร่ จำกัด ในพื้นที่บ้านไอบาลอ หมู่ 6 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้อาคารสำนักงานและที่พักคนงาน 1 หลัง รถแบคโฮ 2 คัน และรถบรรทุกสิบล้อ พร้อมพ่วงอีก 4 คัน ได้รับความเสียหาย ทั้งยังมีการขโมยรถบรรทุกสิบล้ออีก 1 คัน ไปจอดเผาบนถนนสาย นธ.4013 (บ้านน้ำวน – บ้านน้ำหอม) และหลังก่อเหตุยังขึ้นป้ายประกาศเจตนารมณ์ อ้างป้องกันทรัพยากรธรรมชาติจากการกอบโกยของนายทุนนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.20 น.วันอังคารที่ 26 ส.ค.68 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อีโอดี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบริเวณเหมืองแร่ ในพื้นที่บ้านไอร์ซือเร๊ะ หมู่ 3 ต.ช้างเผือก ซึ่งเป็นจุดที่เคยเกิดเหตุคนร้ายบุกเผาทำลายอาคารสำนักงาน รถแบคโฮ และรถบรรทุกของ บริษัท เอเชียเหมืองแร่อุตสาหกรรม จำกัด โดยมีพนักงานของบริษัทเข้ามาช่วยเคลียร์พื้นที่ด้วย

ปรากฏว่าระหว่างที่พนักงานของบริษัท 2 รายกำลังเดินเข้าไปในบ้านพักคนงานเพื่อเก็บอุปกรณ์ ได้ไปเหยียบบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายวางเป็นกับดักเอาไว้ตั้งแต่วันเกิดเหตุเพลิงไหม้ ส่งผลให้เกิดระเบิดขึ้นทันที
แรงระเบิดทำให้พนักงานบริษัทฯ ทั้ง 2 รายได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจะแนะอย่างเร่งด่วน ทราบชื่อคือ นายอาซือมิง อาแซ อายุ 35 ปี พนักงานขับรถแบคโฮ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นขาขวาขาด และ นายซับรี ตาเย๊ะ อายุ 46 ปี คนดูแลเหมือง ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่ขาและลำตัว

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ระเบิดที่คนใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในถังแก๊สขนาด 4 กิโลกรัม และใช้ระบบจุดระเเบิดแบบเหยียบ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการเก็บกู้วัตถุระเบิดอีกลูกในพื้นที่เดียวกัน เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.68 แต่ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่ทำลายทรัพย์สินของบริษัทเอกชนที่เข้าไปทำเหมือง แต่ยังจงใจวางกับดักเพื่อมุ่งทำร้ายผู้ที่เข้าตรวจสอบหรือช่วยเหลือหลังเกิดเหตุด้วย ซึ่งเป้าหมายน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนั่นเอง
@@ บริษัททำเหมืองเคยถูกเรียกค่าคุ้มครอง ก่อนเจอบุกเผา

สำหรับเหตุการณ์คนร้ายวางเพลิงอาคารสำนักงาน และเผาทำลายรถแบคโฮ รวมถึงรถบรรทุกเทท้ายของ บริษัท เอเชียเหมืองแร่อุตสาหกรรม จำกัด เสียหายอย่างหนัก เมื่อวันที่ 21 ส.ค.68 ที่ผ่านมานั้น จากการสอบปากคำคนงานเหมืองแร่ทราบว่า ในวันเกิดเหตุมีคนร้ายแต่งกายชุดดำ ประมาณ 30 คน มีอาวุธปืนครบมือ บุกเข้าไปจับคนงาน 7 คน มัดมือไพล่หลัง แล้วนำไปควบคุมตัวในป่าข้างเหมืองแร่
จากนั้นคนร้าย 3 คน ได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้คนขับรถแบคโฮของบริษัทฯ ขับรถแบคโฮไปชนเพื่อทำลายรถบรรทุกเทท้ายสิบล้อ 4 คัน พร้อมใช้บุ้งกี๋ของรถแบคโฮพลิกรถบรรทุกให้ตะแคง ส่วนคนร้ายที่เหลือได้เข้าไปทำลายอาคารสำนักงานและบ้านพัก ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง แล้วคนร้ายจึงได้ไปปล่อยตัวคนงานที่ถูกจับมัดมือให้เป็นอิสระ
คนงานยังเล่าให้ฟังว่า หลังคนร้ายปล่อยตัวคนขับรถแบคโฮแล้ว คนร้ายยังได้ถือโอกาสขับรถบรรทุกเทท้าย ออกจากเหมืองแร่ไปอีก 1 คัน และคนร้ายได้นำรถคันดังกล่าวไปเผาทิ้งที่บริเวณริมถนน ทางหลวงชนบทที่ 4013 ระหว่างรอยต่อบ้านน้ำวนกับบ้านน้ำหอม หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีข้อมูลแหล่งข่าวว่า มีบุคคลอ้างตัวเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เคยส่งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองจากบริษัทเหมืองแร่ดังกล่าว แต่ไม่ทราบจำนวนเงินที่แน่ชัด ทว่าทางบริษัทเหมืองแร่กลับเพิกเฉย กระทั่งล่วงเลยเวลาเส้นตาย ทำให้คนร้ายบุกวางเพลิงรถ ทำลายอาคารสำนักงานและบ้านพักคนงาน แถมยังมีการข่มขู่ไม่ให้คนงานที่ทำงานเหมืองแร่เข้าไปทำงาน หากไม่เชื่อฟังจะไม่รับรองความปลอดภัยด้วย
