โลกยุคดิจิทัลที่ทุกสิ่งเชื่อมโยงถึงกัน ทำให้เศรษฐกิจ การเมืองไทย ไม่อาจมองแยกจากความเป็นไปของโลกได้
ปี 2567 ที่กำลังจะมาถึง มีความเคลื่อนไหวสำคัญของโลก ซึ่งหลายเรื่องเปราะบางและส่งผลกระทบถึงไทยแน่นอน
อาจารย์กฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการอิสระ จากแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา รวบรวมข้อมูลจากข่าวสาร งานวิจัย ตลอดจนทัศนะและความเห็นของผู้รู้แขนงต่างๆ ในโลกตะวันตก ฉายภาพเศรษฐกิจและการเมืองโลกให้คนไทยได้เตรียมตัวเตรียมใจ...และเตรียมรับมือ
@@ เลือกตั้งสหรัฐช่วยชะลอวิกฤต - “ระเบียบโลกทางเลือก”ยังไม่พุ่ง
1. เศรษฐกิจโลกโดยภาพรวมจะดีขึ้นกว่าปี 2566
ทุกประเทศกำลังฟื้นตัวจากโควิด การเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศเป็นทิศทางปกติ แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละประเทศ
เช่น อินเดียและเวียดนาม อาจจะโตเร็วมาก เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการที่จีนสูญเสียฐานผลิต
ส่วนไทยหรือยุโรปอาจเป็นตัวอย่างของประเทศที่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เนื่องจากกระจายความเสี่ยงไม่เพียงพอ กรณีของไทย ยังงพึ่งพาธุรกิจส่งออกและการท่องเที่ยวมากเกินไป ส่วนยุโรปนั้นอ่อนแอลงเพราะขาดการพึ่งพาตนเอง
2. หนี้สินระหว่างประเทศจะมีการประนีประนอม
บางประเทศที่มีปัญหาเรื่องหนี้สินจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) และยังชำระหนี้ตามที่ตกลงไว้ไม่ได้ ก็จะมีการประนีประนอม โดยองค์กรระหว่างประเทศเข้าไปช่วย และประเทศเจ้าหนี้ก็จำเป็นต้องปรับนโยบายเช่นกัน
ยกตัวอย่าง โครงการ BRI ของจีน (แถบและเส้นทาง ต่อยอดจาก “เส้นทางสายไหม”) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจีนสร้างกับดักหนี้ อาทิ ในศรีลังกา ปากีสถาน ลาว ฯลฯ แต่จีนจะปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อให้ลูกหนี้อยู่ได้ และมองผลตอบแทนระยะยาวมากขึ้นแทน
3. ระเบียบโลกปัจจุบันจะยังไม่เปลี่ยน
ประเทศพัฒนาและร่ำรวย กลุ่ม G7 ยังคงกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและการเงินของโลกอยู่
ส่วนระเบียบโลกทางเลือกยังไม่พร้อม
- BRICS ขาดเอกภาพ
- ระเบียบโลกทางเลือกที่จีนหรือรัสเซีย หรืออินเดีย หรือทุกประเทศเหล่านี้รวมกัน คิดจะมาทดแทนนั้น ยังขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ระหว่างกัน
4. ราคาน้ำมันจะไม่ขยับเกิน 85 เหรียญต่อบาร์เรล
ปี 2567 เป็นปีแห่งการเลือกตั้งของสหรัฐ จึงจะเห็นกุศโลบายกดดันราคาน้ำมันไม่ให้ส่งผลกระทบทางลบต่อผู้ลงคะแนนเสียงในสหรัฐ
หากราคาน้ำมันพุ่งสูงก็จะเป็นเพียงชั่วคราว เช่น การคุกคามเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดง แต่สหรัฐจะเข้าไปรักษาความปลอดภัยของการเดินเรือในเส้นทางสำคัญของโลก
5. ดอกเบี้ยทั่วไปมีแนวโน้มลดลง สหรัฐจะอยู่ที่ 5.5% และปีหน้าจะลดลงอีก 3 ครั้ง
