หลังเริ่มงานในตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อย่างเป็นทางการ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ก็ใช้วิธีเดินสายพบปะบุคคลสำคัญในภาคส่วนต่างๆ เพื่อแนะนำตัว และเริ่มเดินหน้าทำงาน
วิธีการหนึ่งคือลงพื้นที่พร้อมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีตเลขาธิการ ศอ.บต. วึ่งได้รับการยอมรับสูงมากในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยปัจจุบัน พ.ต.อ.ทวี ผันตัวมาเป็นนักการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคประชาชาติ และนำพรรคกวาด สส.ชายแดนใต้มากที่สุด 7 ที่นั่งจาก 13 ที่นั่ง และปาร์ตี้ลิสต์อีก 2 ที่นั่ง
พ.ต.อ.ทวี ยังลงพื้นที่ต่อเนื่อง พ.ต.ท.วรรณพงษ์ ไปปรากฏตัวแทบทุกครั้ง ทุกงาน ทำให้ได้พบปะประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั้งไทยพุทธ มุสลิม ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และข้าราชการ
อีกวิธีการหนึ่ง คือ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เดินสายพบปะบุคคลสำคัญในพื้นที่ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าหนึ่งในบุคคลที่พลาดการพบปะหารือไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะมีบทบาทสูงสุดในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค ซึ่งตามโครงสร้างปัจจุบันยังเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.) ด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ ได้เข้าพบหารือกับ พล.ท.ศานติ พร้อมด้วย พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 ที่ห้องรับรองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ พร้อมปรึกษาหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อบูรณาการกับภาคส่วนต่างๆ กำหนดทิศทางและแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครอบคลุมทุกมิติ
@@ จับมือ 2 หน่วยงานสร้างพื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนมีสุข
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า ในโอกาสที่มารับตำแหน่งใหม่ มีภารกิจ มีหน้าที่ต้องสานต่องานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน รวมถึงกองทัพภาคที่ 4 และ กอ.รมน.ภาค 4 สน. จึงอยากมารับฟังคำชี้แนะแนวทาง หารือการดำเนินงานให้สอดคล้องกัน และยังได้สอบถามเรื่องสถานการณ์ด้านต่างๆ รวมถึงแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์จะร่วมขับเคลื่อนงานไปพร้อมๆ กันกับ กอ.รมน.ภาค 4 สน.
ด้าน แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวขอบคุณคณะ ศอ.บต. และขอต้อนรับสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมแนะนำคณะทำงาน ภาพรวมสถานการณ์ในพื้นที่ ตลอดจนบทบาทภารกิจของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ในการดูแลความมั่นคงในพื้นที่สามจังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งที่ผ่านมา ศอ.บต.กับ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ทำงานร่วมกันมาตลอด ด้วยงานการดูแลความมั่นคง ด้านการพัฒนา พื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน จนนำไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายเดียวกัน คือการนำความสงบสุขและความสันติสุขอย่างยั่งยืนกลับคืนสู่ชายแดนภาคใต้
@@ รองแม่ทัพ 4 กำชับกำลังพลปิดช่องโหว่ถูกโจมตี
อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มอบหมายให้ พ.อ.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส (รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ที่ฐานปฏิบัติการป้องกันชายแดนที่ 2 กองบังคับการควบคุมสุริโยทัย บ้านนูโร๊ะ หมู่ 1 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยมี นายรุสดี ปูรียา นายอำเภอแว้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บูเก๊ะตา และ สภ.แว้ง รวมทั้งผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 11 และ 48 ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในครั้งนี้ พล.ต.ไพศาล ได้ฝากเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลให้เป็นไปตามนโยบายงานสำคัญของแม่ทัพ ปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความปลอดภัย ทั้งด้านมาตรการที่ปฏิบัติต้องเป็นมาตรการที่ครอบคลุม ศึกษาและวางแผนในการลงพื้นที่ ตรวจสอบให้มีความคุ้นเคยกับเส้นทาง โดยปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ และบูรณาการกำลังกับทุกภาคส่วนในการดูแลความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ อยู่บนความไม่ประมาท
โอกาสนี้ พล.ต.ไพศาล ยังได้มอบหมายให้ พ.อ.มานิตย์ เป็นตัวแทนมอบสิ่งของบริโภค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย
ต่อมา พล.ต.ไพศาล ได้ร่วมประชุมผ่านระบบซูม เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่วางมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ตั้ง การลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบต้องมีการวางแผนให้รัดกุม หลีกเลี่ยงการเดินทางเส้นทางที่ซ้ำๆ เพราะอาจจะเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามก่อเหตุร้ายกับกำลังพล ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายเจ้าหน้าที่มักจะตกเป็นเป้าของคนร้าย จนเกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน
นอกจากนั้นในช่วงฤดูมรสุม ต้องมีการจัดเตรียมกำลังพลให้มีความพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ทุกอย่างที่ผ่านมาหากมีข้อผิดพลาดก็ให้ขอนำมาเป็นบทเรียนในการปรับปรุงช่องโหว่ เพื่อขยายผลไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจต่อการทำหน้าที่ของกำลังพลทุกหน่วย