เปิดแผนประทุษกรรม “คาร์บอมบ์ปัตตานี” คนร้ายประกอบระเบิดถังแก๊ส 2 ลูกซุกลังน้ำแข็งวางท้ายกระบะก่อนขับไปจอดก่อเหตุข้างรั้วตำรวจกองสืบฯ ตรวจที่มาของยานพาหนะถูกซื้อผ่านออนไลน์จากเจ้าของชาวพัทลุง แล้วจ้างร้านของชำหนองจิกโอนเงินมัดจำ เฝ้าระวังเก๋งต้องสงสัยอีกคัน ถูกซื้อมาพร้อมกัน เชื่อเตรียมวินาศกรรมครั้งใหญ่
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 ส.ค.67 จำนวน 3 จุด บริเวณถนนทางเข้าสะพานปลาท่าเทียบเรือปัตตานี ซึ่งอยู่ด้านหลังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี โดย 1 ใน 3 จุด เป็น “คาร์บอมบ์” ทำให้ทรัพย์สินเสียหายและมีผู้บาดเจ็บนั้น
หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบว่า คนร้ายได้นำรถยนต์กระบะ แบบตอนครึ่ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่น นาวาร่า สีเทา ป้ายทะเบียนสงขลา มาประกอบระเบิดแสวงเครื่อง โดยได้นำระเบิดที่บรรจุในถังแก๊ส จำนวน 2 ถัง น้ำหนัก 7 กิโลกรัม และ 15 กิโลกรัม ซุกซ่อนไว้ในลังใส่น้ำแข็งสีน้ำเงินและสีส้ม วางไว้ท้ายรถกระบะ มีการต่อวงจรดิจิทัลไทม์เมอร์เพื่อควบคุมเวลาการจุดระเบิด
จากนั้นได้ขับรถออกมาก่อเหตุ โดยคนร้ายได้ขับรถผ่านจุดตรวจตะลุโบะ บริเวณสะพานตะลุโบะ โดยมีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีแดง ป้ายปัตตานี มีผู้ขับขี่เป็นชาย สวมหมวกกันน็อคสีเขียว เสื้อสีฟ้า กางเกงสีเทา รองเท้าหนังสีดำ ถุงมือสีขาว ขับติดตามรถกระบะคาร์บอมบ์ ใช้เส้นทางถนนยะรัง - ถนนนาเกลือ จนไปจอดที่จุดเกิดเหตุ แล้วคนขับรถกระบะได้ลงจากรถ จากนั้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่ขับตามมา ขี่หลบหนีไป
โดยเส้นทางหลบหนี คนร้ายไปกลับรถที่หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บานา และใช้เส้นทางถนนนาเกลือ - ถนนยะรัง ผ่านจุดตรวจตะลุโบะ ซึ่งก็คือย้อนกลับเส้นทางขามานั่นเอง
@@ พบรถกระบะถูกซื้อออนไลน์จากพัทลุง
เจ้าหน้าที่ยังมีรายงานข้อมูลเส้นทางและที่มาของรถยนต์กระบะที่คนร้ายนำมาประกอบระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ด้วยว่า รถกระบะแบบตอนครึ่ง นิสสัน นาวาร่า คันนี้ มีนายสิทธิพร (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ครอบครอง ผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง พบว่า รถกระบะคันดังกล่าว ได้ขับผ่านกล้องวงจรปิดในพื้นที่แยกแม่ขรี (พัทลุง) - นาหม่อม (สงขลา) และจะนะ (สงขลา)
สำหรับข้อมูลของรถยนต์คันดังกล่าว พบว่า เดิมมี นายกูลเกียรติ (สงวนนามสกุล) เป็นเจ้าของ อยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง จากนั้นได้ขายรถคันดังกล่าว
ต่อมาคนร้ายได้มีการติดต่อเพื่อซื้อรถผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีร้านขายรถแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สงขลา เป็นนายหน้า เมื่อตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายคนร้ายได้ทำการโอนเงินมัดจำจำนวน 3,000 บาท โดยใช้บัญชีของนายมะปอซี (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีอาชีพเปิดร้านขายของชำ หลังโอนเงินได้มีการนัดหมายเพื่อรับรถยนต์กันในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบเพิ่มเติมที่ร้านค้าและบ้านของนายมะปอซี ในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก พบนายมะปอซีแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวนายมะปอซี และภรรยา ไปซักถามลงบันทึกประจำวันและจัดเก็บสารพันธุกรรม (DNA) ที่ สภ.หนองจิก จากน้้นได้เชิญตัวนายมะปอซี ดำเนินกรรมวิธีซักถาม ณ ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43
จากคำให้การของนายมะปอซีในเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 นายมะปอซี ได้ถูกชายไม่ทราบชื่อจ้างให้โอนเงินมัดจำ จำนวน 3,000 บาท โดยเจ้าตัวอ้างว่าไม่รู้รายละเอียดอื่นๆ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ
@@ เฝ้าระวังเก๋งต้องสงสัยอีกคัน หวั่นจัดหนัก “คาร์บอมบ์”
เจ้าหน้าที่ยังสืบทราบอีกว่า นอกจากกระบะที่คนร้ายนำมาก่อเหตุคาร์บอมบ์แล้ว ยังมีรถยนต์ต้องสงสัยเพิ่มอีก 1 คัน มีการซื้อ-ขายพร้อมกันกับรถกระบะนิสสัน นาวาร่า คือ รถยนต์เก๋งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน รุ่น Almera สีเทา ป้ายทะเบียนสงขลา มี น.ส.กนกพร (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ครอบครอง
สำหรับรถยนต์เก๋งคันนี้ พบว่า เป็นการซื้อ-ขายระหว่างคนร้ายกับร้านขายรถยนต์ใน จ.สงขลา โดยรถยนต์คันดังกล่าวถูกนำมาส่งให้กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งเตือนรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ให้เป็นรถยนต์เฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว โดยให้ทุกหน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มในการตรวจรถต้องสงสัย เน้นย้ำให้ตรวจ หมายเลขตัวรถ หรือหมายเลขเครื่อง เนื่องจากคนร้ายอาจจะดัดแปลงสีตัวรถ หรือสลับป้ายทะเบียน แล้วนำออกมาก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ได้