ใกล้ครบ 1 เดือนโศกนาฏกรรมโกดังพลุระเบิดที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
ประเมินคร่าวๆ ณ เวลานี้จากการที่ “ทีมข่าว” ลงพื้นที่สดับตรับฟังเสียงจากผู้ประสบภัย พบว่า...
-เรื่องคดีความยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
-เรื่องคดีส่วยที่ทำให้นำวัตถุไวไฟล็อตมหึมาเก็บกลางชุมชนได้ ดูแล้วสิ้นหวัง
-เรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ยังไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้จริง
-การซ่อมแซมบ้านเรือน ร้านรวง เริ่มอืด ไม่คึกคักรวดเร็วเหมือนช่วงแรก
-การสื่อสารของภาครัฐกับชาวบ้าน ประชาชนผู้ประสบภัย ไม่ชัดเจน ไม่ทั่วถึง และไม่ละเอียดมากพอ ทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่เต็มไปด้วยคำถาม และไม่มีที่พึ่ง ไม่ได้รับคำตอบ ทำให้นอนไม่หลับ เครียดไม่หยุด
“ทีมข่าว” ลงพื้นที่สำรวจปัญหาของชาวมูโนะเพิ่มเติม ก่อนวาระครบรอบ 1 เดือนของเหตุการณ์ พบ 12 ปัญหาใหญ่ๆ ที่ชาวมูโนะต้องเจอ และเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ
1.ผู้ประสบภัยส่งเสียงบ่น บางคนโวยว่ารัฐเยียวยาช้า ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ จึงวอนขอรัฐบาลให้ส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางและมีอำนาจตัดสินใจร่วมดำเนินการ
2.ภาครัฐจ่ายเช็คให้ชาวบ้านแล้ว แต่มีเจ้าหน้าที่มาขอเช็คคืน
3.มีผู้นำบางคนขอบริจาคเพื่อชาวมูโนะแล้วนำไปให้ใคร มีการอ้างว่าไม่มีการปรึกษาหารือกับชาวมูโนะ ทำให้เกิดคำถามว่าบ้านที่จะสร้างจากเงินบริจาคจะเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร หรือสร้างให้แค่ในนามเท่านั้น แล้วให้เป็นสาธารณะ หรือของกลางของชุมชน แล้วภายหลังก็มีบางกลุ่มเข้าไปหาประโยชน์
4.ผู้ประสบภัยที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของและผู้เกี่ยวข้องกับโกดังพลุระเบิดจำนวนมาก เหตุใดคดียังไม่คืบหน้า และจะเอาผิดได้จริงหรือไม่
5.หลังชาวบ้านไปแจ้งความที่โรงพัก ก่อนกลับบ้าน มีเจ้าหน้าที่ใจดีให้เงินกลับมาคนละ 300 บาท ชาวบ้านงงว่าเป็นค่าอะไร เพื่ออะไร
6.สิ่งที่ชาวบ้านกังวล คือเมื่อไปแจ้งความกับตำรวจ ตำรวจทำแค่ลงบันทึกประจำวัน ประชาชนในฐานะผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่เป็นคดี ทั้งอาญาและแพ่ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าคดีถึงไหน อย่างไร ทิศทางจะเป็นอย่างไรต่อไป
7.ประชาชนที่เดือดร้อนไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนให้คำปรึกษาได้จริงๆ เลย ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่อยากเจอ และไม่คิดว่าจะเจอ อีกทั้งพวกตนก็ไม่ได้มีความผิด ได้เป็นคนก่อ
8.ชาวบ้านพร้อมรวมตัวไปแจ้งความดำเนินคดีในท้องที่ใกล้เคียง หลังมีความรู้สึกไม่ไว้ใจตำรวจท้องที่
9.ประชาชนผู้ประสบภัยวอนขอนักกฎหมาย หรือทนายอาสา ช่วยชี้แนะหาแนวทางช่วยให้ชาวบ้าน สามารถดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว และมีความหวัง
10.มีข้อร้องเรียนว่า เมื่อมีผู้ใจบุญบริจาคเงินหรือสิ่งของ มีการลงบันทึกข้อมูลไม่ตรงกับจำนวนเงินและสิ่งของที่ได้มา ทำให้เกิดคำถามว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ใจได้แค่ไหน อย่างไร
11.รถยนต์และทรัพย์สินอื่นที่เสียหายนอกจากอาคารบ้านเรือนที่กำลังมีการซ่อมแซม และเยียวยา ใครจะรับผิดชอบ
12.มีประเด็นลูกท่านหลานเธอ หรือพวกมีเส้น ได้เงินเยียวยาหรือเงินช่วยเหลือมากกว่าตาสีตาสา หรือชาวบ้านธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีเส้น บางคนเส้นใหญ่ บ้านเสียหายน้อย ได้แต่เงินช่วยเหลือมาก และได้เร็ว ได้ก่อน
ปัญหาทั้งหมดนี้มีการหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตามวงน้ำชาทั้งในหมู่บ้านมูโนะ และรอบนอก เสียงดังสะพัดแต่กลับไม่ไปถึงหูผู้มีอำนาจ