ผ่าน 1 ปีของรัฐบาลเพื่อไทย เปลี่ยนนายกฯไป 1 คน และต้องตั้ง ครม.ชุดใหม่
แม้จะเชื่อกันว่ารัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่ในอำนาจได้จนครบเทอม อีก 3 ปี แต่พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับยังเป็นพื้นที่ช่วงชิงฐานคะแนนกันตั้งแต่ไก่โห่
โดยเฉพาะ 2 พรรคที่มี สส.ในพื้นที่ อย่างพรรคประชาชาติ แชมป์เก่า กับพรรคภูมิใจไทย
สำหรับภูมิใจไทยนั้น แม้จะมี สส.ชายแดนใต้แค่หนึ่งเดียว คือ นราธิวาส ดร.ซาการียา สะอิ แต่จากการทำพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่มีหยุดพัก ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง จนถึงหลังเลือกตั้ง
ประกอบกับพรรคภูมิใจไทยได้คุมกระทรวงมหาดไทย จึงมีกลไกฝ่ายปกครองในพื้นที่อย่างทั่วถึง ทำให้ระยะหลังได้รับการตอบรับจากชาวบ้านไม่น้อย
ขณะที่พรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค และ รมว.ยุติธรรม ก็ลงพื้นที่ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ทั้งวันธรรมดาและวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน และร่วมกิจกรรม ไม่ทิ้งคนชายแดนใต้
ส่วนพรรคอื่น อย่างรวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ ล้วนมีปัญหาภายใน จึงยังไม่ออกอาวุธมากนัก
มีรายงานด้วยว่าสาเหตุที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) กลายเป็นพื้นที่ช่วงชิง เพราะมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวน สส. จาก 13 คนในปี 66 เป็น 15-16 คนในการเลือกตั้งปี 70
ถือเป็นไม่กี่พื้นที่ในประเทศที่จะมี สส.เพิ่มขึ้น เพราะจำนวนประชากรไม่ลดลง
@@ “ทวี” เปิดพื้นที่คนเห็นต่าง ไม่ต้องยกคณะไปคุยถึงมาเลย์
ตัวอย่างของการลงพื้นที่ต่อเนื่อง และทำงานการเมืองของสองพรรค ก็เช่น วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.67 พ.ต.อ.ทวี ร่วมกล่าวปาฐกถาในงานเสวนาวิชาการ “อารยธรรมมาเลย์: มรดกและอิทธิพลต่อโลกยุคใหม่” ที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยมีคณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา นักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมฟังและร่วมกิจกรรม
พ.ต.อ.ทวี ร่วมปาฐกถาตอนหนึ่งว่า เรื่องวัฒนธรรม โดยเฉพาะอารยธรรมมลายูที่ยังมีความแตกต่าง เรื่องเดียวกันคิดเหมือนกัน แต่ทำไม่เหมือนกัน เพราะคนไม่เหมือนกัน เครื่องมือที่จะสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันนั้น เวทีเสวนาจะทำให้ความคิดต่างได้มีพื้นที่ อาจจะไม่ต้องยกคณะไปคุยที่มาเลย์ คุยในพื้นที่แห่งนี้ก็เป็นไปได้
ในฐานะที่เป็น รมว.ยุติธรรม จะให้ความสำคัญเรื่องของอารยธรรมที่เกี่ยวกับความยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารยธรรมที่เกิดจากวิถีชีวิต ดังนั้นหนีไม่พ้นที่เราจะต้องไปดูที่กฎหมายและสังคมเรา ประเทศไทยเรามีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ถ้าจะอนุโลมเกี่ยวกับวัฒนธรรมหรืออารยธรรม ปลายทางจะต้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี หรือต่อความมั่นคง
@@ ร่วมการกุศลมัสยิดยะลา - แจงผลงานช่วยลูกหนี้ กยศ.
