รมว.เกษตรฯ พาคณะผู้บริหารกระทรวงลงพื้นที่ชายแดนใต้ ติดตามงานปรับปรุงพนังกั้นน้ำแม่น้ำโก-ลก ป้องกันน้ำท่วมนราธิวาส โดยเฉพาะพื้นที่มูโนะ หวังไม่ให้ซ้ำเติมทุกข์หลังเผชิญโศกนาฏกรรมโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด พร้อมเดินสายยะลา-ปัตตานี ฟังปัญหาพี่น้องเกษตรกรและอุตสาหกรรมประมง ด้าน “ชวน หลีกภัย” ควง “นิพนธ์ บุญญามณี” ติดตามความคืบหน้าฟื้นฟูตลาดมูโนะ วาดฝันผลักดันเป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนระหว่างประเทศ
วันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย.66 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการปรับปรุงพนังกั้นน้ำแม่น้ำโก-ลก ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำดำ บริเวณป่าพรุโต๊ะแดง โดยมี นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, พ.จ.อ.ประเสริฐ มาลัย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ, ผู้บริหารกระทรวงฯ และ นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน นายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่อย่างคึกคัก
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส เป็นเรื่องที่ต้องหาแนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืน จึงได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งรัดงานปรับปรุงพนังกั้นน้ำแม่น้ำโก-ลกให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมกำชับให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงในช่วงที่เป็นรอยต่อของงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำหลากในช่วงฤดูฝน ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำดำจากป่าพรุโต๊ะแดง ได้สั่งการให้วางแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้สะดวกมากขึ้น โดยน้ำดำเกิดจากสภาพดินที่มีความเป็นกรด หรือดินเปรี้ยว ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก และคลองระบายน้ำหลายจุดเป็นคอขวด
สำหรับการปรับปรุงพนังกั้นน้ำแม่น้ำโก-ลก สืบเนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโก-ลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กัดเซาะพนังกั้นน้ำจนชำรุดเสียหาย เข้าท่วมพื้นที่ตลาดมูโนะ กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุง โดยการปรับปรุงเสริมพนังกั้นน้ำ เสริมคันกั้นน้ำ และก่อสร้างพนังกั้นน้ำแม่น้ำโก-ลก เพื่อเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงของระบบฐานราก ป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก และพื้นที่ชุมชนมูโนะซ้ำรอยอีก หลังเพิ่งเผชิญกับโศกนาฏกรรมโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดครั้งรุนแรง มีผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทรัพย์สินเสียหายอย่างหนัก
@@ รับฟังปัญหา “เกษตรกร-ประมง” ยะลา-ปัตตานี
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ย. รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้ไปพบปะเกษตรกร และพี่น้องชาวอุตสาหกรรมประมงปัตตานี ตลอดจนผู้นำศาสนา ที่มัสยิดโบราณ บาโงยลางา ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ผลจากการรับฟัง ได้รับทราบประเด็นปัญหาในพื้นที่ที่ต้องการให้เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ได้แก่
1.ปัญหาที่ดินทําการเกษตรที่เป็นเอกสาร สค.1 ไม่ได้เป็นเอกสารสิทธิ์
2.การส่งเสริมทุเรียนทรายขาวให้เป็นทุเรียนคุณภาพ สร้างอัตลักษณ์ให้กับ ต.ทรายขาว และเป็นจุดขาย
3.ปัญหาประมงพื้นบ้านและอุตสาหกรรมประมงที่ติดค้างมายาวนาน
4.การเพิ่มพื้นที่แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร, การจัดการน้ำท่วม, การช่วยเหลือยกระดับสินค้าเกษตร, ตลาดฮาลาล และขยายแปลงทุเรียนทรายขาว
@@ ชาวบ้านธารโตขอให้เร่งแก้ปัญหาช้างป่าบุกชุมชน
ต่อมา รมว.เกษตรฯ นำคณะทำงานลงพื้นที่พบปะกับประชาชน ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอธารโต จ.ยะลา เพื่อรับฟังข้อมูลสถานการณ์ด้านการเกษตรและประเด็นปัญหาในพื้นที่ จากตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางและสวนทุเรียน
ปัญหาที่ชาวบ้านยกขึ้นมาขอความช่วยเหลือ คือผลกระทบจากช้างป่าที่สร้างความเดือดร้อน ทั้งทำร้ายผู้คนและทำลายพืชผลทางการเกษตร
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมได้นำทีมครอบครัวกระทรวงเกษตรฯ ลงมาเพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่โดยตรง แล้วจะรีบนำไปแก้ไข และจะรายงานปัญหาทั้งหมดในพื้นที่ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อเดินหน้าทำงานอย่างบูรณาการ ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรให้กินดี อยู่ดี”
@@ หลบร้อนลงใต้? “ปัญหาแบ่งงาน 2 รมช.”
สำหรับผู้กองธรรมนัส ช่วงนี้กำลังมีปัญหาการเมืองจากกรณีการแบ่งงานให้กับ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 2 คน จาก 2 พรรคการเมือง คือ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ จากพรรคเพื่อไทย และ นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีข่าวว่า รมช.ทั้งสองคนไม่พอใจที่ ร.อ.ธรรมนัส แบ่งงานให้กำกับดูแลหน่วยงานเล็กๆ แค่ 4 หน่วยงาน ขณะที่ รมว.เกษตรฯ รวบกรมใหญ่ๆ และหน่วยงานที่มีสถานะเทียบเท่ากรม ซึ่งมีความสำคัญไปกำกับดูแลเองทั้งหมดถึง 11 หน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาการลงพื้นที่ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้พูดหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองอันสืบเนื่องจากปัญหาการแบ่งงานตามที่ปรากฏเป็นข่าว
@@ “ชวน” ควง “นิพนธ์” เกาะติดฟื้นฟูตลาดมูโนะ
อีกด้านหนึ่ง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยังตลาดมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูตลาดมูโนะ หลังเกิดเหตุการณ์โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิด เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา
สภาพพื้นที่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการรื้อถอนสภาพปรักหักพังของบ้านเรือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการนำดินมาถมปรับพื้นที่ ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าไปแล้วในระดับหนึ่ง
ต่อมานายชวน และนายนิพนธ์ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านมูโนะ โดยนายชวนได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับ นางโสรยา อาแซ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมูโนะ นำไปซ่อมแซมความเสียหายของอาคารห้องประชุมเอนกประสงค์ ห้องละหมาด ห้องครัว และหอพักนักเรียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซม แล้วเสร็จไปประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งได้พบปะชาวบ้าน เพื่อรับฟังปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ จากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด
นายนิพนธ์ กล่าวว่า นายชวนตั้งใจลงมาเยี่ยมชาวตลาดมูโนะ หลังจากที่ทางมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ได้นำเงินมาเยียวยาผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสครั้งหนึ่งแล้ว ตนก็จะพยายามดูแลการเยียวยาให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม และดูเกณฑ์ที่เป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ หากมองในแง่พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เหตุการณ์นี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะพัฒนาพื้นที่นี้ต่อไป ทำอย่างไรให้เป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