คนร้ายควบมอเตอร์ไซค์ขว้าง “ไปป์บอมบ์” โจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบลถ้ำทะลุ บันนังสตา โชคดีไร้เจ็บ วงจรปิดจับภาพชัด ปาบึ้มเสียวไส้ ลูกไฟโชน หวิดโดนรถเก๋งที่สวนมา ด้านแม่ทัพภาค 4 สั่งทุกหน่วยยกระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยประชาชน หลังกลุ่มป่วนใต้ก่อเหตุถี่ยิบ
เมื่อเวลา 18.45 น.วันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ขว้างระเบิดแสวงเครื่องใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา เบื้องต้นยังไม่รายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นจุดเกิดเหตุ พร้อมทำพื้นที่ให้ปลอดภัย ก่อนประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องนำกำลังเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนประเด็นและสาเหตุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวี ที่ติดตั้งใกล้กับฐาน ชคต. ปรากฏว่าจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยรถจักรยานยนต์ของคนร้ายแล่นสวนขึ้นไปทางด้านหน้าฐานปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว จากนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมสะเก็ดระเบิดและลูกไฟ จังหวะนั้นมีรถยนต์เก๋งขับสวนมาพอดี ยังไม่มีความชัดเจนว่ารถคันดังกล่าวได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดบ้างหรือไม่
ด้าน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการไปยังทุกหน่วยในพื้นที่ ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มเป็นพิเศษในการตั้งด่านตรวจรถยนต์และบุคคลต้องสงสัยที่เข้าออกพื้นที่ รวมทั้งยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันฐานปฏิบัติการจากการโจมตีและก่อกวนจากฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่องเป็นพิเศษ
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเหตุการณ์ลอบโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่แบบถี่ยิบ เมื่อวานเพิ่งเกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มและปาระเบิดไปป์บอมบ์โจมตีฐาน ชคต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา และยังมีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่ฐานปฏิบัติการของตำรวจยะลา ในตำบลเดียวกัน แต่คนละหมู่บ้าน อีก 1 จุดด้วย ยังไม่แน่ขัดว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่
เหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจไม่ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป โดยมีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ กบฉ. เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) และลงมติต่ออายุขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติในสัปดาห์หน้า
อนึ่ง การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เป็นอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ซึ่งรัฐบาลในอดีตประกาศใช้มาตั้งแต่เดือน ก.ค.48 และต่ออายุขยายเวลามาถึง 73 ครั้ง กระทั่งถึงปัจจุบัน
---------------------