
เหตุรุนแรงที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ แม้กลุ่มผู้ก่อเหตุจะเปลี่ยนเป้าหมายจาก “กลุ่มอ่อนแอ - เปราะบาง” ทั้งเด็ก คนแก่ ผู้หญิง และคนพิการ มาเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ถืออาวุธก็ตาม
แต่สถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่ก็ยังตึงเครียดและมีความสูญเสียรายวันอยู่เช่นเดิม
หากนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.68 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน 19 พ.ค. คือ 1 เดือนเต็ม พบว่ามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นถึง 20 เหตุการณ์ (เฉพาะเหตุความมั่นคง) มีผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 38 ราย
@@ นายกฯถกฝ่ายมั่นคง แต่ยังไม่ตั้งคณะพูดคุยฯ
ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา นายกฯแพทองธาร ชินวัตร เรียกประชุมผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานด้านความมั่นคง 3 ครั้ง (วันที่ 8, 9 และ 13 พ.ค.) และสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาไฟใต้ แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่ายังไม่มีสาระสำคัญหนักแน่นพอที่จะนำไปสู่จุดเปลี่ยนของสถานการณ์ได้ กล่าวคือ
- ไม่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการทำงาน และจัดการปัญหาไฟใต้ของรัฐบาล
- ยังไม่แต่งตั้ง “คณะพูดคุยสันติสุข” หรือ “คณะพูดคุยสันติภาพ” ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้เร่งดำเนินการ หรือหากรัฐบาลจะไม่ใช้วิธีการพูดคุยเจรจาในการจัดการปัญหา ก็ควรประกาศให้ชัด ไม่ใช่ปล่อยให้อึมครึมเช่นนี้
@@ จ่อตั้ง “บิ๊กชิน” เสริมแกร่งงานมั่นคงรัฐบาล

ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาร่วมแก้ไขปัญหาไฟใต้แล้ว เป็น “ร่างคำสั่งนายกรัฐมนตรี” เรื่อง “การแต่งตั้งคณะทำงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล”
วัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการบูรณาการและขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ โดยเฉพาะการยุติปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการจัดระเบียบตามแนวชายแดนด้านตะวันตกที่มีอาณาเขตติดต่อกับเมียนมา ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเอกภาพ รวมทั้งมีเป้าหมายและแนวทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติงานร่วมกัน
คณะทำงานด้านความมั่นคงชุดนี้ มี พลเอก ดร.ชินวัฒน์ แม้นเดช อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 และอดีตที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีผู้ทรงคุณวุฒิจากฝ่ายทหาร อัยการ และฝ่ายวิชาการ รวมทั้งสิ้น 13 ราย ร่วมเป็นคณะทำงาน
รายชื่อที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักก็เช่น พลเอก ดร.ธิวา เพ็ญเขตกรณ์ อดีตเจ้ากรมข่าวทหาร ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร สาธารณรัฐเกาหลี เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน, พล.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.สำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก, ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง อัยการพิเศษฝ่ายประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เลขานุการรองอัยการสูงสุด, ผศ.ดร.พงศ์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ผศ.ดร.ณัฏฐินี ปิยะศิริพนธ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หัวหน้านักวิจัย เป็นคณะทำงาน เป็นต้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า ร่างคำสั่งฉบับนี้ ไม่ได้เป็นการแต่งตั้ง “หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ชุดใหม่” ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้อง แม้ที่ผ่านมาจะมีชื่อของ พลเอก ดร.ชินวัฒน์ เป็นหนึ่งใน “แคนดิเดต” คู่กับ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และหนึ่งในแกนนำคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพ จากการเปิดโต๊ะพูดคุยเมื่อปี 2556 ก็ตาม
@@ ที่แท้ปัดฝุ่นคณะทำงานชุดรัฐบาลเศรษฐา

