ข่าว ป.ป.ช.ภาค 9 ชี้มูลความผิด นายก อบจ.คนดังของปัตตานี นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี จากเรื่องร้องเรียนการใช้รถของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวนั้น ได้รับความสนใจจากประชาชนและคนการเมืองในพื้นที่ชายแดนใต้อย่างมากมาย
สาเหตุเพราะ นายกเศรษฐ์ เป็นนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังติดอันดับต้นๆ ของพื้นที่ปลายด้ามขวาน ขณะเดียวกันบารมีของเขาก็แผ่ล้นไปทุกวงการ ไม่เว้นแม้วงการฟุตบอล รวมไปถึงการเมืองระดับชาติ
พรรคการเมืองต่างๆ พากันวิ่งเข้าหา และเขาเองก็มีพื้นที่เป้าหมายในการส่งเครือข่ายของตนลงสนาม ย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ก็จะเห็นความจริงข้อนี้
ตรวจสอบผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.แต่ละครั้ง นายกเศรษฐ์ เอาชนะคู่แข่งแบบขาดลอย เลือกตั้งรอบล่าสุดปี 2563 คะแนนทิ้งห่างเกิน 100,000 คะแนน
ฉะนั้นข่าวการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ภาค 9 จึงสร้างแรงสั่นสะเทือนในพื้นที่อย่างยิ่ง
ประชาชนที่ได้รับข่าวสาร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
หนึ่ง เชื่อข่าวทันที เพราะเคยได้ยินเรื่องร้องเรียนนี้มาก่อน และทราบว่าช่วงที่ผ่านมา ป.ป.ช.ภาค 9 ดำเนินการไต่สวนอยู่จริง
สอง ไม่เชื่อข่าวที่ออกมา เพราะไม่คิดว่านักการเมืองดังและมากบารมีอย่างนายกเศรษฐ์ จะกระทำผิด หรือถูกองค์กรอิสระชี้มูลความผิด จนกระทบต่อเส้นทางการเมืองได้
ที่สำคัญข้อกล่าวหาก็ดูพื้นๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน คือการนำรถของทางราชการไปจอดในโรงจอดรถบัสของ บริษัท เซาท์สยามไอเอ็มที คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่ง นายเศรษฐ์ เป็นเจ้าของ และเป็นเจ้าของสถานที่ ทั้งยังได้จัดแรลลี่ท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ เหตุเกิดเมื่อราวๆ ปี 2560 โดยไม่เกี่ยวกับงานราชการ
“ทีมข่าวอิศรา” สอบถามไปยังคนใกล้ชิดของนายกเศรษฐ์ ได้รับคำชี้แจงว่า ตัวนายก อบจ.ไม่อยากเป็นข่าว แต่ทีมงานและคนใกล้ชิดทราบดีว่าข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูล ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ภาค 9 เปิดไต่สวนจริง ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของการทำงาน เมื่อมีผู้ร้องเรียนก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งทางนายกเศรษฐ์ และทีมงานก็ได้ส่งคำชี้แจง พร้อมเอกสารหลักฐานครบทุกอย่าง หักล้างข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด ฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีอะไรในกอไผ่แน่นอน
“มีคนอยากเล่นงานนายก อบจ. ก็ไปร้องเรียนมั่ว เมื่อข่าวออกไปก็ได้คุยกับผู้ใหญ่หลายคน ทุกคนก็ให้กำลังใจ ยืนยันว่าได้ส่งคำชี้แจงและอุทธรณ์คำร้องไปหมดแล้ว ไม่มีการชี้มูลความผิด ข่าวที่ออกมาเป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น” คนใกล้ชิดของนายก อบจ.ปัตตานี ระบุ
ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดปัตตานี และ ป.ป.ช.ภาค 9 เพื่อขอมติที่เป็นเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ให้ข้อมูลว่า ยังไม่มีเอกสาร เพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งพิจารณา จึงขอให้รอข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง