ภายหลัง “ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา” เปิดแผนถอนทหารชายแดนใต้ ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติการของกองทัพภาคที่ 4 และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งวางเอาไว้ และดำเนินการเป็นลำดับอยู่ก่อนแล้ว
โดยตามแผน หากไม่มีอะไรผิดพลาด จะถอนทหารหลักทั้งหมดพ้นชายแดนใต้ รวมถึงยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทุกอำเภอ (จาก 33 อำเภอของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ภายในปี 2570 ท่ามกลางการประกาศนโยบายกดดันจาก “ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่” ตั้งแต่ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ให้เข้าใจได้ว่าต้องถอนทหารทันที ยกเลิกกฎหมายพิเศษทันที
ปรากฏว่าล่าสุด พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ออกมาแจกแจงแนวทางการปรับลดอัตรากำลังของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เรียกว่า “แนวทางในการปรับลดอัตรากำลังของกอ.รมน.ภาค 4 สน.”
“อย่างที่พี่น้องประชาชนได้รับทราบสถานการณ์ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 19 ปี โดยในช่วงแรก ตั้งแต่ปี 2547-2553 ได้ใช้กำลังทหารเป็นกำลังหลัก รวมทั้งได้เพิ่มเติมกำลังทหาร จากกองทัพภาคที่ 1-3 เข้าควบคุมสถานการณ์และยุติสภาพปัญหา มุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้าใจ ปรับทุกข์ ผูกมิตร และช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ จนสามารถสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง และมีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยลำดับ
จนกระทั่งเข้าสู่ระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ได้มุ่งเน้นเสริมสร้างประสิทธิภาพให้กำลังฝ่ายพลเรือน และกำลังตำรวจ ด้วยการเพิ่มอัตรากำลังตำรวจ 1,700 นาย จัดตั้งเป็นหมวดปฏิบัติการพิเศษ (มว.นปพ.) ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมือง ทั้ง 37 อำเภอ และการเพิ่มอัตรากำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) กว่า 7,000 นาย จัดตั้งเป็นชุดคุ้มครองตำบล 164 ชุด ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้านและชุมชน โดยปฏิบัติงานร่วมกับกำลังภาคประชาชน เพื่อช่วยดูแลพื้นที่แทนกำลังทหารที่ได้ทยอยถอนกำลังกลับที่ตั้งปกติ
โดยเฉพาะทหารจากกองทัพภาคที่ 1-3 ได้ถอนกำลังกลับทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2559-2560 รวมทั้งได้ทยอยปรับลดอัตรากำลังจากหน่วยต่างๆ ในโครงสร้างของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในทุกๆ ปี ส่งผลให้สามารถปรับลดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ลงได้แล้วกว่า 20,000 นาย คงเหลืออัตรากำลังทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ในปัจจุบัน 49,995 อัตรา”
พล.ท.ศานติ กล่าวอีกว่า กองทัพภาคที่ 4 และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังได้เตรียมแผนการปรับลดอัตรากำลังในห้วง 5 ปีต่อไป ด้วยการทยอยปรับลดกำลังทหารพรานจากกองทัพภาคที่ 1-3 กลับที่ตั้งปกติทั้งหมด ควบคู่ไปกับการปรับลดพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้หมดสิ้นไปภายในปี 2570 สำหรับกำลังของกองทัพภาคที่ 4 และกำลังในส่วนอื่นๆ ก็จะทยอยปรับลดหรือปรับเปลี่ยนภารกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ตามห้วงระยะเวลา
“หากสถานการณ์พัฒนาเข้าสู่สภาวะปกติ กลุ่มผู้ก่อเหตุหมดไป กำลังประจำถิ่นมีความเข้มแข็ง ผ่านการประเมิน พร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เมื่อนั้นความจำเป็นในการใช้กำลังทหารก็จะค่อยๆ หมดสิ้นไปในที่สุด” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว