นายกพร้อมเจ้าหน้าที่ อบต.มูโนะ ควงทนายเข้ายื่นคำให้การเพิ่มเติมกับตำรวจ หลัง “บิ๊กโจ๊ก” ให้ข่าวแจ้งข้อหาผิดมาตรา 157 ปมอนุญาตตั้งโกดังดอกไม้ไฟกลางชุมชนจนเกิดโศกนาฏกรรม ขณะที่ตำรวจงง ยังไม่มีหมายจับตามที่เป็นข่าว ด้านทนายความที่ปรึกษาสมาคม อบต. เตรียมขอสภาทนายช่วยเหลือฟ้องเรียกค่าเสียหายให้ชาวบ้าน นายกสมาคม อบต.ไม่ทน ออกแถลงการณ์ท้วงสีกากีปฏิบัติเกินกว่าเหตุ
จากกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีโกดังเก็บพลุ ดอกไม้ไฟระเบิด ในพื้นที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำนองว่าขณะนี้ได้ออกหมายจับ ดำเนินคดีในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่ อบต.มูโนะ 4 ราย ประกอบด้วย นายก อบต. ปลัด อบต. และเจ้าหน้าที่อื่นๆ อีก 2 นาย เนื่องจากเป็นหน่วยงานแรกที่ได้รับแจ้งว่า จะมีการก่อสร้างโกดังเก็บพลุขนาดใหญ่ในชุมชน แต่กลับเพิกเฉยและอนุญาตให้ก่อสร้าง ทั้งยังไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 5 หน่วยงานเข้าตรวจสอบ จึงทำให้ อบต.ถูกดำเนินคดีเพียงหน่วยงานเดียว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ อบต.ทั้ง 4 ราย ให้การรับสารภาพว่า อนุญาตให้สร้างโรงงานในพื้นที่จริงนั้น
ต่อมาวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.66 ที่ สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายณรงค์ ปานสุวรรณ ทนายความที่ปรึกษากฎหมายสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยทนายความอีก 3 คน ได้นำ ด.ต.รูสลาม อาแว นายก อบต.มูโนะ, น.ส.สุดสาย แดงดี ปลัด อบต.มูโนะ, น.ส.วิมล หนูรัตน์ หัวหน้าสำนักปลัด อบต.มูโนะ และ นายซูกิปลี เจะแล นายช่างโยธาชำนาญการ อบต.มูโนะ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.มูโนะ
ทั้ง 4 คนได้ร่วมกันยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นเอกสารต่อ ร.ต.อ.ฉัตรชัย ปิยนุสรณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.มูโนะ เพื่อส่งมอบให้ พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี เพื่อประกอบคำให้การต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้เรียกบุคคลทั้ง 4 เข้าให้ปากคำในฐานะเป็นพยานไปแล้ว
ด.ต.รูสลาม กล่าวกับ ร.ต.อ.ฉัตรชัย ระหว่างการยื่นคำให้การเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ชาวบ้านเสียขวัญและกำลังใจ ผู้นำของท้องถิ่นก็มาโดนกล่าวหาโดยไม่รู้สาเหตุ ตนจะขอดูแลประชาชน และจะทำอย่างไรก็ได้ให้ประชาชนได้อยู่ดีมีสุข และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิม ในเรื่องคดีค่อยกลับมาว่ากันภายหลัง
“คดีที่โดนเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก หลายคนยังไม่มีบ้านอยู่เลย หลายคนลำบากมาก ผมต้องดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านก่อน ถึงอย่างไรผมก็ต้องไปเรียกร้องสิทธิให้ชาวบ้านทุกคน ในฐานะที่ผมเป็นนายก อบต.ที่ชาวบ้านเลือกผมเป็นตัวแทน”
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ ด.ต.รูสลาม นายก อบต.มูโนะ พร้อมทนายความได้ยื่นคำให้การเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า คดีนี้ยังไม่มีการออกหมายจับตามข่าวที่ทุกคนทราบก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนยังงงกับข่าวที่ออกมา แต่ก็ยังคงทำตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย เพราะข่าวก็คือข่าว
@@ ทนายที่ปรึกษาสมาคม อบต. ยืนมือช่วย 4 เจ้าหน้าที่
วันเดียวกัน นายณรงค์ ปานสุวรรณ ทนายความ และที่ปรึกษากฎหมายของสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย พร้อมทนายความ รวม 4 คน เดินทางไปพบปะพูดคุยกับ ด.ต.รูสลาม อาแว นายก อบต.มูโนะ เพื่อให้คำปรึกษาและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ อบต.มูโนะ ที่ถูกกล่าวหา และรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้ถูกต้องตามระเบียบกฏหมาย ยื่นกับพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายณรงค์ กล่าวว่า ทาง สมาคม อบต.แห่งประเทศไทยได้มอบหมายให้ตนมาประสานกับ ทาง อบต.มูโนะ ในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมาย ซึ่งก็มีการประสานพูดคุยกันมาตลอด 27 วันหลังจากเกิดเหตุการณ์ ซึ่งในช่วงแรกๆ นายก อบต.ให้ความสำคัญกับเรื่องของประชาชนในพื้นที่ต้องมีที่อยู่ที่กินและประกอบอาชีพได้ปกติก่อน แล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
“ท่านบอกเรื่องของผมเรื่องเล็ก เรื่องประชาชนเรื่องใหญ่ ประชาชนต้องมีที่อยู่ที่กินก่อน กระทั่งความเดือดร้อนของประชาชนทุเลาเบาบางลงพอสมควร มีอาหารกิน 3 มื้อ บางส่วนก็ออกไปประกอบอาชีพได้ จึงได้มาคุยกันในเรื่องข้อกฎหมายความเสียหายทั้งหลายแหล่” ทนายความ ระบุ
@@ ขอสภาทนายช่วยเหลือฟ้องร้องค่าเสียหายให้ชาวบ้าน
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องข้อกฎหมายและข้อกล่าวหาต่างๆ นั้น จากการที่ได้รับมอบอำนาจเป็นที่ปรึกษากฎหมายของ อบต.มูโนะ ได้ดูข้อกฎหมายในเบื้องต้นแล้ว จึงให้จัดทำเอกสารยื่นต่อพนักงานสอบสวนเป็นคำให้การ โดยใช้เอกสารเป็นหลัก ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ อบต.มูโนะ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบครบถ้วนถูกต้องไม่มีส่วนไหนที่บกพร่องตามคำกล่าวอ้างเลย
“ตอนนี้ นายก อบต.มูโนะ มอบหมายให้ทนายชุดนี้ยื่นขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความในวันที่ 4 ก.ย. โดยจะยื่นขอความช่วยเหลือ 2 เรื่อง คือ 1.ช่วยดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายในชุมชน 600 กว่าหลังคาเรือนนี้ และ 2.ให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ อบต.ที่ถูกกล่าวโทษอย่างไม่เป็นธรรม”
ทนายความที่ปรึกษากฎหมายสมาคม อบต. กล่าวอีกว่า เมื่อใดที่ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องเป็นถังขยะอย่างนี้ กำลังใจในการพัฒนาท้องถิ่นจะเอาที่ไหนมา การกล่าวโทษครั้งนี้ถือว่ารุนแรงเกินไป จำเป็นอย่างยิ่งที่สมาคม อบต. และตนในฐานะที่ปรึกษากฎหมายจำเป็นต้องเข้ามาช่วยเหลือเรียกร้องสิทธิและความเป็นธรรมให้กับท้องถิ่นอย่างถูกต้องตามกระบวนการ
“ส่วนเจ้าหน้าที่ทำอะไรลงไป ก็เป็นหน้าที่ของแต่ละคน เราไม่ว่ากัน เราจะสู้บนกระบวนการยุติธรรม เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำวันนี้ เราจะปกป้องผู้บริสุทธิ์ ทาง อบต.มูโนะ นิ่งเฉยไม่ได้ จึงได้ขอให้สภาทนายความเข้ามาว่า ความเรื่องฟ้องคดี ทั้งแพ่งทั้งอาญาต่อผู้ประกอบการที่ทำละเมิดหรือประมาทเลินเล่อหรืออะไรก็แล้วแต่ จนเกิดความเสียหายมากขนาดนี้” ทนายความจากสมาคม อบต. ระบุ
@@ นายกสมาคม อบต.ออกแถลงการณ์ท้วงตำรวจไล่บี้ “ท้องถิ่น”
วันเดียวกัน รศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณีการถูกดำเนินคดีของ นายก อบต.มูโนะ และเจ้าหน้าที่ว่า 1.ตามที่ทางพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายก อบต.มูโนะ และทางนายก อบต.พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนกฎหมายแล้วนั้น ทางสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ขอตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุใดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปขอหมายจับอีก ทั้งที่ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และได้รับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2.หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องออกหมายจับ หรือต้องการควบคุมตัว ควรทำหมายเรียกตามขั้นตอน เพื่อให้ผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปพบ เนื่องจาก อบต.มูโนะและสถานีตำรวจอยู่ใกล้เคียงกัน
ดังนั้น สมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ซึ่งได้ทำ MOU ร่วมกับสมาคมสภาทนายความแห่งประเทศไทย ในการแก้ต่างให้กับท้องถิ่น จึงขอให้สภาทนายความช่วยพิจารณาการทำงานของตำรวจในครั้งนี้ว่าปฏิบัติตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ และเหตุผลการแจ้งผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ไปพร้อมกันนี้ เป็นภารกิจของตำรวจหรือเปล่า
ทั้งนี้การออกหมายจับและออกสื่อต่างๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของท้องถิ่นเสียหาย เพราะท้องถิ่นพวกเรายินดีปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอยู่แล้ว