นราธิวาสเดือดคืนเดียว 2 ศพ ที่ตากใบ ยิงสารวัตรกำนันตำบลโฆษิตเสียชีวิตในร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ส่วนที่สุไหงโก-ลก หนุ่มเพิ่งพ้นคุกถูกยิงดับคาบ้านพัก พบอุปกรณ์เสพยาในที่เกิดเหตุ ด้านทหารพรานรือเสาะ พบวัตถุระเบิดในสวนยางพาราแจ้งอีโอดีเข้าเก็บกู้ทำลาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.ย. 66 พ.ต.อ.ศุภชัช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ตากใบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วีรพงศ์ อินผักแว่น รองสารวัตรสอบสวน สภ.ตากใบ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองและอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. บุกยิงนายรุสมาน บือซา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 ม.4 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสารวัตรกำนัน ต.โฆษิต นอนเสียชีวิตอยู่ภายในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ ม.3 ต.นานาค อ.ตากใบ เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 25 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา
ภายในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 ตกอยู่ 1 ปลอก หัวกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. 1 หัว ตกอยู่ที่พื้นพร้อมกองเลือดจำนวนหนึ่ง ส่วนศพนายรุสมาน ถูกกระสุนปืนลูกซองและอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอกทะลุหลัง 2 นัด เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายศพส่งโรงพยาบาลตาก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ ก่อนจะให้ญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันนี้
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายรุสมานกำลังเก็บเครื่องมือต่างๆ ภายในร้านซ่อมรถ เพื่อจะปิดร้านและเดินทางกลับบ้านพัก ซึ่งห่างจากร้านประมาณ 1 กม. ได้มีคนร้าย 2 คน เดินลัดเลาะมาทางป่าสวนมะพร้าวและสวนกล้วย บริเวณด้านหลังของร้าน เดินตรงมาหานายรุสมาน แล้วคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ชักอาวุธปืนลูกซอง และอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ยิงใส่นายรุสมาน คนละ 1 นัด จนนายรุสมานล้มลงและเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายจึงได้อาศัยความมืดหลบหนีไปทางป่าด้านหลังร้าน
พ.ต.อ.ศุภชัช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ตากใบ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวและไม่เกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงแต่อย่างใด โดยพบว่า ปัจจุบันนายรุสมาน ผู้ตายเป็นสารวัตรกำนัน นอกจากเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แล้ว ยังมีงานรับเหมาก่อสร้างเล็กๆน้อยๆ ในพื้นที่ ต.โฆษิต ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของนายรุสมาน ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงถึงความเกี่ยวข้องและพัวพันกับการเสียชีวิตของนายรุสมาน เพื่อการติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป
@@ ยิงหนุ่มโก-ลกเพิ่งพ้นคุกดับคาบ้านพัก
ส่วนพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อเวลา 23.34 น.ของวันที่ 25 ก.ย.66 ร.ต.ท.หญิงโซเพียนี บือราเฮง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ได้รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ซียะ ยุโก๊ะ มีเหตุคนร้ายบุกยิงนายอุสมาน มามะ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแฟนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 311/13 ซอย 13 ถ.เจริญเขต ต.สุไหงโก-ลก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพนายอุสมานไม่สวมเสื้อนั่งเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้าลงกับพื้น โดยมีเลือดไหลนองทั่วตัวและมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพก ขนาด .38 ที่บริเวณศรีษะ 2 นัด และที่บริเวณนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย 1 นัด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆของคนร้าย แต่พบเพียงอุปกรณ์เสพยาเสพติดจำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมเป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก นำศพส่งไปให้แพทย์โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนพยานบุคคลในละแวกจุดเกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์มาจอดที่บ้านจุดเกิดเหตุ ต่อมาไม่นานเกิดเสียงปืนดังขึ้น 3 นัดซ้อน แล้วมีเสียงรถจักรยานยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.ปรัชญา ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ชัดเจน แต่จากการตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิต ทราบว่า เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ แถมภายในห้องนอนยังพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดที่อาจจะเกี่ยวเนื่องกับการเสียชีวิตในครั้งนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม
@@ พบวัตถุระเบิดในสวนยางพารา อ.รือเสาะ นราธิวาส
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 25 ก.ย.66 ร.ต.อ.โทติวิทย์ แสงจันโท รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ ได้รับแจ้งจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ว่า พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดใส่อยู่ภายในกระสอบ ตั้งทิ้งไว้ภายในสวนยางพาราในพื้นที่ หมู่ 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นได้ทำการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อเข้าไปตรวจสอบ
ทางเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ทำการปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุเอาไว้แล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ทราบ ก็พบว่าเป็นวัตถุระเบิดจริง จึงได้ทำการเก็บกู้ทำลายและส่งมอบวัตถุพยานให้พนักงานสอบสวน นำส่งตรวจพิสูจน์เพื่อขยายผลต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า วัตถุระเบิดดังกล่าวเป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ซึ่งคาดว่า จะนำมาใช้ในการก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