นอกจากนั้น ยังเป็นที่น่าสังเกตอีกว่า คณะทำงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล ตามที่ปรากฎชื่อในร่างคำสั่ง โดยเฉพาะหัวหน้าคณะทำงาน รองหัวหน้า และคณะทำงานบางส่วน นำโดย พลเอก ดร.ชินวัฒน์ แม้นเดช นั้น เป็นบุคคลที่เคยได้รับแต่งตั้งจาก พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการ สมช.คนก่อนหน้านี้ ให้เป็นคณะทำงานติดตามและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การแก้ไขความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (คณะที่ 1) เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.67 มาแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงรัฐบาลอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน
@@ รู้จัก “บิ๊กชิน” มือทำงาน “มั่นคง” รัฐบาลเพื่อไทย
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เหตุใด “บิ๊กชิน” พลเอก ดร.ชินวัฒน์ จึง “ขึ้นหม้อ” ได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ถึง 2 รัฐบาลซ้อน คือ รัฐบาลนายกฯเศรษฐา และรัฐบาลนายกฯแพทองธาร
ประวัติ พลเอก ดร.ชินวัฒน์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 18 (ตท.18) เติบโตมาจากสายรบพิเศษ (รพศ.) หรือ “หมวกแดง” ลงไปปฏิบัติราชการสนามชายแดนใต้ กระทั่งขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4
“บิ๊กชิน” ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะจบถึง “ดอกเตอร์” มีความเป็นนักวิชาการ ศึกษาโครงสร้างของขบวนการบีอาร์เอ็นอย่างถ่องแท้

ที่ผ่านมา “บิ๊กชิน” หลังจากเกษียณอายุราชการ ไปทำงานด้านกีฬาที่บ้านเกิด จ.กาญจนบุรี เป็นนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “กีฬาแห่งชาติ” เมื่อปี 66 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ว่ากันว่า “บิ๊กชิน” เป็นอดีตนายทหารที่คนเมืองกาญจน์นิยมชมชอบ แถมมีบทบาทในการเลือกตั้ง ช่วยให้พรรคเพื่อไทยกวาด สส. 4 จาก 5 ที่นั่งของ จ.กาญจนบุรี ในการเลือกตั้งปี 66 ที่ผ่านมา โดย พลเอก ดร.ชินวัฒน์ เป็นญาติกับ นายชูศักดิ์ แม้นทิม สส.กาญจนบุรี เขต 2 ของพรรคเพื่อไทยด้วย จึงมีโอกาสได้เข้าพบพูดคุยกับ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เพื่อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงและปัญหาชายแดนใต้อยู่เป็นระยะ
ประกอบกับ อดีตนายกฯทักษิณ ชื่นชอบคนที่รักเรียน มุ่งมั่นด้านการศึกษา เมื่อ พลเอก ดร.ชินวัฒน์ จบถึงดอกเตอร์ จึงรู้สึกดีเป็นพิเศษ และสนับสนุนให้มีบทบาทในงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลเพื่อไทย
@@ “บิ๊กแป๊ะ” ยังเต็ง 1 หัวหน้าคณะพูดคุยฯ

สำหรับตำแหน่งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข หรือ สันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลยังไม่จรดปากกาแต่งตั้งนั้น มีรายงานว่า ชื่อที่ยังเป็น “เต็ง 1” ยังคงเป็น พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก หรือ “บิ๊กแป๊ะ” อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในด้านความมั่นคง ในรัฐบาลอดีตนายกฯเศรษฐา
ปัจจุบัน พล.อ.นิพัทธ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ของ รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย) และได้รับความไว้วางใจจาก “บิ๊กอ้วน - ภูมิธรรม” อย่างเต็มที่ ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนลงไปรับฟังปัญหาจากหน่วยงานระดับปฏิบัติในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงประชาชนกลุ่มต่างๆ และได้รับการส่งสัญญาณว่า จะมอบหมายให้ทำหน้าที่ “หัวหน้าคณะพูดคุยฯ” อย่างแน่นอน
แต่มีข้อตกลงกันภายในว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบเปิดตัวอย่างเอิกเกริก เพราะอาจเป็นเงื่อนไขให้ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ได้ ฉะนั้นจึงใช้แนวทางการทำงานแบบเงียบๆ และรอจังหวะที่เหมาะสมเพื่อออกประกาศแต่งตั้ง รวมทั้งสานต่อการทำงานต่อไป
อนึ่ง พล.อ.นิพัทธ์ มีประวัติและประสบการณ์ในกระบวนการพูดคุยสันติภาพ ในยุครัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหนึ่งใน “3 ทหารเสือ” ที่เป็นหัวหอกการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการพูดคุยอย่าง “เปิดเผย - บนโต๊ะ” โดยอีก 2 ทหารเสือ คือ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสมช. ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
นอกจากนั้น พล.อ.นิพัทธ์ ยังมีประสบการณ์ในกระบวนการสันติภาพของอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย และได้รับการยอมรับอย่างสูงจากรัฐบาลอินโดฯในอดีตด้วย
