35 ชั่วโมงผ่านไปจากเหตุโจมตี ตำรวจ อส.ยะรัง - บึ้มเสาไฟฟ้า ชาวบ้านยังเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้ ซ้ำน้ำประปาก็ไม่ไหล ขณะที่ จนท.คาดคนร้ายร่วมก่อเหตุ 15-20 คน มีการวางแผนมาอย่างดี โจมตี - ระเบิดเสาไฟแล้วหลบหนีไปกับความมืด ส่วน ด.ช.บาดเจ็บเหยื่อเหตุการณ์ โดนสะเก็ดระเบิดฝังในปอด ยังรักษาตัว รพ.ปัตตานี
จากกรณีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดและโจมตีเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนร่วม ตำรวจ - อส.ยะรัง ที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 28 ส.ค.66 จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 ราย และมีผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่และประชาชน รวม 8 ราย
ในเหตุการณ์วันเดียวกันนั้น ผู้ก่อเหตุรุนแรงยังได้ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าหักโค่นเสียหาย 3 แห่งในพื้นที่ 3 ตำบลของ อ.ยะรัง ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างมาตั้งแต่ในคืนเกิดเหตุ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้มายาวนานกว่า 35 ชั่วโมง
วันที่ 30 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่บริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลยะรัง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่า ทางเทศบาลได้หยุดให้บริการ เนื่องจากว่า อาคารของสำนักงานได้รับความเสียหายหนัก โดยมีรอยกระสุนปืนจำนวนมากอยู่บนผนังของอาคาร
นอกจากนี้กระจกของอาคารแตกเสียหายหลายจุด ส่วนภายในอาคารก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน รวมไปถึงห้องประชุมสภา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และพนักงานของเทศบาลฯ ต่างช่วยกันทำความสะอาด เพื่อให้อาคารสถานที่กลับมาใช้ให้บริการประชาชนได้ตามปกติเหมือนเดิม ซึ่งในส่วนของไฟฟ้าก็ยังคงใช้ไม่ได้ เช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงน้ำประปาด้วย
สำหรับเสาไฟฟ้าที่กลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดจนได้รับความเสียหายทั้ง 3 จุดนั้น ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เร่งเข้าซ่อมแซมในบางส่วนแล้ว ยังคงเหลือในพื้นที่ ต.ระแว้ง อ.ยะรัง ที่แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าขาดเสียหายอย่างหนักลงมาพาดอยู่บนถนนสายหลัก จำนวน 2 ต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดจราจรในจุดที่เสาไฟฟ้าล้มอยู่ โดยประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้
@@ วางแผนมาอย่างดี โจมตี - บึ้มเสาไฟ แล้วหลบหนีไปกับความมืด
ด้านความคืบหน้าของคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าของเทศบาลตำบลยะรัง รวมทั้งยังต้องรอผลพิสูจน์จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งปลอกกระสุนปืนของคนรร้ายที่พบในที่เกิดเหตุ ที่มีทั้งปลอกกระสุนอาวุธปืนสงครามและปลอกกระสุนอาวุธปืนพกสั้นเป็นจำนวนมาก
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่า มีประมาณ15 - 20 คน โดยพฤติกรรมคนร้ายได้แบ่งกำลังตามจุดต่าง ทำกันเป็นขบวนการ โดยจุดแรกคนร้ายลอบซุ่มโจมเจ้าหน้าที่ ด้านหน้าของเทศบาลตำบลยะรัง พร้อมทั้งใช้ระเบิดแบบขว้างเข้าใส่เจ้าหน้าที่ เมื่อคนร้ายก่อเหตุเสร็จ ก็ได้กระจายกำลังไปตามที่เสาไฟฟ้าทั้ง 3 จุด พร้อมจุดระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าล้มลงมาปิดกั้นเส้นทางสายต่างๆ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือและติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างสะดวก จนทำให้กลุ่มคนร้ายสามารถหลบหนีได้โดยอาศัยความมืดจากไฟฟ้าที่ดับลง ซึ่งถือว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีการวางแผนเป็นอย่างดี และใช้เวลาในการก่อเหตุไม่นานนัก
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงทำงานติดตามกลุ่มคนร้ายอย่างต่อเนื่อง และจะรู้ตัวกลุ่มคนร้ายทั้งหมดในไม่ช้านี้
@@ ด.ช.เหยื่อเหตุการณ์ สะเก็ดระเบิดฝังปอด
ด้านอาการของ ด.ช.ดานิช ฮาเฮาะ อายุ 3 ปี 7 เดือน หนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า บริเวณ ม.5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
เมื่อคืนวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยถูกสะเก็ดระเบิดฝังที่บริเวณปอด ซึ่งขณะนี้ ด.ช.ดานิช ยังคงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี โดยมีผู้เป็นพ่อ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่เท้าขวา นั่งเฝ้าลูกน้อยอยู่ด้วยความห่วงใย
พ่อของ ด.ช.ดานิช บอกว่า ครอบครัวเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่ใช้ชีวิตตามปกติประจำวัน ไม่เคยคาดคิดว่า จะต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ แม้ผมเองจะได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน แต่บาดแผลที่ได้รับคงเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดใจที่เห็นลูกต้องนอนเจ็บอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลแทนที่จะได้วิ่งร่าเริงตามประสาเด็กอยู่กับครอบครัวที่บ้าน
“ผู้ที่ก่อเหตุจะรู้หรือไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำในครั้งนี้ด้วย มันคุ้มกันไหมกับผลกระทบที่ตามมา จะมีอีกกี่ครอบครัวที่ต้องประสบชะตาแบบลูกของผม” พ่อของ ด.ช.ดานิช กล่าว
@@ แม่ทัพภาค 4 เยี่ยม เด็ก - ตำรวจบาดเจ็บ
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายก่อเหตุโจมตีกำลังเจ้าหน้าที่และระเบิดเสาไฟฟ้า ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยแม่ทัพภาค 4 ได้มอบกระเช้าของขวัญและเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย
1.ด.ช.ดานิช ฮาเฮาะ อายุ 3 ปี
2. ส.ต.ต.ธวัช เส็นฤทธิ์ อายุ 25 ปี บาดเจ็บที่ตา
3.ส.ต.ต.ธนทัต โชคมาก อายุ 22 ปี บาดเจ็บที่เท้า
4.ส.ต.ท.อิสมาแอ็น จิตหลัง อายุ 32 ปี บาดเจ็บที่เท้าและลำตัว
พล.ท.ศานติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีให้โดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด คาดว่าเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเชื่อมโยงแก่ผู้กระทำผิดในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอผลการพิสูจน์จากพยานหลักฐานก่อน
“ส่วนผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุที่มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ อ.ยะรัง อ.มายอ ต้องรอให้ผลพิสูจน์หลักฐานออกมาก่อนว่า มีผลเชื่อมโยงกับกลุ่มไหนบ้าง ซึ่งเราก็มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มต่างๆ ไว้แล้ว”
แม่ทัพภาค 4 กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ ควรหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่ในรูปแบบซ้ำๆ ตนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่อยากดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน แต่บางครั้งก็ต้องปรับเปลี่ยนการปฏิบัติของตนเอง ถ้าหากมีการทำในรูปแบบซ้ำๆ คนร้ายอาจจะรู้พฤติกรรมและอาจจะเข้าก่อเหตุได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการปรับรูปแบบกันใหม่ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก