เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามตรวจสอบหาความเชื่อมโยงถึงมูลเหตุเบื้องหลังการสังหารโหดหนุ่มใหญ่คารถปิคอัพ แล้วเผารถซ้ำ แต่ไว้ชีวิตภรรยา เหตุเกิดในเทศบาลตำบลพ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อ 28 ก.ค.67 ที่ผ่านมา
จากการตรวจที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบวัตถุพยาน 5 รายการ ประกอบด้วย
1. ชิ้นส่วนอาวุธปืน ยี่ห้อ Glock ขนาด 4 มม. จำนวน 1 ชิ้น คาคว่าเป็นของผู้เสียชีวิต
2. ชิ้นส่วนซองกระสุนปืนยี้ห้อ Glock ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ชิ้น
3. ชิ้นส่วนโลหะ และสปริง จำนวน 1 ชิ้น
4.ปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก
5.ปลอกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 9 ปลอก
ผลการตรวจเก็บอาวุธปืนจากภายในรถยนต์ของผู้ตายพบว่า ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ ในเบื้องต้นตรวจสอบทางการข่าวทราบว่า เป็นอาวุธปืนของอดีตผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา
จากคำกล่าวอ้างของพยานบุคคล ทราบว่า อดีตผู้ใหญ่บ้านเจ้าของปืนได้มอบปืนให้ผู้เสียชีวิตไว้ใช้ ซึ่งข้อเท็จจริงต้องรอพิสูจน์ทราบทางนิติวิทยาศาสตร์ของเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน 10 เพื่อยืนยันอีกครั้ง
@@ ให้น้ำหนักฝีมือกลุ่มป่วนใต้ เบนความสนใจจากปิดล้อมนาเกตุ
สำหรับแรงเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ
1.ประเด็นความขัดแย้งเก่าของผู้ตาย นายนาฟี มะ วัย 47 ปี ซึ่งจากการสอบปากคำภรรยาของนายนาฟี ให้การว่า ก่อนหน้านี้สามีเคยมีปัญหาขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เกี่ยวกับปัญหาที่ดิน และเคยถูกพยายามฆ่าในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง แต่พลาดเป้า
ภรรยาของผู้ตายคาดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของคู่กรณีรายเดิมที่สั่งการให้คนร้ายในพื้นที่เกิดเหตุลงมือ เพื่อเชื่อมโยงให้เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นที่แท้จริง
2.ประเด็นเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบ โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่า หลังเกิดเหตุได้มีกลุ่มเยาวชนในพื้นที่พูดกันว่า “คนที่เป็น…รับใช้ ต้องโดนแบบนี้ ถึงจะสาสมกับสิ่งที่เขาทำกับพวกเรา” จึงคาดว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่จากการปิดล้อมผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หรือ “ยุทธการบ้านคลองช้าง” ซึ่งส่อเค้ายืดเยื้อ และฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบน่าจะมีความสูญเสีย
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เดิมนายนาฟี ผู้เสียชีวิต เคยเป็นแหล่งข่าวให้กับหน่วยงานรัฐหน่วยหนึ่งในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 62 แต่ต่อมาหน่วยดังกล่าวไม่ได้ต่ออายุการเป็นแหล่งข่าวให้ ทำให้เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักไปในประเด็นเกี่ยวข้องกับการก่อคาวมไม่สงบในพื้นที่มากกว่า ความขัดแย้งส่วนตัว
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการกระทำของสมาชิกกลุ่มเครือข่าย นายอับดุลเลาะ มูดอ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นระดับแกนนำเคลื่อนไหวในพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากห้วงที่ผ่านมาได้ปรากฏข่าวสารของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเข้าไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.พ่อมิ่ง และใกล้เคียง โดยการก่อเหตุครั้งนี้กลุ่มผู้ก่อการพุ่งเป้าไปยังบุคคลที่มีพฤติกรรมให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐอย่างชัดเจน
อีกทั้งการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายอาจเป็นการการพยายามเบียนเบนความสนใจ ต้องการดึงกำลังให้เจ้าหน้าที่ออกจากจากพื้นที่ปิดล้อม ต.นาเกตุ (ยุทธการบ้านคลองช้าง) เพื่อเปิดช่องทางให้เพื่อนสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบหนีไปได้ง่ายขึ้น จึงได้เลือกก่อเหตุต่อเป้าหมายอ่อนแออย่างนายนาฟี ซึ่งมีกิจวัตรเดิมซ้ำๆ ในการเดินทางไป-กลับจากการส่งลูกเข้าปอเนาะเดือนละครั้ง จึงง่ายต่อการตกเป็นเป้าหมาย