เหตุการณ์คนร้ายบุกเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เมื่อกลางดึกของค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 25 เม.ย.67 จนโรงไฟฟ้าและทรัพย์สินอื่นเกิดความเสียหาย สร้างความตกตะลึงไปทั่วนั้น
ปรากฏว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เหตุรุนแรงเพียงเหตุเดียวที่เกิดขึ้นในค่ำคืนเดียวกัน แต่ความจริงมีการก่อเหตุถึง 5 จุด ซึ่งบางจุดอาจเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันด้วย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตั้งแต่ช่วงเวลา 21.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 25 เม.ย.67 จนถึงเวลา 01.00 น.ของวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.67 พบว่า เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งหมด 5 จุดด้วยกัน ประกอบด้วย
เวลา 21.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 25 เม.ย. เกิดเหตุคนร้าย 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงขึ้นฟ้าก่อกวนหลายนัด เหตุเกิดบริเวณก่อนถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านสาเม๊าะ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
เวลา 00.10 น.วันศุกร์ที่ 26 เม.ย. เกิดเหตุก่อกวนเผายางรถยนต์ บริเวณใกล้สะพานฝั่ง อ.เทพา จ.สงขลา ท้องที่หมู่ 2 บ้านนาจวก ต.ท่าม่วง อ.เทพา ซึ่งเป็นรอยต่อกับ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
เวลา 00.30 น. เกิดเหตุคนร้าย 5-10 คน บุกเข้าไปในโรงไฟฟ้าชีวมวล อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี จากนั้นได้ไล่เจ้าหน้าที่ออกไปทั้งหมด และวางเพลิงเผาอาคารโรงไฟฟ้า รวมทั้งรถยนต์ได้รับความเสียหาย
เวลา 00.45 น. เกิดเหตุก่อกวนเผายางรถยนต์บริเวณสองข้างทาง ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านนาจวก ต.ท่าม่วง อ.เทพา (คนจะจุดกับเหตุเผายางรถยนต์ใกล้สะพานข้ามเขตไป อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี)
เวลา 01.00 น. มีเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง บริเวณโรงไฟฟ้ารุ่งทิวา ไบโอแมส ตั้งอยู่ที่บ้านปลักบ่อ ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นพบว่า จุดเกิดเหตุทุกจุด ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนประเด็นและสาเหตุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ข้อมูลจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ระบุว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบวัตถุพยานและรวบรวมหลักฐานต่างๆ โดยละเอียด เพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้าย และเร่งติดตามตัวดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุดแล้ว
ขอให้พี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการได้มีความมั่นใจว่า กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังคงยืนยันที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถประกอบกิจการอาชีพ รวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ตามปกติต่อไป