อเมริกันดอลลาร์จะเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากไม่มีสกุลอื่นมาแทนในระยะเวลาอันสั้นนี้
แต่การพยายามหาเงินตราสกุลอื่นมาแทนก็ยังจะดำเนินต่อไป รวมทั้ง Crypto
6. เงินเฟ้อในสหรัฐต่ำกว่า 3.6%
แนวโน้มของเงินเฟ้อสหรัฐจะลดลงอีก แสดงว่านโยบายการควบคุมเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐได้ผล ต่อไปราคาสินค้าอาจจะลดลง ประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคทั่วโลกระมัดระวังในการใช้จ่ายเงิน และหันมาเก็บเงินสะสมมากขึ้น เนื่องจากประสบการณ์ช่วงโควิด
7. จีนจะซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น
เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตเรื่องการขาดแคลนอาหารมาซ้ำเติมวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ และการตกงานของคนวัยหนุ่มสาวในจีน อุตสาหกรรมการส่งออกของจีนจะอ่อนแอลง แต่จะอยู่รอดได้ เนื่องจากจีนปรับตัวเปลี่ยนจากอุตสาหกรรมแบบเดิมมาเป็นเทคโนโลยีใหม่และเน้นการบริการ
จีนมีปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งลงทุนมากแต่ผลตอบแทนไม่คุ้ม ปัญหานี้ยังแก้ไขได้ เนื่องจากจีนมีเครื่องมือแทรกแซงจากรัฐบาลกลาง
ปีหน้าจะเป็นปีที่จีนโตช้าที่สุดในประวัติศาสตร์ 20 ปี ประเทศที่พึ่งพาการค้ากับจีน เช่น ไทยและอาเซียน จะได้รับผลกระทบและปรับเปลี่ยนคู่ค้าไปภูมิภาคอื่น เช่น ตะวันออกกลางและยุโรป อเมริกาเหนือและใต้ รวมถึงแอฟริกา
8. AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ จะมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรม
AI มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด ปี 2567 จะเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ของ AI เนื่องจากภาครัฐและเอกชนรวมทั้งกลุ่มการศึกษาและวิชาการได้เห็นประโยชน์ในการใช้งานของ AI ในการประกอบอาชีพและดำรงชีวิต
Chat GPT4 สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญทุกคน ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ว่าการคิดคำนวณของเครื่องจักรและซอฟต์แวร์นั้นโดยแท้จริงทำได้อย่างไร และทำไมการวิวัฒนาการถึงเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่คาดไว้
ความต้องการแรงงานเปลี่ยนไป บางส่วนอาจลดลงเนื่องจากถูกทดแทนโดย AI แต่บางส่วนจะเพิ่มขึ้นหากนำ AI มาใช้ในการเพิ่มผลผลิตของสินค้าและการบริการ
9. สินค้าส่งออกจะเพิ่มขึ้นโดยรวม
แต่ละประเทศมีวิวัฒนาการการผลิตเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีต่างๆ แต่ยังมีความเสี่ยงเรื่องการขนส่ง เนื่องจากปัญหาสงครามในยูเครนและตะวันออกกลาง แต่สหรัฐและพันธมิตรจะแก้ไขให้เดินเรือโดยปลอดภัยได้
@@ การเมืองโลก ; ปีแห่งการเลือกตั้งและความผันแปร
1. จับตามองการเลือกตั้ง
จะมีการเลือกตั้งใหญ่ประมาณ 50 ประเทศในปี 2567
- อินเดีย
- อินโดนีเซีย
- เม็กซิโก
- แอฟริกาใต้
- รัสเซีย
- สหรัฐ
รวมทั้ง 27 ประเทศในประชาคมยุโรป และไต้หวัน ทั้งหมดครอบคลุมประชากรประมาณ 2,000,000,000 คน และเศรษฐกิจโลก 60%
2. การเลือกตั้งสหรัฐนับว่าสำคัญที่สุด
จะผลกระทบต่อความเสี่ยงของเศรษฐกิจและความมั่นคงของโลกมากที่สุด
ผลการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.2567 จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจของโลก คาดว่าจะเป็นชัยชนะของเดโมแครต
คาดว่าจะมีเรื่องวุ่นวายในฤดูกาลหาเสียง และอาจทำให้เกิดการจลาจลขัดแย้งขึ้นในสหรัฐ มีความเสี่ยงของประชาธิปไตย และอาจมีการแทรกแซงจากภายนอกประเทศ เช่น รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ
3. การเลือกตั้งในอินเดีย
จะมีผลกระทบมาก เนื่องจากอินเดียมีประชากรมากที่สุดในโลก และมีประชากรวัยทำงานมากกว่าจีน ขณะที่อินเดียเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในโลก
บริษัทต่างชาติต้องย้ายถิ่นฐานออกจากจีนไปประเทศอื่น และอินเดียเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์ ซึ่งเป็นการขัดผลประโยชน์กับจีน
4. การเลือกตั้งในไต้หวัน
การเลือกตั้งในเดือน ม.ค.2567 คาดว่าผู้ชนะจะเป็นพรรคการเมือง DPP ของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ซึ่งจีนถือว่าพรรคการเมืองนี้เป็นอุปสรรคในการรวมประเทศ จะส่งผลถึงความตึงเครียดทางการเมืองในเอเชียและทั่วโลกต่อไป โดยเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรม semiconductors
แต่จะไม่เกิดสงครามจีนบุกยึดไต้หวัน เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าจีนพร้อมปฏิบัติการได้ และการบุกยึดไต้หวันเปรียบเสมือนประกาศสงครามกับสหรัฐและพันธมิตรชาติตะวันตก
ขณะเดียวกันจีนมีปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคงภายในประเทศที่ต้องแก้ไขก่อน
5. สองสงครามอันตราย
// สงครามในยูเครน //
อาจจะลดความรุนแรงลงโดยมีการเจรจาหยุดยิง อาจมีทางลงให้รัสเซียประกาศต่อประชาชนของตนเองว่าได้รับชัยชนะ
ขณะเดียวกันยูเครนรุกหนักกับการเป็นสมาชิกประชาคมยุโรป (อียู) และได้รับความช่วยเหลือฟื้นฟูประเทศ
รัสเซีย - ประธานาธิบดีปูตินคงจะชนะการเลือกตั้งในเดือน มี.ค. แต่เสียงสนับสนุนภายในประเทศโดยเฉพาะกลุ่มที่มีอิทธิพลและร่ำรวยเริ่มสั่นคลอน
เศรษฐกิจของรัสเซียอยู่ในขีดอันตราย รัสเซียสูญเสียทรัพยากรมนุษย์เป็นจำนวนมากจากสงครามและการอพยพออกนอกประเทศของคนวัยทำงาน
การคว่ำบาตรโดยสหรัฐและพันธมิตรทำให้รัสเซียเสื่อมลงในประชาคมโลก รวมทั้งความน่าเชื่อถือและบทบาทอิทธิพลระหว่างประเทศ
// สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส //
การสู้รบอาจจบลงภายในปี 2567 โดยความกดดันของสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลอิสราเอล จากฝ่ายขวามาเป็นแนวกลางหรือซ้ายมากขึ้น
“นโยบายสองรัฐ” ได้รับการสนับสนุนจากแทบทุกฝ่าย และรัฐบาลปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์อาจจะได้บริหารฉนวนกาซาแทนฮามาส
ส่วนกลุ่มฮามาสจะอ่อนแอลงและถูกดำเนินคดีหรือลี้ภัย แต่จะยังเป็นอันตรายอยู่และไม่สูญพันธุ์ เนื่องจากเป็นกลุ่มอุดมการณ์ และความโกรธแค้นจากการทำลายของอิสราเอลในสงครามครั้งนี้ได้สร้างศัตรูเพิ่มขึ้น
ฮามาสจะถูกลดหรือตัดความช่วยเหลือจากกาตาร์ เนื่องจากกาตาร์ถูกกดดันทุกด้านจากสหรัฐ โดยเฉพาะด้านการเงินและความมั่นคง
6. การเปลี่ยนแปลงภายในประเทศอาหรับหรือมุสลิม
จับตามองการลุกฮือของประชาชนในบางประเทศ คล้ายกับกรณีอาหรับสปริง เนื่องจากความไม่พอใจของประชาชนในบางประเทศเกี่ยวกับรัฐบาลของประเทศตนเองเพิกเฉยกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในฉนวนกาซา
@@ ตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้โลกหมุนเปลี่ยนทิศ
1. การก่อการร้ายโดยไซเบอร์
กระทบระบบการเงินการธนาคารของโลก หรือแทรกแซงการเลือกตั้ง อาจเป็นการจารกรรมเพื่อปลุกปั่นกระแสให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศหรือระหว่างประเทศได้
2. โรคระบาดใหญ่ หรือโรคอุบัติใหม่ เกิดขึ้นอีกครั้ง
อาจแตกต่างจากโควิด-19 และไม่มียาปฏิชีวนะรักษาได้ ซึ่งอาจเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือเป็นการก่อการร้าย
3. สงครามนิวเคลียร์
เกิดโดยอุบัติเหตุ หรือจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงทำให้ประเทศใดประเทศหนึ่งเริ่มสงครามนิวเคลียร์แบบจำกัด แต่จะส่งผลสะเทือนต่อเศรษฐกิจโลกอย่างเฉียบพลัน เช่น อิสราเอลโจมตีอิหร่าน หรือรัสเซียโจมตีประเทศในยุโรป เป็นต้น
4. ผู้นำคนสำคัญของโลกอาจเปลี่ยนแปลง
รัสเซียและจีนพึ่งพาผู้นำที่มีบุคลิกและบารมี หากมีการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศโดยเหตุสุดวิสัย เช่น การลอบสังหารหรือจลาจลในประเทศหรือวิกฤตการเมือง จะทำให้ทิศทางของสองประเทศนี้เปลี่ยนทันที จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเมืองโลกอย่างเฉียบพลัน
5. การเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา
ผู้แข่งขันประธานาธิบดีอายุมาก (ไบเดน 81, ทรัมป์ 78) และความนิยมภายในประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามกระแสโซเชียลมีเดีย และอาจมีปัญหาทางกฎหมายอื่นๆ อาจเห็นการเปลี่ยนตัวผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนโยบายของสหรัฐ
@@ ปัจจัยลำดับรองที่มิอาจมองข้าม
1. อาร์เจนตินา
ผู้นำใหม่มีนโยบายประชานิยมแบบสุดโต่ง เปลี่ยนระบบการเงินและการธนาคาร อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นผลกระทบลูกโซ่ในภูมิภาค จีนได้ประกาศยกเลิกสัญญาสำคัญหลายเรื่องกับอาร์เจนตินาแล้ว
2. เกาหลีเหนือ
การทดลองเชิงข่มขู่เรื่องขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ อาจเกิดความเข้าใจผิดหรืออุบัติเหตุทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์
3. อิหร่าน
อาจเปิดศึกทางเหนือกับอิสราเอลผ่านเลบานอน หากผู้นำอิหร่านคิดว่ารัฐบาลตนเองถูกคุกคาม
4. ภัยธรรมชาติ
อาจเกิดจากผลกระทบจากอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น น้ำท่วม ไฟป่า พายุ หรือมลภาวะทางอากาศอย่างร้ายแรง