น่าจับตาว่าสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีแนวโน้มตึงเครียดขึ้นหรือไม่...
เมื่ออดีตแกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่มีรางวัลนำจับสูงถึง 1 ล้านบาท และเข้าร่วมโครงการ “พาคนกลับบ้าน” รุ่นแรก เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ถูกคนร้ายระดมยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม จนเสียชีวิตคาสวนยางพาราในจังหวัดนราธิวาส
เวลา 08.15 น. ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 3 ก.พ.67 ร้อยเอก ธนศักดิ์ ภูวงศ์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4603 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีในพื้นที่ว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิต ในสวนยางพาราพื้นที่บ้านปูโป๊ะ หมู่ 2 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้นำกำลังไปร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพ นายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ อายุ 67 ปี เป็นอดีตสมาชิกกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ได้เข้าร่วมโครงการ “พาคนกลับบ้าน” รุ่นแรก เมื่อปี 2555 สภาพศพถูกยิงบริเวณลำตัวหลายนัดจนเสียชีวิตคาที่
จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบว่า บาดแผลที่ถูกยิงเป็นรอยกระสุนปืนเอ็ม 16 และอาก้า ห่างจากศพเล็กน้อย มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียนปัตตานี ล้มตะแคงอยู่ 1 คัน เป็นของนายแวอาลีคอปเตอร์ โดยที่ตัวรถมีร่องรอยถูกกระสุนปืนอีกหลายนัด
ตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะในสวนยางพารา รัศมีจากจุดที่พบศพราว 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนของคนร้าย จำนวน 3 จุดใหญ่ ซึ่งแต่ละจุดห่างกันประมาณ 5 เมตร โดย 2 จุดแรก พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 15 ปลอก และจุดที่ 3 พบปลอกกระสุนปืนอาก้า จำนวน 8 ปลอก รวมทั้งสิ้น 23 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า เวลาประมาณ 05.30 น. หลังจากที่นายแวฮาลีคอปเตอร์ประกอบพิธีละหมาดเช้าเสร็จแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านตามลำพัง เพื่อเดินทางไปกรีดยางพาราที่สวนยางตามปกติทุกวัน หลังจากกรีดยางเสร็จ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้าน
แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 คน ซุ่มอยู่ในป่าละเมาะภายในสวนยางพารา เมื่อสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้า รวม 3 กระบอก ยิงใส่นายแวอาลีคอปเตอร์ จนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ เสียชีวิตคาที่ จากนั้นคนร้ายได้พากันหลบหนีไป ส่วนชาวบ้านที่ได้ยินเสียงปืน ได้ออกมาดู และพบศพนายแวอาลีคอปเตอร์ จึงแจ้งทหารพรานให้เข้าตรวจสอบดังกล่าว
@@ สงสัยจงใจขู่แนวร่วมกลับใจ หลังไทย- มาเลย์จับมือแน่น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสังหารสมาชิกกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่กลับใจเข้าร่วมกับรัฐ โดยนายแวอาลีคอปเตอร์ เข้าโครงการพาคนกลับบ้าน ซึ่งตามเงื่อนไขของโครงการ จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงดูแลอยู่ห่างๆ แต่กลุ่มผู้เห็นรุนแรงน่าจะเห็นช่องโหว่ และต้องการสร้างสถานการณ์ จึงวางแผนดักสังหาร โดยหวังเป็นการข่มขู่สมาชิกขบวนการคนอื่นๆ ไม่ให้กล้ากลับใจ หรือให้ความร่วมมือกับรัฐ
เป็นที่น่าสังเกตว่า นายแวอาลีคอปเตอร์ เข้าโครงการพาคนกลับบ้านมาแล้วถึง 12 ปี แต่กลับเพิ่งถูกสังหาร โดยจังหวะเวลาที่เกิดเหตุนี้ เป็นห้วงเวลาที่รัฐบาลไทยกับรัฐบาลมาเลเซียกำลังหารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้จบลงในรัฐบาลชุดปัจจุบันของทั้งสองประเทศ (รัฐบาลนายกฯอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย กับรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ของไทย)
โดยมีรายงานว่าทางการมาเลเซียประสานงานเพื่อเตรียมส่งรายชื่อคนไทยที่เป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบ ผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงนับพันคนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในมาเลเซียให้ทางการไทย และจะส่งตัวกลับให้ด้วย แต่ขอให้รัฐบาลไทยเปิดกระบวนการนิรโทษกรรม เข้ารับการอบรมแทนการถูกดำเนินคดี ซึ่งเป็นกระบวนการตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาตรา 21 หรือ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
@@ เปิดประวัติ “แวอาลีคอปเตอร์”
นายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ หรือชื่อจัดตั้ง “เจ๊ะอาลี” เป็นอดีตผู้ก่อความไม่สงบรายสำคัญ ซึ่งทางการเคยตั้งรางวัลนำจับสูงถึง 1 ล้านบาท แต่ภายหลังยกเลิกในรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์เพื่อส่งสัญญาณสมานฉันท์ปรองดอง
สาเหตุที่นายแวอาลีคอปเตอร์ มีรางวัลนำจับสูงถึง 1 ล้านบาท เพราะจากข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงระบุว่า เขาคือตัวการใหญ่ในการร่วมวางแผนและสั่งการให้แกนนำระดับปฏิบัติการนำกำลังคนบุกปล้นอาวุธปืนจากกองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 หรือเมื่อ 20 ปีแล้ว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของไฟใต้รอบใหม่ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย ได้อาวุธสงครามไปถึง 413 กระบอก
หลังก่อเหตุ กองทัพได้ประกาศกฎอัยการศึก และส่งกำลังทหารเข้าควบคุมพื้นที่ ทำให้ นายแวอาลีคอปเตอร์ และพวก หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนๆ มีความยากลำบากในการประกอบอาชีพ
ต่อมาวันที่ 11 กันยายน 2555 นายแวอาลีคอปเตอร์ ได้เข้าร่วมโครงการให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการนำผู้หลงผิดจำนวน 100 คน ทั้งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเทศเพื่อนบ้าน เข้าเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตามแผน “พาคนกลับบ้าน” ซึ่งถือเป็นผู้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านกลุ่มแรกของโครงการในปี 2555
ภูมิลำเนาเดิมของ นายแวอาลีคอปเตอร์ อยู่ที่บ้านกูแว หมู่ 4 ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส แต่หลังจากยุติการต่อสู้และเข้าเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้านปูโป๊ะ หมู่ 2 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส และทำมาหาเลี้ยงชีพตามปกติเรื่อยมา กระทั่งถูกยิงเสียชีวิตบริเวณสวนยางในพื้นที่บ้านนั่นเอง
@@ อ้างเป็นลูกจ้างถ่ายเอกสาร ถูกยัดข้อหา
หลังเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน นายแวอาลีคอปเตอร์ เคยให้สัมภาษณ์พิเศษ “ทีมข่าวอิศรา” เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 หลังเข้าโครงการได้ 1 วัน แต่เขาไม่ยอมพูดภาษาไทย อ้างว่าพูดไทยไม่ได้ โดยเขายืนยันว่าไม่เคยร่วมก่อเหตุรุนแรง แต่กลับมีชื่อเป็นแกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดน
“ตัวผมเหมือนกระสอบใบหนึ่ง มีอะไรเขาก็ยัดใส่” เป็นคำกล่าวของนายแวอาลีคอปเตอร์ ระหว่างให้สัมภาษณ์
และยังบอกว่า อาจเป็นเพราะชื่อของเขาแปลก ไม่เหมือนคนอื่น ทำให้ถูกยัดข้อหา และย้ำว่าเขามีอาชีพรับจ้างถ่ายเอกสารอยู่ที่อำเภอเจาะไอร้อง แต่จู่ๆ ก็มีชื่อร่วมก่อเหตุปล้นปืน และถูกตามจับ