คนร้ายลอบยิง “สิบเอก-ชาวบ้าน” ดับ 2 รายที่เทพา ยังไม่ฟันธงขัดแย้งส่วนตัวหรือสร้างสถานการณ์ ขณะที่สมาคมศิษย์เก่า ม.อ. รวมเงินช่วยเหลืออีโอดี “ลูกพระบิดา” กู้ระเบิดป้องกันชีวิตคนชายแดนใต้
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 17.00 น.วันศุกร์ที่ 31 พ.ค.67 พ.ต.อ.พรชัย ขวัญปัญญา ผู้กำกับการ สภ.ห้วยปลิง อ.เทพา จ.สงขลา รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านเสียชีวิต 2 รายในคราวเดียว เหตุเกิดบนถนนสายนิคม-เปียน ท้องที่หมู่ 3 ต.ท่าม่วง อ.เทพา
หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบร่างผู้เสียชีวิตรายแรกอยู่ริมถนน ส่วนอีกรายเสียชีวิตใกล้ๆ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮา รุ่นมีโอ ป้ายทะเบียนปัตตานี โดยรถเสียหลักตกไปในพงหญ้าข้างทาง เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย คือ ส.อ.สุมิต ฉลู และ นายดอเลาะเลง ดอเลาะ
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ ส.อ.สุมิต และ นายดอเลาะเลง กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาเพื่อเดินทางไปทำธุระ ระหว่างทางมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนพกสั้นลอบยิงใส่ จนทำให้ทั้ง 2 เสียชีวิต ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ
เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งสถานการณ์ความไม่สงบและความขัดแย้งส่วนตัว แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าคนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยม เด็ดขาด สังหารชายวัยฉกรรจ์ได้ถึง 2 คนในคราวเดียว
@@ สมาคมศิษย์เก่า ม.อ.มอบเงินช่วย “อีโอดี-สีบลู”
สมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) นำโดย นายบรรยงค์ วิทยวีรศักดิ์ นายกสมาคมฯ พร้อมตัวแทนคณะกรรมการสมาคมฯ และ นายภูวสิษฎ์ สุขใส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส เวบ/เพจสงขลาโฟกัส เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบของชำร่วย และเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตตะ เจ้าหน้าที่อีโอดี หรือชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.สุคีริน จ.นราธิวาส ในเหตุการณ์เข้าตรวจที่เกิดเหตุโจมตีชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ อ.สุุคิริน เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67
โดย จ.ส.ต.วรวิทย์ โดนระเบิดลูกสองที่คนร้ายวางดักไว้ แรงระเบิดทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และขาขาด
ปัจจุบัน จ.ส.ต.วรวิทย์ รักษาตัวอยู่ที่ชั้น 5 ตึกฉุกเฉิน โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (โรงพยาบาล ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเจ้าตัวเป็นศิษย์เก่าคณะทรัพยากรธรรมชาติ ม.อ.หาดใหญ่ รุ่น 32 หรือ NR 32
นายบรรยงค์ ได้กล่าวให้กำลังใจต่อ จ.ส.ต.วรวิทย์ ในนามสมาคมศิษย์เก่า ม.อ. โดยบอกว่า “ทราบว่าขณะนี้น้องอาจจะมีความยากลำบากที่สูญเสียขาทั้งสองข้าง แต่อยากให้เป็นแรงบันดาลใจ สร้างจุดเด่นขึ้นมา มั่นใจว่าน้องสามารถผ่านพ้นความยากลำบากนี้ไปได้ ขณะนี้สมาคมศิษย์เก่า ม.อ. กำลังเร่งระดมทุนให้มากที่สุดเพื่อช่วยเหลือ ในเบื้องต้นเราได้เตรียมเงินมามอบให้จำนวน 50,000 บาทก่อน โดยเชื่อมั่นว่าเราจะระดมทุนช่วยเหลือได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ตอนนี้พี่น้องศิษย์เก่า ม.อ.ต่างตื่นตัวที่จะร่วมช่วยเหลือ รวมถึงศิษย์เก่าวิทยาเขตปัตตานี และศิษย์เก่าคณะทรัพยากรธรรมชาติ ที่ได้ระดมเงินแล้วมากกว่า 300,000 บาท”
ขณะที่ นายภูวสิษฎ์ กล่าวว่า ในฐานะศิษย์เก่า ม.อ.มีความตั้งใจมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ และได้หารือกับนายกสมาคมศิษย์เก่า ม.อ. เพื่อขับเคลื่อนการช่วยเหลือ ซึ่งไม่ควรเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับใคร และไม่ควรมีใครต้องสูญเสียอีก
“จะมีผลกระทบที่ตามมาสำหรับครอบครัวและลูกเมีย ซึ่งทางมหาวิทยาลัย และนายกสมาคมศิษย์เก่าม.อ.ตั้งใจว่าจะต้องหาทางช่วยเหลือกันต่อไป ในนามของโฟกัส ซึ่งเป็นสื่อมวลชนในพื้นที่ ยินดีจะร่วมช่วยเหลือด้วย” นายภูวสิษฎ์ กล่าว
ทั้งนี้ จ.ส.ต.วรวิทย์ เป็นชาว จ.พัทลุง เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ได้เข้าตรวจสถานที่ระเบิดที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 20 พ.ค. และได้ถูกกับระเบิดที่คนร้ายวางไว้ จนได้รับบาดเจ็บขาขาดทั้งสองข้าง
แต่เจ้าตัวยังมีกำลังใจดีเยี่ยม และเล่าว่า เหตุเกิดประมาณเวลา 11.00 น. โดยตนเป็นชุดที่ลงไปเคลียร์พื้นที่ แต่คนร้ายวางระเบิดไว้ หัวหน้าส่งสัญญาณแล้ว ขณะกำลังจะเดินออกมา ก็มีระเบิดเกิดขึ้น จึงได้รับการส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสุคิรินในเบื้องต้น แต่ีเนื่องจากเสียเลือดมาก จึงส่งไปโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และส่งต่อมาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ในที่สุด
โอกาสนี้ทางสมาคมศิษย์เก่า ม.อ. ได้เปิดบัญชีรับบริจาคให้กับ จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตตะ ชื่อบัญชี สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เลขที่บัญชี 565-211938-6 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
สำหรับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ใช้อักษรย่อ ม.อ. ซึ่งเป็นพระนามของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก อันมีพระนามเดิมว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช เป็นพระราชบิดา หรือ พระบรมราชชนกใน พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพบิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9
สีประจำมหาวิทยาลัย คือ “สีบลู” มีเพลงประจำมหาวิทยาลัยชื่อ “เขตรั้วสีบลู” ทำให้ศิษย์เก่าของ ม.อ. มักเรียกกันว่า “ลูกพระบิดา” หรือ “ศิษย์เก่าสีบลู”