แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับคนร้ายอาศัยช่องว่างช่วงเจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนกำลังไป รปภ.งานกาชาด ทำให้สามารถแฝงตัวนำ “จยย.บอมบ์” ก่อเหตุโจมตีใกล้จุดตรวจความมั่นคงได้ สั่งทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น
เวลา 12.30 น. วันอังคารที่ 7 พ.ค.67 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาค 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด “จักรยานยนต์บอมบ์” ที่บริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มีเจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับบาดเจ็บ 9 ราย
โดย พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) ได้นำคณะไปดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อีโอดี หรือ ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ได้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงรูปแบบของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายซุกไว้ในรถจักรยานยนต์
สำหรับที่มาของรถจักรยานยนต์ คนร้ายจี้ชิงทรัพย์มาจากเจ้าของเดิม โดยคนร้ายนำรถมาเก็บไว้ รอเวลาผ่านไปนาน เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่เพ่งเล็งตรวจสอบ จึงได้นำมาใช้ก่อเหตุระเบิด แต่โชคดีที่ในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา มีประชาชนแวะเวียนไปพักผ่อนค่อนข้างบางตา จึงทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียง 9 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในงานกาชาดที่ทางจังหวัดจัดขึ้นที่ สวน ร.5 ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตรมากกว่า
หลังรับฟังข้อมูล แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้กำลังพลฝ่ายต่างๆ ที่กระจายกำลังกันปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการจัดงานเทศกาลหรืองานประจำปี เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมักฉวยโอกาสหาช่องโหว่เข้ามาก่อเหตุ ให้ถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนในการสกัดกั้นและป้องปราม ต้องสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนให้ได้ เพื่อให้เศรษฐกิจที่ถดถอยไปกลับมาฟื้นขึ้นอีกครั้ง
พล.ท.ศานติ กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นจังหวะที่ทางจังหวัดจัดงานกาชาด ทำให้ฝ่ายกองกำลังไปพะวงการรักษาความปลอดภัย และทุ่มกำลังไปมาก แต่จุดอื่นก็ไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่กำลังบางส่วนต้องทยอยไป ทำให้มีช่องว่าง ต้องยอมรับว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุสามารถกระทำได้ ถ้าเข้าในเขตเมืองได้ เขตเซฟตี้โซนได้น่าจะเหนื่อย ตรงนี้เราต้องมาวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร ต้องเน้นย้ำในเรื่องของยานพาหนะที่โดนลักไปหรือหายไป ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ต้องละเอียดมากกว่านี้
“สอบถามผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ท่านกำลังไล่กล้องวงจรปิด การที่กลุ่มผู้ก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์มาจอดก่อเหตุ นำมาทิศทางไหน เพราะว่าข้างหน้าเป็นด่าน คงไม่มาทางนี้แน่ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบก่อนว่า มีกล้องวงจรปิดหรือเส้นทางตรงไหนบ้าง” แม่ทัพภาคที่ 4 ตั้งข้อสังเกต
“หากถามว่าเรากังวลไหม ตอบเลยว่ากังวล ในขณะที่เราตรึงกำลังเต็มที่ ช่องว่างแทบจะไม่มี การก่อเหตุมันก็จะยากขึ้น แต่ถ้าเรามีการสับเปลี่ยนหรือหมุนเวียนกำลังกันนิดหน่อย ทำให้เกิดช่องว่างจุดนี้ จึงเป็นช่องทางให้เขาก่อเหตุได้ เราจะต้องพยายามเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน ไม่ให้มีช่องว่าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน” พล.ท.ศานติ กล่าวในที่สุด