สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ เผยยอดเงินบริจาคจ่อแตะ 4 แสน ช่วย 9 นักกิจกรรมแต่งชุดมลายู ขณะที่คดีประชามติจำลองแยกดินแดน อัยการนัดส่งตัว 5 ผู้ต้องหา 13 พ.ย.นี้ ด้านภาคประชาสังคม 33 องค์กร จี้ยุติดำเนินคดีนักศึกษา - นักกิจกรรม
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.67 สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) เผยแพร่ยอดเงินบริจาคเข้ากองทุนยุติธรรมปาตานี เพื่อช่วยเหลือผู้ถูกดำเนินคดีจากกรณีการจัดกิจกรรม Melayu Raya 2022 ที่จัดขึ้นที่ หาดวาสุกรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 4 พ.ค.65
โดยเป็นการรับบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เลขบัญชี 581-146-877-6 ชื่อบัญชี กลุ่มให้ความช่วยเหลือด้านคดี โดย ชารีฟ สะอิ ซึ่งมียอดเงินบริจาค เป็นเงินทั้งสิ้น 397,274 บาท ( ยอด ณ 7 ต.ค.67)
สำหรับกิจกรรม Melayu Raya 2022 มีนักกิจกรรมถูกดำเนินคดีทั้งหมด 9 คน ในข้อหายุยงปลุกปั่นและข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการดำเนินคดีเรื่องการแต่งกายด้วยชุดมลายู เพราะไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่พฤติการณ์ของแกนนำ กับผู้ขึ้นปราศรัย มีการพูดเข้าข่ายยุยงปลุกปั่น และโบกธงบีอาร์เอ็น
@@ อัยการนัดส่งตัว 5 นศ. – นักกิจกรรม คดีประชามติ 13 พ.ย.นี้
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี นัดส่งตัวนักศึกษาและนักกิจกรรม 5 คนที่ถูกฟ้องดำเนินคดีจากการจัดเสวนาการแสวงหาทางออกทางการเมืองและการกำหนดอนาคตตนเอง (Self-Determination) และจัดกิจกรรมประชามติจำลอง ไปยังอัยการจังหวัดปัตตานี โดยทางอัยการจะนัดส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 อีกครั้งในวันที่ 13 พ.ย.67
โดยนักศึกษาและนักกิจกรรมทั้ง 5 คน ประกอบด้วย
1.นายอาเต็ฟ โซ๊ะโก ประธาน The Patani
2.นายฮากิม พงติกอ เลขาธิการ The Patani
3.นายอิรฟาร อูมา ประธาน Pelajar Bangsa
4.นายสารีฟ สะเเลมัน
5.นายฮุซเซ็น บือแน
ทั้งหมดถูกฟ้องในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
ทั้งนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
อนึ่ง การจัดเสวนาการแสวงหาทางออกทางการเมืองและการกำหนดอนาคตตนเอง (Self-Determination) และจัดกิจกรรมประชามติจำลอง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ถูกฝ่ายความมั่นคงที่เป็นผู้ฟ้องมองว่า อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ เนื่องจากเป็นการนำเสนอแนวคิดที่ท้าทายต่อแนวทางของรัฐในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนใต้
@@ เรียกร้องยุติดำเนินคดี กรณี “ประชามติจำลอง”
ขณะเดียวกัน กลุ่มนักกิจกรรม นักศึกษา และภาคประชาสังคม 33 องค์กร ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ยุติการดำเนินคดีกับนักศึกษาและประชาชน (คดีประชามติจำลองและอื่นๆ) โดยมีเนื้อหาระบุว่า
“ด้วยกรณีการดำเนินคดีกับนักศึกษาและนักกิจกรรมที่จัดกิจกรรมเสวนาประเด็นสิทธิในการกำหนดอนาคตตนเองกับสันติภาพปาตานี โดยภายหลังการจัดกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่จาก กอ.รมน มีการดำเนินคดีต่อนักศึกษาและนักกิจกรรมที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
ทางนักกิจกรรมนักศึกษาและภาคประชาสังคม มีความกังวลอย่างยิ่งกับการดำเนินคดีความต่อนักศึกษานักกิจกรรมในพื้นที่ การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หลักสิทธิเสรีภาพ และส่งผลกระทบต่อบทบาทการบริการทางวิชาการของมหาวิทยาลัย
และเพื่อให้เป็นหมุดหมายสำคัญในการแสวงหาทางออกทางการเมืองจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปาตานี จังหวัดชายแดนใต้ ทางนักกิจกรรมนักศึกษาและภาคประชาสังคม ขอเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับนักกิจกรรมนักศึกษาในลักษณะยับยั้งการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมืองโดยเร็วที่สุด”