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี เดินทางไปร่วมงานการกุศลที่มัสยิดนูรุลอิสลามบาโงยฮีเล หมู่ 6 ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมด้วย ส.ส.พรรคประชาชาติ จ.ยะลา ทั้ง 3 เขต โดยได้พบปะกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา คณะกรรมการมัสยิด และพี่น้องประชาชน ทั้งยังได้ร่วมรับประทานอาหาร พร้อมทั้งร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนจ่ายที่ดินวากัฟในการขยายมัสยิด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวตอนหนึ่งถึงว่า นโยบายที่ได้แก้กฎหมายใหม่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เป็นลูกหนี้ กยศ. ได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ซึ่งทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีลูกหนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะ จ.ยะลา มีกว่าหมื่นคน
โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังได้กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่รัฐบาลจะมีการโอนเป็นเงินสดให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในวันที่ 25-26 ก.ย.นี้ด้วย
@@ เล็งเห็นฝีเท้าเยาวชนชายแดนใต้ รัฐพร้อมหนุนกีฬาฟุตบอล
วันเดียวกันนั้น พ.ต.อ.ทวี ยังเดินทางไปร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ระหว่างทีมปัตตานี เอฟซี กับทีม PSU สุราษฎร์ธานี ซิตี้ ที่สนามเรนโบว์ สเตเดี้ยม จ.ปัตตานี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่เข้าชมและเชีรย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งผลการแข่งขัน ทีมปัตตานี เอฟซี ชนะทีม PSU สุราษฎร์ธานี ซิตี้ 1 : 0
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นักฟุตบอลนอกจากจะเป็นที่รักของแฟนบอลแล้ว ยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชน และปัจจุบันฟุตบอลก็เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาฟุตบอล ทั้งด้านสนามและด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นสิ่งที่รัฐบาลยินดีที่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างยิ่ง
@@ แก้ทุกข์ให้ชาวบ้าน - แก้ปัญหาไฟใต้
พ.ต.อ.ทวี ยังเดินสายร่วมเสวนาบทบาทของสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการ เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน ที่บ้านเบ็ญจลักษณ์ อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ของ สส.สมมติ เบญจลักษณ์ ของพรรคประชาชาติ โดยมีประชาชน แกนนำกลุ่มสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.ทวี กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างพบปะพี่น้องประชาชนว่า หน้าที่ของตนที่เป็นรัฐบาล นอกจากมีหน้าที่แก้ความทุกข์ให้กับประชาชนแล้ว ต้องแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเรามีคำถามมากกว่าคำตอบตลอด เราต้องมาสร้างสันติภาพ
นอกจากนั้นยังต้องคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะลดรายจ่ายของพี่น้อง โดยเฉพาะในเรื่องพลังงาน การเป็นรัฐบาลจะต้องทำท้าทาย ทำเรื่องอนาคต จะต้องสร้างรายได้ สร้างเงินในกระเป๋าให้กับพวกเรา การแก้ปัญหาโดยเฉพาะการแก้หนี้ของประชาชน แก้กฎหมาย ต้องแก้ที่สภา และกรรมมาธิการ
@@ ภูมิใจไทยลุยต่อ สร้างถนนเชื่อมเบตง - สุคิริน
ฟากฝั่งของพรรคภูมิใจไทย ขับเคลื่อนงานพื้นที่โดย นายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาส แม่ทัพชายแดนใต้ของพรรค
วันศุกร์ที่ 13 ก.ย. ที่โรงแรมอิมพีเรียล จ.นราธิวาส กรมทางหลวง และบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ จัดประชุมปฐมนิเทศโครงการ (ครั้งที่ 1) การศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงแนวใหม่เชื่อมโยง อ.เบตง จ.ยะลา - อ.สุคิริน จ.นราธิวาส โดยมีน ายนัจมุดดิน ประธานคณะทำงาน รมว.แรงงาน พร้อมด้วย ดร.ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส เขต 4 พรรคภูมิใจไทย และผู้นำท้องถิ่น อ.สุคิริน อ.จะแนะ อ.ศรีสาคร และ อ.ระแงะ เข้าประชุมและรับฟังความคิดเห็น
นายนัจมุดดีน กล่าวว่า ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ดำเนินโครงการ ส่วนใหญ่ 99% สนับสนุนโครงการนี้ เพื่อให้เกิดขึ้น ซึ่งตนและ ดร.ซาการียา ได้เคยผลักดันสมัยพรรคภูมิใจไทยดูแลกระทรวงคมนาคมเมื่อปี 2565 ปีนี้เราได้รับงบประมาณมา 40 ล้านบาท เพื่อมาศึกษาออกแบบ คิดว่าเวลาที่จะศึกษา 1 ปี 6 เดือนก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์
“ผมมีความเชื่อมั่นว่าพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเห็นตรงกันว่า ควรจะให้มีการก่อสร้างเส้นทางเส้นนี้ เดิมสุคิรินไปเบตง ระยะทาง 170 กิโลเมตร เส้นทางที่จะตัดใหม่เหลือแค่ 105 กิโลเมตร ย่นระยะทางได้เกือบครึ่ง หากเส้นทางนี้แล้วเสร็จ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีสภาพที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้” นายนัจมุดดีน กล่าว
@@ มอบเครื่องมือทำมาหากินให้แรงงานผ่านอบรมเพิ่มทักษะ
เมื่อเร็วๆนี้ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส ได้จัดกิจกรรมมอบเครื่องมือพื้นฐานชุดการฝึก (ชุดเครื่องมือทำมาหากิน) ที่ห้องประชุมบางนรา สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส โดยมี นายนัจมุดดีน เป็นประธาน และ ดร.ซาการียา สะอิ ร่วมในกิจกรรม
โอกาสนี้ได้มีการมอบเครื่องมือพื้นฐานให้แก่ผู้ผ่านฝึกอบรมโครงการเพิ่มทักษะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ กิจกรรม พัฒนาทักษะแรงงานนอกระบบให้สอดคล้องกับความสามารถเฉพาะบุคคลเพื่อการประกอบอาชีพ ประจำปีงบประมาณา พ.ศ.2567
สำหรับผ่านการฝึกอบรม มีจำนวน 2 รุ่น 40 คน ประกอบด้วยผู้รับการฝึกจาก อ.สุคิริน สาขาการทำขนมฟิวชั่น จำนวน 20 คน และ พื้นที่ อ.ระแงะ สาขาการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศในบ้าน และการพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 20 คน
@@ ร่วมกิจกรรมแต่งชุดมลายูกับเยาวชนนราธิวาส
อีกกิจกรรมหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้ นายนัจมุดดีน พร้อมด้วย ดร.ซาการียา สะอิ ไปร่วมงานสัมมนาเรื่อง “Cinta Budaya Melayu” มองวัฒนธรรมมลายูผ่านการแต่งกาย ซึ่งจัดให้กับเยาวชนจังหวัดนราธิวาส โดย คณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร์ ที่โรงเรียนดารุสสลาม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส