“สมศักดิ์” ลุยสร้างเศรษฐกิจชายแดนใต้ หลัง กพต.ไฟเขียวแผนบูรณาการขจัดความยากจน 4 ปี พบตัวเลขผู้มีรายได้น้อย 1 แสนคน จ่อนำร่องสร้างอาชีพ 3 หมื่นคน โชว์ส่งเสริม”ปลูกทุเรียน-เลี้ยงโค-ไก่-แพะ-ปูทะเล” ยัน ปี 2570 ช่วยครบหมด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ปลายด้ามขวานว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ได้ให้ความเห็นชอบ “กรอบแนวทางการบูรณาการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดชายแดนใต้ ระยะ 4 ปี 2567-2570“ แล้ว
จากข้อมูลที่ตนได้มอบหมายให้ไปสำรวจความยากจนในพื้นที่ พบว่ามีครัวเรือนยากจนถึง 52,117 ครัวเรือน เป็นจำนวนคนกว่า 107,356 คน ดังนั้นจะช่วยแก้ปัญหานำร่องก่อนจำนวน 14,500 ครัวเรือน เป็นจำนวนคนกว่า 30,000 คน และจะมีการดำเนินการช่วยเหลือทั้งหมดในปี 2570
รองนายกฯสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจครัวเรือนยากจนที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือด้านอาชีพและพัฒนาทักษะด้านต่างๆ พบว่า
อันดับแรก คือ รับจ้างทั่วไปนอกภาคการเกษตร จำนวน 10,136 คน
อันดับสอง คือ รับจ้างภาคการเกษตร จำนวน 4,603 คน แบ่งเป็น พืชเกษตร จำนวน 3,770 คน ประมง 316 คน และปศุสัตว์ 517 คน
อันดับสาม คือ ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า ช่างเสริมสวย จำนวน 3,843 คน
นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบกลุ่มครัวเรือนเป้าหมายว่างงานอีกจำนวน 3,675 คน และพบกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในปัจจัยพื้นฐาน อาทิ บ้านทรุดโทรม ไม่มีห้องส้วมสะอาด ไม่มีประปา ไม่มีไฟฟ้า จำนวน 38,875 คน
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า การบูรณาการขจัดความยากจนในปีนี้ ศอ.บต.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเน้นการช่วยเหลือในการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้มีรายได้ เช่น ส่งเสริมการประกอบอาชีพด้านการเกษตร โดยให้ปลูกทุเรียนคุณภาพ และมังคุด จำนวน 250 ครัวเรือน ปลูกพืชระยะสั้นและพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ว่างเปล่าของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จำนวน 1,850 ครัวเรือน ปลูกพืชพลังงานและพืชอาหารสัตว์ จำนวน 400 ครัวเรือน
ขณะที่ ด้านปศุสัตว์ สร้างอาชีพด้วยการเลี้ยงโค ไก่ แพะ จำนวน 800 ครัวเรือน และด้านประมง สร้างอาชีพด้วยการเลี้ยงปูทะเล และประมงพื้นบ้าน จำนวน 500 ครัวเรือน รวมถึงพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อประกอบอาชีพตามถนัด เช่น การทำอาหาร มัคคุเทศก์ท่องเที่ยวชุมชน จำนวน 1,060 ครัวเรือน และจัดส่งไปทำงานในโรงงานทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 430 คน
“การแก้ปัญหาความยากจน ผมพยายามผลักดันมาโดยตลอด เพราะเข้าใจความเดือดร้อนเป็นอย่างดี จึงได้เสนอโครงการโคล้านตัว เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นพยายามพูดให้คนในเมืองเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ จนถูกมองไม่ดี แต่ผมก็ไม่ท้อ จึงหาเอกชนมาช่วยกันส่งเสริมอาชีพ โดยนำร่องเลี้ยงโค 200 ครอบครัว ให้ครอบครัวละ 2 ตัว ซึ่งผ่านมา 4 ปีกลายเป็นมีโคครอบครัวละ 10 ตัวแล้ว จากนั้นก็ได้นำร่องเลี้ยงโคผ่านกองทุนหมู่บ้านฯ จำนวน 1,000 ครอบครัว ได้วัว 2,000 ตัว ผ่านมา 1 ปี 2 เดือน โคมีลูกแล้ว 1,900 ตัว โดยจะเห็นได้ว่าโครงการนำร่องประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถทำตัวชี้วัดได้อย่างชัดเจน เพราะโคออกลูกทุกปี”
“ผมจะเดินหน้าผลักดันการส่งเสริมเลี้ยงโคในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป รวมถึงจะส่งเสริมการเลี้ยงปูไข่ด้วย เพราะมีราคาสูงเช่นกัน โดยปูไข่ 2 ตัว จะหนัก 1 กิโลกรัม ซึ่งมีราคากิโลกรัมละ 600 บาท โดยจะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่สูงขึ้น และจะสามารถช่วยแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ได้” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย