โศกนาฏกรรมโกดังเก็บพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ระเบิดในชุมชนตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 121 ราย แรงระเบิดส่งผลกระทบต่อบ้านและร้านรวงของประชาชนโดยรอบถึง 292 ครัวเรือนนั้น
ตั้งแต่หลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ มีเสียงวิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับการสะสางคดี และนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อเอาผิด ว่ายังล่าช้า และหวั่นเกรงว่าจะมีการช่วยเหลือให้รอดพ้นความรับผิดทางกฎหมาย
รวมทั้งเกิดคำถามเรื่องการจัดเก็บวัตถุอันตรายในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งควรมีมาตรการเข้มงวดมากกว่านี้ เพราะเป็นพื้นที่ความมั่นคง แต่เจ้าหน้าที่กลับปล่อยให้มีโกดังเก็บวัตถุไวไฟขนาดมหึมากลางชุมชน จนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เรื่องร้ายเช่นนี้ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และในพื้นที่อื่นๆ ยังพบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้อีกหรือไม่
@@ 7 ประเด็นคาใจ ระเบิดใหญ่แต่เรื่องเล็ก?
“ทีมข่าวอิศรา” เรียบเรียงประเด็นข้อสงสัยและข้อวิจารณ์ต่างๆ ตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์ สรุปได้ดังนี้
1.เจ้าของโกดังคือใคร บ้านอยู่ที่ไหนกันแน่ เป็นคนในพื้นที่หรือไม่
2.ร้านค้าที่เปิดที่ชุมชนมูโนะ เป็นร้านของใคร เช่าหรือได้มรดกตกทอดมา
3.เจ้าของร้านขายสินค้าที่ร้านเองหรือไม่ หรือให้ลูกจ้างขาย แล้วสร้างโกดังไว้เก็บของ
4.เจ้าของโกดังเก็บพลุ ทำธุรกิจอะไรบ้าง
5.โกดังเก็บพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง ยังมีที่อื่นอีกหรือไม่
6.เหตุใด “ตำรวจ” จึงทำคดีแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เช่น ไม่เอ่ยชื่อเจ้าของโกดังที่ชัดเจน (ช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ๆ) ไม่เปิดเผยให้ชัดว่าเจ้าของร้านไปท่องเที่ยวที่ไหน จะตามตัวมาได้เมื่อใด จนเกิดคำถามว่าหรือจะรอให้ตั้งหลัก ให้เรื่องเงียบกว่านี้ก่อน
7.เสียงจากชาวบ้านสะท้อนความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมานานแล้ว เพราะรู้เรื่องการเปิดโกดังเก็บวัตถุไวไฟกลางชุมชน แล้วเหตุใดภาครัฐจึงนิ่งเฉย
@@ ไขข้อมูล ใครคือเจ้าของโกดังมรณะ?
“ทีมข่าว” ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบว่า ร้านค้าและบ้านของเจ้าของร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ รวมถึงโกดังที่เกิดระเบิด มีเจ้าของชื่อ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ความหมายคือเป็นคนพื้นเพที่มูโนะนี่เอง
ส่วนอาคารพาณิชย์ 1 ชั้น เลขที่ 26/8 และ 26/9 เป็นร้านค้าตั้งอยู่ภายในตลาดมูโนะ ห่างจากโกดังเก็บพลุที่เกิดระเบิดประมาณ 200 เมตร เจ้าของชื่อ นายสมปอง ณะกุล อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ หมู่ 7 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ปิยะนุช เจ้าของร้านและโกดังที่ระเบิด ขณะเกิดเหตุทั้งสองเดินไปต่างจังหวัดพร้อมครอบครัว ตามข้อมูลจากฝั่งตำรวจ แต่จากการตรวจสอบโซเชียลมีเดียของคนทั้งคู่ พบว่าเดินทางไปมาเลเซีย
@@ โซเชียลเดือดทวงความรับผิดชอบ
สื่อสังคมออนไลน์ของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุโกดังพลุระเบิด รวมทั้งคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ได้พร้อมใจกันโพสต์ข้อความตามหาเจ้าของโกดังในเพจต่างๆ โดยระบุข้อมูลว่า สองผัวเมียในภาพ (เจ้าของโกดัง) ลูกเขยจีนมูโนะ สานต่อธุรกิจพ่อตา เตรียมส่งประทัดไปมาเลเซียฉลองวันชาติมาเลย์ (31 ส.ค.) แต่เกิดโศกนาฏกรรมเสียก่อน
บางข้อความโพสต์แจ้งเบาะแสว่า ตำรวจติดต่อเจ้าของโกดังได้แล้ว เจ้าของทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากพาครอบครัวไปเที่ยว คาดว่าอยู่มาเลเซีย
ขณะที่เพจ CSI LA โพสต์ภาพและข้อความว่า ตำรวจน้ำดีจากสุไหงโก-ลก บอกหลังไมค์ อยากเห็นคนที่เป็นเจ้าของได้รับโทษให้สาสม รวมทั้ง ผู้กำกับการ สภ.มูโนะ และนายอำเภอต้องรับผิดชอบ คนพวกนี้จะบอกไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะเป็นพื้นที่ตัวเอง แต่ปล่อยให้มีพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัด อยู่ในเขตชุมชน
เพจ CSI LA ยังอ้างข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายเงินนอกระบบเพื่อให้การทำธุรกิจมีความคล่องตัวด้วย แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ พร้อมเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลมาตรวจสอบ
@@ เจ้าของโกดังนัดมอบตัว 1 ส.ค. ตำรวจขู่เบี้ยวเจอจับ
ความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ตำรวจได้เชิญตัวเจ้าของโกดังมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว โดยเจ้าตัวนัดมาวันอังคารที่ 1 ส.ค. ถ้าไม่มาตำรวจจะออกหมายจับต่อไป
@@ เคยถูกค้นโกดังปี 59 ยึดของกลาง 30 ตัน
“ทีมข่าว” ได้ข้อมูลอีกว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.59 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้า 5 แห่ง โดย 2 แห่งแรกอยู่ในตัวอำเภอสุไหงโก-ลก ยึดพลุและดอกไม้ไฟได้ 28 ตัน
ส่วนอีก 3 จุดอยู่ในพื้นที่ ต.มูโนะ พบว่า 2 ใน 3 แห่งใช้ห้องเช่าเป็นโกดังเก็บสินค้า มี น.ส.ปรียานุช พึ่งวีระวัฒน์ เป็นเจ้าของ (ภรรยานายสมปอง) เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ถึง 30 ตัน
ขณะที่อีก 1 จุด เป็นอาคารพาณิชย์ชั้นเดียวในมูโนะเช่นกัน ยึดของกลางได้ 2 ตัน
ของกลางทั้งหมดรวมแล้ว 60 ตัน ตรวจสอบเส้นทางพบว่านำเข้าจากประเทศจีน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับเจ้าของสินค้าทั้ง 3 ราย ในข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ ครอบครองดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และนำดอกไม้เพลิงเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
@@ ชาวบ้านแฉหลังเกิดเหตุมีส่งรถขนสินค้าออกตอนตี 3
ชาวบ้าวมูโนะรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า เชื่อว่ามีสินค้าบางส่วนถูกเคลื่อนย้ายออกไปตอนประมาณตี 3 ของคืนเกิดเหตุ โดยมีการส่งรถขน ต้องเข้าใจว่าโกดังที่ระเบิดไม่ได้มีแห่งเดียว โดยครอบครัวของเจ้าของโกดัง ยังมีร้านค้าและโกดังแห่งอื่นในชุมชนอีก อยู่ห่างจากโกดังที่ระเบิด 150-200 เมตร (ดูรายละเอียดจากแผนที่)
จากแผนที่ซึ่งจัดทำโดยฝ่ายความมั่นคง พบว่า ร้านจิรวัฒน์พาณิชย์ ซึ่งเป็นร้านของภรรยานายสมปอง และเป็นชาวมูโนะ อาศัยมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโก-ลก ตรงข้ามเป็นโกดังอีก 1 แห่ง เป็นเจ้าของเดียวกัน จุดนี้อยู่ห่างจากโกดังที่ระเบิดประมาณ 150 เมตร และเป็นจุดนี้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง เพิ่มอีก 1 ตัน ส่วนอีกด้านของแม่น้ำเป็นฝั่งมาเลเซีย
@@ ชี้เบาะแสแหล่งเก็บพลุใกล้ชายแดนมาเลย์
ชาวบ้านรายหนึ่งยังให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวอิศรา” ด้วยว่า โกดังเก็บพลุในพื้นที่ใกล้ชายแดนมาเลเซีย ยังมีอีกแห่งหนึ่งที่ด่านนอก (หมายถึง ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา) เป็นโกดังขนาดใหญ่ เก็บสินค้าได้จำนวนมากเช่นเดียวกับที่ตลาดมูโนะ และเป็นจุดพักสินค้าก่อนส่งมาเลเซียเช่นกัน แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นเจ้าของเดียวกับที่มูโนะหรือไม่
@@ 7 ข้อสังเกตระเบิดโกดังพลุ ใครลอยตัว-ใครลอยนวล?
“ทีมข่าวอิศรา” ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งก่อนและหลังเกิดระเบิดที่โกดังเก็บพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง
1.จากการตรวจสอบข้อมูลระดับพื้นที่ ยังไม่แน่ชัดว่าจะเอาผิดเจ้าของโกดังได้ โดยเฉพาะหากมีใบอนุญาต หรือได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรให้ครอบครองพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิงจำนวนมากได้ เพื่อค้าขายและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
2.ส่วนการกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้เกิดการระเบิด และมีผู้เสียชีวิต ต้องมีหลักฐานยืนยันว่า เจ้าของโกดังเป็นคนประมาท หรือช่างต่อเติมโกดังประมาทกันแน่
3.สิ่งที่จะพิสูจน์ความจริงทั้งหมด คือ ใบอนุญาตมีหรือไม่ หน่วยงานใดเป็นผู้ออก ออกแล้วเคยมาตรวจสอบหรือไม่ เจ้าหน้าที่บกพร่อง ปล่อยปละละเลยหรือเปล่า เพราะมีปากคำจากชาวบ้านยืนยันว่า คนในชุมชนไม่พอใจที่มีการนำวัตถุไวไฟจำนวนมากมาเก็บในชุมชน ใกล้กับตลาด
4.การปฏิบัติงานของตำรวจเกี่ยวกับการติดตามตัวเจ้าของโกดัง ล่าช้า และดูเกรงใจเกินไปหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ตัวมาสอบปากคำ ทั้งๆ ที่มีความสูญเสียเยอะมาก และเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้ว 3 วัน
5.การอนุญาตให้ครอบครองวัตถุไวไฟ ประเภท พลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประกาศใช้กฎหมายพิเศษ ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะต้องได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก กอ.รมน.
6.พื้นที่พิเศษที่อยู่ภายใต้อำนาจ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า คือ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ อำเภอจะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี
7.ข่าวที่ว่ามีโกดังเก็บพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟอีกจำนวนมาก ในพื้นที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา นั้น พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ความมั่นคงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่จะประกาศกฎอัยการศึกด้วยหรือไม่ ต้องตรวจสอบต่อไป เพราะเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับมาเลเซีย