เปิดยิบ! ภารกิจ “นายกฯ เศรษฐา” นำคณะตรวจราชการเกือบครึ่ง ครม.ค้างคืนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทางพหุวัฒนธรรมและธรรมชาติครบทุกจังหวัด พร้อมชิมเมนู “ปลานิลสายน้ำไหล” หวังดันเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนปลายด้ามขวาน
วันพุธที่ 21 ก.พ.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีแ ละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ในระหว่างวันที่ 27 - 29 ก.พ.67 โดยมีกำหนดการ ดังนี้
วันที่ 27 ก.พ.67 จังหวัดปัตตานี นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมตลาดวิถีชุมชนพื้นบ้านจังหวัดปัตตานี พบปะผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ณ มัสยิดกรือเซะ อ.เมืองปัตตานี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ได้แก่ บ้านขุนพิทักษ์รายา บ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) พร้อมเยี่ยมชมมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” ประจำปี 2567
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบปะคณะกรรมการอิสลาม และคณะกรรมการมัสยิด พร้อมเยี่ยมชมมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี และพักค้างคืนที่ จ.ปัตตานี 1 คืน
วันที่ 28 ก.พ.67 จังหวัดยะลา นายกรัฐมนตรีเดินทางเยี่ยมชมอุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK Park) อ.เมืองยะลา และเยี่ยมชมกิจกรรมส่งเสริมสินค้า “ปลานิลสายน้ำไหลเบตง” และ “ปลาพลวงชมพูฮาลาบาลา” สู่ GI ไทย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมพบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา อ.เบตง
ทั้งนี้ เมนูปลานิลน้ำไหลเบตง กล่าวกันว่าเป็นปลาที่อร่อยขึ้นชื่อ นำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู คนพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างใฝ่ฝันจะได้ลิ้มลอง โดยมีรายงานว่าช่วงที่นายกฯเศรษฐา ล่องใต้ จะมีการเสิร์ฟเมนูนี้ให้ได้ลองชิมด้วย
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะการเยี่ยมชมกิจกรรมภายในสวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง (สวนหมื่นบุปผา) อ.เบตง และติดตามผลการดำเนินงานของด่านศุลกากรเบตง ณ ด่านศุลกากรเบตง อ.เบตง รวมถึงเยี่ยมชมอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย และเยี่ยมชม Skywalk อัยเยอร์เวง อ.เบตง พักค้างคืนที่ อ.เบตง จ.ยะลา 1 คืน
วันที่ 29 ก.พ.67 จังหวัดนราธิวาส นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมกิจกรรมภายในพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน และพบปะกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมหารือยกระดับการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์ ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จากนั้นจึงจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
“การลงพื้นที่ตรวจราชการ ทั้งที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นายกฯต้องการส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งสินค้าและผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเทศกาลประเพณีวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายเป็นเอกลักษณ์ ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีความเป็นพหุวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ธรรมชาติที่สวยงาม”
“การส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการพัฒนาภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานการให้บริการด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นำต้นทุนสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ อย่างหนึ่ง นำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
@@ เตรียมหลากเมนู “ปลานิลสายน้ำไหล” เสิร์ฟนายกฯ
ที่ร้านอาหารปลานิลสายน้ำไหลโกหงิ่ว หมู่ 2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในกำหนดการที่นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปเยี่ยมชมและลิ้มรสเมนูจากปลานิลสายน้ำไหล ในวันที่ 28 ก.พ.67
นายสามารถ จงเกียรติขจร ทายาทร้านอาหารบ่อปลานิลสายน้ำไหล เผยว่าได้เตรียมเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านไว้เสิร์ฟต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรี ได้แก่ ขลุ่ยปลานิล, ซาชิมิปลานิลสายน้ำไหล, ปลานิลทอดน้ำปลา, ปลานิลสามรส, แกงส้มปลานิล และผัดผักน้ำน้ำมันหอย
“สำหรับจุดเด่นของปลานิลสายน้ำไหล คือ เนื้อจะไม่มีกลิ่นดินโคลนและกลิ่นคาว เนื้อเด้งและมีรสหวาน ทำเมนูอะไรก็อร่อย นอกจากนี้ยังมีเชฟชื่อดังระดับประเทศที่จะมารังสรรค์เมนูปลานิลสายน้ำไหล เพื่อเสิร์ฟให้นายกรัฐมนตรีและคณะได้รับประทานอีกด้วย”
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลในพื้นที่ร่วมกับจังหวัดยะลา เตรียมจะขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อยกระดับปลานิลสายน้ำไหลสู่การสร้างรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ชุมชนอย่างยั่งยืน สามารถส่งออกต่างประเทศได้อย่างมีคุณภาพ และผลักดันปลานิลสายน้ำไหล เป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ของอำเภอเบตง สร้างชื่อให้กับประเทศไทย รวมถึงทำให้คนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับปลานิลสายน้ำไหล กลายเป็นปลาเศรษฐกิจของเบตง สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้และอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง
ราคาขายกิโลกรัมละ 90 - 100 บาท หากมีขนาดใหญ่ ราคาตัวละประมาณ 3,000 บาท มีลักษณะเด่นคือส่วนหัวเล็ก ริมฝีปากบนและล่างเสมอกัน ลำตัวสีเทานวลจนถึงดำ เนื้อปลาแน่น สีขาวละมุน รสชาติหวาน ไม่มีกลิ่นโคลน เนื่องจากเป็นการเลี้ยงปลาแบบระบบสายน้ำไหลตลอดเวลา ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำสูงกว่าบ่อปลาทั่วไป ทำให้ปลานิลที่ได้มีน้ำหนักที่ดี ตัวใหญ่ เนื้อแน่น และที่สำคัญไม่มีกลิ่นโคลนและไม่เหม็นคาว
สำหรับการเตรียมการต้อนรับนายกฯเศรษฐา นอกจากจะเตรียมเมนู “ปลานิลสายน้ำไหล” แล้ว ยังมีการประดับประดาไฟ แสงสี และดอกไม้ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับพื้นที่อีกด้วย