บทสรุป “ประธานสภาคนกลาง” ที่พรรคประชาชาติต้องเล่นบท “เสียสละ” ยอมให้ “อ.วันนอร์” รับตำแหน่งประธานสภา สมัยที่ 2 นั้น
งานนี้พรรคประชาชาติเหมือนจะเป็น “ฝ่ายที่ได้ประโยชน์” เพราะได้เก้าอี้ตัวใหญ่อย่าง “ประมุขนิติบัญญัติ”
แต่ตำแหน่งนี้ จริงๆ แล้วคือ...
- อำนาจไม่เยอะ และไม่ใช่อำนาจบริหาร เทียบกับรัฐมนตรีไม่ได้
- มีเกียรติ แต่ไม่มีผลประโยชน์ ที่ระบุแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่เข้าไปดำรงตำแหน่ง หวังผลประโยชน์ในรูปตัวเงินหรือทรัพย์สิน แต่การเป็นนักการเมืองย่อมอยากเข้าไปคุมฝ่ายบริหารมากกว่า เพราะสามารถแปลงนโยบายที่หาเสียงไว้ให้เป็นจริงได้ นำไปสู่การปฏิบัติได้ ถือว่าสร้างผลงานเป็นรูปธรรม
ฉะนั้น เมื่อพรรคประชาชาติได้ตำแหน่งประธานสภา จึงต้องถือว่า “ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร” แถมยังเสีย 2 เด้ง กล่าวคือ
เด้งแรก - ในฐานะพรรคอันดับ 3 ของ “ว่าที่รัฐบาล” พรรคประชาชาติได้ตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 2 ตามโควต้าอยู่แล้ว โดยไม่รวมตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ที่เป็นฝ่ายบริหาร
ที่ผ่านมาพรรควางตัว นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา น้องชายแท้ๆ ของ อ.วันนอร์ นั่งเป็นรองประธานสภาคนที่ 2 ซึ่งก็ถือว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะสม เพราะในสภาชุดที่แล้วเป็นประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ
เส้นทางเติบโตในสายนิติบัญญัติ เริ่มจาก ส.ส. => กมธ. => ประธาน กมธ. => รองประธานสภา => ประธานสภา ย่อมถือว่าเหมาะสม และพรรคไม่เสียโควต้ารัฐมนตรี
โดย “รัฐมนตรีว่าการ” น่าจะตกเป็นของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค โดยจะควบรองนายกฯด้วย
แต่เมื่อพรรคได้ประธานสภาไปแล้ว อาจมีการเสนอให้ลดระดับเก้าอี้ร้ฐมนตรีลง เหลือแค่ “ช่วยว่าการ” หรือไม่ งานนี้ถ้าเกิดขึ้นจริง ถือว่าเสียหายหนัก
เด้งสอง - อ.วันนอร์ จะลาออกจาก ส.ส.ไม่ได้ เพราะเป็นประธานสภา ทำให้ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 3 คือ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ขยับขึ้นเป็น ส.ส.ไม่ได้
นายสมบูรณ์เป็นใคร และเป็นตัวแทนของใคร “ทีมข่าวอิศรา” เคยเปิดประเด็นนี้เอาไว้แล้ว เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฐานเสียงสำคัญจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เลย แต่เป็นที่รู้กันดีว่างานนี้จะต้องมีคนลาออก เพื่อให้ นายสมบูรณ์ ได้ขยับขึ้นเป็น ส.ส. เมื่อ อ.วันนอร์ ลาออกไม่ได้ หวยย่อมตกอยู่ที่ พ.ต.อ.ทวี
เหตุนี้หาก พ.ต.อ.ทวี ได้แค่เก้าอี้ “รัฐมนตรีช่วยว่าการ” จะคุ้มหรือไม่หากต้องออกจาก ส.ส. และ พ.ต.อ.ทวี ก็ทำหน้าที่ ส.ส.ได้ดีในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ยิ่งไปกว่านั้น ส.ส.พรรคอีกหลายคน ซึ่งเป็น ส.ส.มาหลายสมัย ก็ไม่ได้ขยับได้ตำแหน่ง
ผิดกับสูตรการเมืองเดิมก่อนเสียสละ กล่าวคือ หาก นายซูการ์โน ได้ขยับเป็นรองประธานสภาคนที่ 2 ส.ส.คนอื่นก็จะมีลุ้นได้ขยับตาม ก็จะลดความอึดอัดลงได้
นี่คือผลกระทบ 2 เด้งของพรรคประชาชาติ ซึ่งต้องบอกว่าหากเป็นจริงตามนี้ ก็ต้องยอมรับงานนี้ว่าพรรคประชาชาติ “เสียสละ” แบบสุดๆ จริงๆ