เหตุรุนแรงที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงค่ำคืนของวันอังคารที่ 6 ก.พ.67 ซึ่งเป็นวันแรกของการนัดพูดคุยสันติสุขรอบใหม่ ระหว่างคณะพูดคุยฯของรัฐบาลไทย กับฝ่ายบีอาร์เอ็นนั้น มีรายละเอียดที่น่าตระหนกมากกว่าที่เป็นข่าวเบื้องต้นหลังเกิดเหตุ
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงมี 2 เหตุการณ์หลัก คือเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ เสียชีวิต และเหตุลอบวางระเบิดในย่านชุมชน
วันพุธที่ 7 ก.พ.67 พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พ.อ.สิทธิชัย บำรุงเขต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 (ผบ.ฉก.ทพ.46) และนายตำรวจ นายทหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจจุดเกิดเหตุทั้งสองจุด ร่วมกับชุดทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย และกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส
@@ สลด! ยิงตำรวจบาดเจ็บ-ลากเข้าข้างทางรัวกระสุนซ้ำ
จุดแรก บริเวณซอยข้างโรงเรียนรือเสาะวิทยา ซึ่งเป็นทางเข้าแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ และเป็นจุดที่ จ.ส.ต.บินหลี เศรษฐสุข ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.รือเสาะ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตนั้น พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีดำ ป้ายทะเบียนสงขลา ล้มตะแคงอยู่ริมถนนฝั่งซ้าย บริเวณล้อหลังมีระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ที่สลักถูกดึงออกแล้วหล่นอยู่ 1 ลูก เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลาย
รอบๆ รถจักรยานยนต์ พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และขนาด 7.62 ตกอยู่จำนวน 8 ปลอก และยังพบร่อยรอยการลากร่างของ จ.ส.ต.บินหลี ไปยิงซ้ำที่ข้างถนนตรงข้ามจุดที่รถล้มอยู่ โดยพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 15 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.ต.บินหลี ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรยามรักษาการณ์ที่ป้อมยามของแฟลตที่พักตำรวจ สภ.รือเสาะ และเมื่อออกเวรได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับที่พัก ซึ่งเป็นบ้านเช่าในซอยลาแม ข้างโรงเรียนรือเสาะวิทยา
เมื่อขับขี่รถออกจากป้อมยามแฟลตตำรวจ สภ.รือเสาะ ประมาณ 30 เมตร ได้มีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 5-6 คน ใช้อาวุธปืนยิงใส่ จ.ส.ต.บินหลี กระสุนเจาะเข้าที่ร่างกาย จนรถเสียหลักล้ม จากนั้นคนร้ายได้ลากตัว จ.ส.ต.บินหลี ที่คาดว่าอยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บ เข้าไปบริเวณข้างทางฝั่งตรงข้ามจุดที่รถล้ม แล้วใช้อาวุธปืนยิงซ้ำอีกหลายนัดจนเสียชีวิต จากนั้นจึงชิงอาวุธปืน เอ็ม 16 ประจำกายของ จ.ส.ต.บินหลี หลบหนีไปด้วย 1 กระบอก
@@ ระเบิดถังดับเพลิงตูมสนั่นบ้านเรือน-ร้านค้าเสียหายยับ
จุดที่ 2 บริเวณซอยบาเละ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยหลุมระเบิดที่บริเวณผิวถนนด้านซ้ายมือข้างเสาไฟฟ้าปากซอย รัศมีประมาณ 50 เซนติเมตร และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิงแบบพกพา น้ำหนัก 4 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ โดยบ้านเรือนและร้านค้าในที่เกิดเหตุและฝั่งตรงข้ามถนนถูกสะเก็ดตระเบิดได้รับความเสียหายบางส่วน
@@ เป้าหมายฆ่าตำรวจ บึ้มชุมชนหวังเบนความสนใจ
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวถึงเหตุการณ์ดักยิง จ.ส.ต.บินหลี ว่า กลุ่มคนร้ายก่อเหตุในจุดนี้มีไม่ต่ำกว่า 6 คน วางแผนมาอย่างดี และเป็นคนในพื้นที่ เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนจุดเกิดเหตุระเบิดหน้าปากซอยบาเละ คาดว่าคนร้ายก่อเหตุเพื่อเบี่ยงเบนการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไปตรวจสอบ และกำลังไล่กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของคนร้าย
“จะมีการประชุมเร่งรัดคดี แต่ต้องรอผลพิสูจน์หลักฐาน ตามที่เห็นก็มี 3 จุด คนร้ายมีด้วยกันชุดละ 6 คน ซึ่งจากข้อมูลที่ชาวบ้านแจ้ง และภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนที่เห็นคนร้ายในการก่อเหตุ พบว่าเป็นกลุ่มในพื้นที่รอยต่อ 3 ถึง 4 อำเภอในพื้นที่ตรงนี้ ซึ่งจริงๆ เรามีข้อมูลเยอะพอสมควร”
ผบช.ภ.9 บอกด้วยว่า ยุทธศาสตร์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ จะไม่กระทำต่อชาวบ้านหรือผู้บริสุทธิ์ แต่เป้าหมายคือเจ้าหน้าที่และผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน คนเหล่านี้อยู่ในที่มืด และเป็นกองกำลังส่วนหนึ่ง เหตุการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่จริงๆ แล้วมีความพยายามก่อเหตุมาโดยตลอด
@@ โยงเหตุยิงตชด. – ฆ่า “แวอาลีคอปเตอร์”
แหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เป็นกลุ่มใหม่ที่ขึ้นชั้นแทนกลุ่มเก่า คือ กลุ่มของ นายซุลกิฟลี มะสาแม็ง และนายอาเดร์ เจ๊ะมุ ที่ถูกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเสียชีวิตบนเทือกเขาสาวอฮีเล ในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65
โดยกลุ่มใหม่ คือ กลุ่มนายนัสรู หมัดตะสิทธิ์ เคยนำสมาชิกก่อเหตุซุ่มยิง ร.ต.ท.สถาพร สุจิณโณ หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4411 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 (ตชด.44) เสียชีวิตในพื้นที่เขายือลาแป ฝั่ง อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส (เดินทางข้ามจาก อ.รือเสาะ) เมื่อวันที่ 11 ม.ค.67 ที่ผ่านมา
และคาดว่าเป็นกลุ่มที่ใช้อาวุธปืนดักซุ่มยิง นายแวฮาลีคอปเตอร์ วาจิ อดีตแกนนำบีอาร์เอ็น วัย 67 ปี เสียชีวิตในสวนยางพารา ในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 3 ก.พ.อีกด้วย
จากปลอกกระสุนปืนที่เก็บรวบรวมได้ในจุดเกิดเหตุ พบว่าทั้ง 2 คดี ใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก และเป็นอาวุธปืนเอชเค 1 กระบอกเหมือนกัน และคาดว่าเป็นปลอกกระสุนปืนที่มาจากอาวุธปืนกระบอกเดียวกัน แต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อยางละเอียดอีกครั้ง
@@ จัดพิธีฝังศพ “จ่าสิบตำรวจ” พลีชีพไฟใต้
สำหรับศพของ จ.ส.ต.บินหลี เศรษฐสุข เมื่อคืนวันที่ 6 ก.พ.67 ทางผู้บังคับบัญชาได้เคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีทางศาสนาในพื้นที่ จ.พัทลุง เนื่องจาก จ.ส.ต.บินหลี นับถือศาสนาอิสลาม ต้องประกอบพิธีฝังภายใน 24 ชั่วโมง
โดยพิธีฝังศพ จัดขึ้นที่กุโบร์เหมืองตะกั่ว หมู่ 1 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง โดยมีเพื่อนตำรวจไปร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก